ก้าวข้ามท้องทะเลที่กั้นกลางระหว่าง 2 เขตเวลากับ Mido Ocean Star GMT

ก้าวข้ามท้องทะเลที่กั้นกลางระหว่าง 2 เขตเวลากับ Mido Ocean Star GMT

ก้าวข้ามท้องทะเลที่กั้นกลางระหว่าง 2 เขตเวลากับ Mido Ocean Star GMT
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับนักเดินทางที่มีความฝันในการเดินทางข้ามท้องทะเล  Mido ได้เติมเต็มทางเลือกใหม่ในคอลเลกชั่นOcean Star ด้วยการติดตั้งฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์อย่างมากในการเดินทางอย่าง GMT ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างกันของ 2 เขตเวลา นั่นคือ เวลาของเมืองที่คุณเดินทางจากมา (Home Time) และเวลาของสถานที่ที่คุณเดินทางมาถึง (Local Time) โดยการผสมผสานระหว่างหน้าปัดสีดำที่มีโทนสีและลวดลายที่ดูนุ่มละมุนเหมือนกำมะหยี่กับขอบตัวเรือนสีน้ำเงินเงาแวววาวที่ผลิตจากเซรามิก ทำให้สัมผัสที่ได้จาก Ocean Star GMT มีการตัดกันอย่างลงตัวและโดดเด่น และเมื่อพลิกไปที่ด้านหลังของเรือนเวลาซึ่งมีการติดตั้งกลไก Caliber80 ที่สามารถให้พลังงานสำรองสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง คุณจะพบกับตัวบ่งบอกเขตเวลาที่ Mido ได้สลักลงไปบนฝาหลัง สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นGMT ของตัวนาฬิกานั้นถือว่าง่ายสุดๆ และสามารถมอบความอิสระในการใช้งานมากขึ้นเป็น 2 เท่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานใต้ท้องทะเล หรือว่าจะอยู่บนข้อมือของผู้ที่มีอะดรีนาลีนแห่งการออกเดินทางสูบฉีดอยู่ในร่างกาย

ณ ตำแหน่งที่อยู่ด้านใต้สุดของทวีปยุโรป นี่คือ ที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามอย่างหนึ่ง มันถูกสร้างขึ้นเพื่อท้าทายพลังแรงแห่งพายุ และเปรียบเสมือนเป็นผู้พิทักษ์และสอดส่องการเดินทางบนพื้นที่ของช่องแคบยิบรอลตาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องมาตั้งแต่ปี 1841 นั่นคือ ประภาคาร Europa Point Lighthouse ลำแสงพลังแรงของไฟสามารถช่วยให้บรรดาเหล่ากะลาสีเรือสามารถหาร่องน้ำในการเดินเรือที่เหมาะสมท่ามกลางสภาพอันแปรปรวนของจุดบรรจบระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับคอลเลกชั่น Ocean Star ที่ได้รับการสร้างสรรค์โดย Mido มาตั้งแต่ปี 1941 สามารถสะท้อนถึงบุคลิกที่มีอยู่ในตัว โดยเฉพาะความทนทาน เช่นเดียวกับประภาคารแห่งนี้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนำทางมนุษย์ให้เดินทางได้อย่างปลอดภัยในทุกครั้งที่พวกเขามีแรงผลักดันให้ออกไปผจญภัยครั้งใหม่ในโลกแห่งท้องทะเล

Ocean Star GMT ได้ผ่านการพิสูจน์ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นในการทำงานที่โดดเด่น ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณความสมบูรณ์แบบในการออกแบบที่ช่วยเพิ่มความความง่ายในการมองเห็น ตรงนี้ถือว่ามีส่วนช่วยอย่างมากในการเพิ่มความสะดวกในการอ่านค่าเวลา ซึ่ง Mido ได้มีการปรับเปลี่ยนชุดเข็มในตัวนาฬิกาให้สอดคล้องกับฟังก์ชั่นทำงานของตัวนาฬิกา นอกเหนือจากเข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาทีแล้ว ยังมีเข็มแสดงเวลาที่ 2 ซึ่งมีการเคลือบเงาด้วยโทนสีน้ำเงิน โดยเข็มชุดนี้จะทำหน้าที่ร่วมกับสเกลบอกเวลาในแบบ 24 ชั่วโมงที่อยู่ด้านในของหน้าปัด เพื่อบอกเวลาที่ 2 โดยบนสเกลนั้นจะมีการแบ่งโซนเวลาในช่วงกลางวันและกลางคืนอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นโซนเวลากลางวันจะมากับพื้นสีน้ำเงิน และถ้าเป็นโซนเวลากลางคืนก็จะมากับชุดโทนสีดำ ด้วยประสิทธิภาพของสารเรืองแสง Super-LumiNova® ที่ถูกแต้มลงบนทั้งชุดเข็มและหลักชั่วโมงจึงช่วยทำให้ผู้สวมใส่สามารถรับทราบเวลาที่เกิดขึ้นแม้จะอยู่ในที่มืด เช่น ใต้ท้องทะเลลึกก็ตาม อีกทั้งยังมีการเจาะช่องสำหรับแสดงวันที่เอาไว้ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนหน้าปัด

ขอบตัวเรือนแบบหมุนทางเดียวที่ผลิตจากเซรามิกของ Ocean Star GMT ยังจะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถรับทราบเวลาที่ถูกใช้ไปแม้ว่าจะเป็นเวลาก่อนที่จะเริ่มมีการจับเวลาในการผจญภัยครั้งใหม่ หรือเวลาที่ถูกใช้ไปในระหว่างอยู่ใต้น้ำ ขอบตัวเรือนถูกออกแบบอย่างใส่ใจทั้งในเรื่องของการใช้งานอย่างสะดวก และจากการใช้เซรามิกที่มีความทนทานต่อการใช้งานสูงนั้นยังช่วยทำให้ลดปัญหาเรื่องการขูดขีดและการสวมใส่ได้อีกด้วย ตัวนาฬิกาสามารถกันน้ำได้สูงสุด 20 บาร์ และมาพร้อมกับกระจกแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารกันสะท้อนแสงทั้งสองด้าน ซึ่งทั้งหมดช่วยทำให้นาฬิกาสปอร์ตรุ่นนี้มีความเหมาะสมอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานในการสำรวจทางทะเล และที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือเทคโนโลยีในการผลิตสายที่มาพร้อมกับเส้นสีฟ้าที่สอดรับกับสีของเข็ม GMT และนั่นทำให้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้สวมใส่ขณะที่นาฬิการุ่นนี้อยู่บนข้อมือ

นอกจากนั้น Ocean Star GMT ยังมีทางเลือกให้คุณ กับสายสตีลพร้อมกับเข็ม GMT สีส้ม และตัวเรือนสตีลแบบทูโทน และเคลือบ PVD สี Rose Gold

รายละเอียดทางเทคนิค

กลไก : กลไกออโตเมติก Mido Caliber 80 (พัฒนาจากเครื่อง ETA  C07.661 ) ขนาด 11 นิ้ว , เส้นผ่านศูนย์กลาง 25.60  มม., สูง 5.77 มม., อัญมณีสังเคราะห์ 25 เม็ด ความถี่  21,600 ครั้ง/ชั่วโมง, กลไกตกแต่ง Elaboré-grade ยึดด้วยสกรูว์สีน้ำเงิน โรเตอร์ตกแต่งด้วยลาย Geneva Stripes และโลโก้ Mido, ฟังก์ชั่น HMsD (หน้าปัดย่อยจับวินาที ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา) และเวลา GMT 24 ชั่วโมง, สำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง

ตัวเรือน : สเตนเลสสตีลขัดเงาและขัดด้าน เส้นผ่าศูนย์กลาง 44 มม. สองชิ้นประกบกัน ขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินหมุนได้ทิศทางเดียว  กระจกแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารกันสะท้อนทั้งสองด้าน กลไกตกแต่งด้วยลวดลาย Elaboré-grade ฝาหลังสลักไทม์โซนต่างๆ และหมายเลขนาฬิกา เม็ดมะยมขันเกลียวและมีปุ่มกดตั้งค่าเวลา กันน้ำได้ลึก 20 บาร์ (200 เมตร) 

สายรัดข้อมือ : สายผ้าสีน้ำเงิน เย็บเดินเส้นด้วยด้ายสีขาวบริเวณที่ต่อกับขาสาย พร้อมตัวล็อกสเตนเลสสตีลขัดเงาและขัดด้าน

หน้าปัด : สีดำ อินเด็กซ์เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®  สีขาว เข็มวินาทีแบบเดินเรียบฉาบปลายด้วยสีน้ำเงิน และคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®  สีขาว ช่องวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ไทม์โซนที่สองแสดงผ่านขอบวงตัวเลขสีดำและน้ำเงิน

เข็มนาฬิกา : เข็มชั่วโมงและนาทีมีรูปทรงแบบไดมอนด์คัต พร้อมกับส่วนนูนตรงกลาง และมีการเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®  สีขาว โดยเข็มวินาทีมีรูปทรงแบบไดมอนด์คัต พร้อมปลายเข็มที่เคลือบด้วยสีน้ำเงินและมีการเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®  สีขาว ส่วนเข็ม GMT มีการเคลือบเงาด้วยโทนสีน้ำเงิน พร้อมแต้มสารเรืองแสง
Super-LumiNova®  สีขาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook