7 วิธี “เติมเชื้อไฟ” ในการทำงาน
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/me/0/ud/13/65925/working.jpg7 วิธี “เติมเชื้อไฟ” ในการทำงาน

    7 วิธี “เติมเชื้อไฟ” ในการทำงาน

    2020-04-15T12:38:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    เคยรู้สึกขี้เกียจลุกจากเตียงไปทำงานไหม เวลาทำงานก็คอยมองแต่นาฬิกา ความสนุกจากการทำงานที่ชอบก็น้อยลงเรื่อย ๆ ไม่เหลือความท้าทาย หรือแรงกระตุ้นเหมือนช่วงแรก ๆ ที่ทำงาน อาการแบบนี้อาจเป็นเพราะเรากำลัง “หมดไฟในการทำงาน” ซึ่งปล่อยไว้ไม่ดีแน่ เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานในระยะยาวได้ Tonkit360 จึงมีวิธีเติมเชื้อไฟในการทำงานมาฝากทุกคน

    1. จัดสรร Work-Life Balance ให้ชัดเจน
    การทำงานที่ดีต้องมีความสมดุลระหว่างเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม คนที่ไม่แบ่งแยกเรื่องงานกับชีวิตส่วนตัวเลยจะทำให้เหนื่อยหรือเบื่อง่ายกว่าปกติ เพราะการทำงานที่หนักมากเกินไปทำให้เราเหนื่อยล้าและเกิดความเครียดสะสม แต่ถ้าหากพักผ่อนมากไปก็ทำให้เราขี้เกียจได้เช่นกัน ทางที่ดีคือจัดสรรเวลาให้เหมาะสม เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยแล้วจะได้มีแรงไปทำงานต่อ

    2. เข้านอน-ตื่นนอนให้เป็นเวลา
    สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราติดเตียงในเช้าวันจันทร์ก็คือ การโต้รุ่งคืนวันเสาร์แล้วตื่นสายในวันอาทิตย์ ลองปรับเปลี่ยนนาฬิกาชีวิตให้เป็นเหมือนเดิมทุกวันดู นอนเวลาเดิมตื่นเวลาเดิมเหมือนตอนไปทำงานให้เคยชิน อาจตื่นสายได้กว่าวันธรรมดานิดหน่อย แต่พยายามอย่าลากยาวไปถึงเที่ยงถึงบ่าย เพื่อไม่ให้ร่างกายรู้สึกสบายจนไม่อยากจะทำอะไร เช้าวันจันทร์จะได้ไม่ขี้เกียจลุกไปทำงานนั่นเอง

    3. ตั้งเป้าหมายง่าย ๆ ที่เห็นผลได้ไว
    “เงินเดือนออกฉันจะซื้อรองเท้าใหม่ กระเป๋าใหม่ บลาๆๆๆ” ลองใช้เป้าหมายเหล่านี้เป็นแรงกระตุ้นให้อยากทำงานดู เพราะเห็นผลได้ไวเดือนต่อเดือน เงินคืองานและงานคือเงิน อยากได้เงินเยอะ ๆ ก็ต้องทำงานเยอะ ๆ ความอยากได้อยากมีนี่แหละที่จะช่วยปลุกไฟให้อยากทำงาน จะได้เอาเงินไปปรนเปรอความสุขให้ตัวเอง

    4. ให้รางวัลตัวเอง
    เอาเงินที่หามาได้ไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง ไปเอ็นจอยช้อปปิ้ง ปาร์ตี้กับแก๊งเพื่อน ดูหนังเรื่องโปรด หาของอร่อยกิน พาตัวเองไปเที่ยวที่ไกล ๆ เพื่อเป็นการเติมพลังชีวิต เพราะในช่วงเวลาที่เราได้พักผ่อน เราจะปลดเปลื้องจากพันธนาการทุกอย่าง สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความสดชื่นเบิกบานใจ พร้อมเริ่มต้นวันทำงานด้วยพลังแห่งความสุข

    5. หาแรงบันดาลใจใหม่
    หาอะไรใหม่ ๆ ที่หลุดจากชีวิตที่จำเจทำ โดยเริ่มต้นจากสิ่งที่ตัวเองอยากรู้หรือสนใจก็ได้ เพราะวันหยุด 1 วันนั้นก็มีเวลามากพอที่จะหาความรู้ใหม่ ๆ มาเพิ่มพูนให้ตัวเอง และยังได้สกิลใหม่ ๆ ไปใช้ต่อยอดในการทำงาน การได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนก็เหมือนกับการก้าวออกจาก Comfort Zone ที่เราคุ้นเคย ไปสู่อะไรที่มันท้าทาย ให้ได้ตื่นเต้นกับเรื่องใหม่บ้างก็กระตุ้นสมองได้ดีเหมือนกัน

    6. คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
    การได้พูดคุยกับคนที่เก่ง ๆ หรือคนที่แอคทีฟในการทำงานมาก ๆ จะช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับชีวิตได้ แล้วก็ยังสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานได้ด้วย เพราะคนเหล่านี้จะมีทริคดี ๆ หรือประสบการณ์ชีวิตเจ๋ง ๆ ที่ช่วยให้เรามีไอเดียใหม่มาปรับใช้ในชีวิต ได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่ต่างจากโลกการทำงานเดิม ซึ่งจะส่งผลไปถึงศักยภาพในการทำงานที่ดีขึ้น

    7. ดูแลตัวเอง
    ลองหาวิธีออกกำลังกายที่ถนัด ทำแล้วไม่ฝืนตัวเองดู เพราะการได้ออกแรงบ้างก็มีส่วนช่วยให้เราสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น หนีจากการนั่งหน้าคอมนาน ๆ ที่ทำให้เสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรมและทำให้เราขี้เกียจไปบ้าง นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยให้มีสมาธิ และนอนหลับได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และก็อย่าลืมกินอาหารที่มีประโยชน์บ้าง อย่าตามใจปากแค่ของที่ตัวเองชอบเท่านั้น