ไขข้อสงสัย! แบรนด์ UNIQLO(ยูนิโคล) กับ GU(จียู) ต่างกันตรงไหน?
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/me/0/ud/13/66597/uniqlo.jpgไขข้อสงสัย! แบรนด์ UNIQLO(ยูนิโคล) กับ GU(จียู) ต่างกันตรงไหน?

    ไขข้อสงสัย! แบรนด์ UNIQLO(ยูนิโคล) กับ GU(จียู) ต่างกันตรงไหน?

    2020-05-12T08:08:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    เพื่อนๆ เคยสังเกตมั้ยเวลาไปเดินซื้อของที่ญี่ปุ่นเจอช็อป UNIQLO(ยูนิโคล) ที่ไหนก็มักจะเจอช็อป GU(จียู) อยู่ในตึกเดียวกันอยู่บ่อยครั้ง แบรนด์ UNIQLO อาจเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วสำหรับคนไทย เพราะที่ไทยก็มีช็อปหลายสิบสาขา แต่สำหรับแบรนด์ GU นั้นหลายคนอาจไม่คุ้นตาสักเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ว่า GU ก็เป็นแบรนด์พี่น้องกับ UNIQLO แถมราคาไม่แพง มีหลากหลายสไตล์ให้เลือกอีกด้วย

    เนื่องจากเป็นแบรนด์พี่น้องกัน ทำให้ UNIQLO กับ GU ดูเหมือนมีความคล้ายกัน แต่จริงๆ แล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บทความนี้เลยจะมาไขข้อสงสัยของหลายคนที่ว่า แบรนด์ UNIQLO(ยูนิโคล) กับ GU(จียู) ต่างกันตรงไหน? หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว เพื่อนๆ จะได้ทราบความแตกต่างของสองแบรนด์นี้และสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าของแต่ละแบรนด์ให้เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของเราได้

    ทั้ง UNIQLO และ GU ต่างก็เป็นบริษัทลูกของบริษัท Fast Retailing 

    ทั้ง UNIQLO และ GU เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือของบริษัท Fast Retailing ของญี่ปุ่นมีผู้บริหารคือ นายทาดาชิ ยานาอิ ดังนั้นจึงเหมือนเป็นแบรนด์พี่น้องกัน

    UNIQLO(ยูนิโคล่)
    UNIQLO ย่อมาจากคำว่า UNIQUE CLOTHING WAREHOUSE ซึ่งมีความหมายว่าเป็นแบรนด์ Casual Fashion ที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากที่อื่นโดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้อย่างอิสระ UNIQLO เป็นแบรนด์ที่มีความเฉพาะตัวสูงและได้รับความนิยมอย่างสูงมาโดยตลอด หลังจากเปิดสาขาแรกเมื่อปี 1984 ที่จังหวัดฮิโรชิม่า ก็ขยายสาขาไปทั่วประเทศญี่ปุ่น และยังขยายออกไปยังต่างประเทศทั้งอังกฤษ จีน สหรัฐฯ และไทย มากกว่า 1,000 สาขา

    GU(จียู)
    GU มีแบรนด์คอนเซ็ปเก๋ๆ คือ “Fashion with More Freedom,” แปลเป็นไทยว่า “อิสระในการเปลี่ยนตัวเอง” สไตล์ของ GU จะเป็นลักษณะ Fast Fashion คือแต่ละคอลเล็กชั่นจะมีความนำเทรนด์และวงจรสั้น โดยจำหน่ายในราคาย่อมเยา เปิดสาขาแรกที่จังหวัดชิบะเมื่อปี 2006 จากนั้นก็ขยายสาขาไปทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยตอนนี้ในต่างประเทศมีสาขาอยู่ที่ จีน ไต้หวัน และฮ่องกง และจะเข้าประเทศไทยในอีกไม่ช้านี้ ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 440 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2020)

    ความต่างของกลุ่มเป้าหมาย

    กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ UNIQLO
    ไม่จำกัดกลุ่มเป้าหมายหลัก สามารถเข้าได้กับทุกกลุ่มอายุตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ

    กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ GU
    แบรนด์ GU มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือวัยรุ่น ช่วงอายุตั้งแต่ 10 ปี ถึงอายุไม่เกิน 40 ปี

    ความต่างของราคา

    เสื้อผ้าของ GU จะราคาถูกกว่าของ UNIQLO

    ความต่างของคุณภาพ

    คุณภาพของ UNIQLO
    UNIQLO จะผลิตสินค้าที่สามารถใช้ได้นาน ยิ่งราคาแพงนั่นหมายถึงใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีในการผลิต

    คุณภาพของ GU
    GU จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามากนัก ใช้การตัดคอสสิ้นเปลืองอย่างดีไซน์หรือวัตถุดิบ แล้วมาโฟกัสที่ราคา(ถูก)เพื่อให้วัยรุ่นมีกำลังจ่ายได้

    ความต่างของดีไซน์

    ดีไซน์ของ UNIQLO
    สินค้า UNIQLO เน้นดีไซน์ที่มีความเรียบๆ สามารถใช้ได้เป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้เมื่อปี 2009 ได้เซ็นสัญญากับ Jil Sander ดีไซน์เนอร์ชื่อดังก้องโลกชาวเยอรมัน ปล่อยสินค้าไลน์ที่ทำร่วมกันชื่อว่า +J และให้ควบคุมดูแลดีไซน์ทุกไอเท็มของ UNIQLO จนถึงปี 2011 อีกด้วย

    ดีไซน์ของ GU
    GU เน้นสินค้าที่นำเทรนด์ ปล่อยสินค้าใหม่เป็นวงจรสั้นๆ คือทุก 2 สัปดาห์ ดังนั้นสินค้าที่วางขายในชอปมักจะเป็นสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในช่วงนั้นๆ

    สรุปความต่างหลักๆ ของ UNIQLO กับ GU
    UNIQLO: แบรนด์คุณภาพสูงที่ใส่ได้ทุกเพศทุกวัย
    GU: แบรนด์นำเทรนด์ราคาย่อมเยา สำหรับวัยรุ่น 10 ปีถึงวัยไม่เกิน 40 ปี

    สรุปเนื้อหาจาก: gimon-sukkiri, fastretailing