10 พฤติกรรมที่ทำแล้วต้องกลับมาสระผม

10 พฤติกรรมที่ทำแล้วต้องกลับมาสระผม

10 พฤติกรรมที่ทำแล้วต้องกลับมาสระผม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บางครั้งกิจกรรมบางอย่างที่คุณกำลังทำอยู่คุณอาจกำลังคิดว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผมของคุณ แต่ช้าก่อน นั่นอาจเป็นการคิดที่ผิดเพราะกิจกรรมบางอย่างที่คุณออกไปทำมาทั้งวันอาจต้องเจอกับมลภาวะมากมายและนั่นจะส่งผลโดยตรงต่อเส้นผมของคุณ เราจึงขอแนะนำให้คุณรีบสระผมหลังจากที่ทำกิจกรรมต่อไปนี้ค่ะ....

1. เที่ยวผับ เพราะผมที่เหนอะหนะจากเหงื่อหลายปี๊บที่เกิดจากการเต้นอย่างสุดมันนั้น จะสะสมฝุ่นละอองและความสกปรกได้ดีกว่าปกติอีกเป็นเท่าตัว แถมยังต้องเจอกับควันบุหรี่ที่ทำร้ายผมอย่างแรงเข้าไปด้วย

2. ดูคอนเสิร์ต โดยเฉพาะคอนเสิร์ตที่ต้องกระโดดกันจนเหงื่อชุ่ม

3. เล่นกีฬา ทั้งเปียกทั้งเหม็น แล้วอย่างนี้จะไม่สระอีกหรือ

4. เล่นกีฬาทางน้ำ แหล่งน้ำต่างๆ นั้นถึงจะดูสะอาด แต่จริงๆ แล้วเต็มไปด้วยความสกปรก และเชื้อโรคที่มองไม่เห็น ส่วนน้ำตามสระที่ผสมคลอรีนนั้น ยิ่งต้องรีบกลับมาสระผม เพราะจะกัดและทำลายผมให้แห้งกร้านและเสียได้ ถ้าหาแชมพูกำจัดคลอรีนโดยเฉพาะมาใช้ได้ด้วยก็จะดีมาก

5. เดินช็อปปิ้งที่ตลาดนัดกลางแจ้ง โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน เพราะตลาดนัดก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่รวมฝุ่นละอองและความสกปรกไว้มากมาย

6. จัดทรงด้วยผลิตภัณฑ์แต่งผม ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมทั้งหลายนั้นใช้แล้วต้องสระออกให้สะอาดทันทีที่ทำได้ เพราะถ้าปล่อยไว้นานๆ สารเคมีในผลิตภัณฑ์ เหงื่อไคล และสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ จะทำปฏิกิริยากันจนทำให้ผมและหนังศีรษะมีปัญหาได้

7. เมื่อผมเริ่มมันเยิ้มและจับตัวเป็นก้อนๆ ต้องรีบสระเพื่อกำจัดน้ำมันส่วนเกินที่อุดตันตามหนังศีรษะออกไปให้เร็วที่สุด

8. เมื่อผมเริ่มมีกลิ่นเหม็น ซึ่งเป็นสัญญาณแห่งความสกปรกที่มาจากน้ำมัน บวกกับคราบเหงื่อ และความสกปรกที่ตกค้างบนหัวมานาน

9. เมื่อเริ่มรู้สึกคันหัวอย่างรุนแรง โดยไม่ได้เป็นรังแค นั่นแสดงว่าหนังศีรษะเริ่มระคายเคืองจากความมันและสิ่งสกปรก เป็นสัญญาณเตือนว่าสระผมได้แล้ว

10. เมื่อไม่ได้สระผมมาเกิน 2 วัน ก็ได้ฤกษ์สระแล้วละมั้ง

DIY : Do It Yourself ทำความสะอาดผมอย่างถูกวิธี

ขั้นตอน
1. ใช้น้ำชโลมศีรษะให้เปียก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับสภาพผมก่อนสระ อีกทั้งยังเป็นการล้างความสกปรกออกไปในเบื้องต้นด้วย

2. เทแชมพูลงบนฝ่ามือประมาณเท่าเหรียญ 10 บาทสักสองเหรียญ

3. ขยี้แชมพูบนฝ่ามือสักครู่จนเกิดฟอง

4. นำฟองแชมพูไปขยี้เบาๆ ให้ทั่วผม และใช้ปลายนิ้วทั้งห้ากดนวดเบาๆ ให้ทั่วศรีษะสักห้านาที

5. ล้างฟองแชมพูออกจนรู้สึกว่าสะอาดหมดจด ผมไม่ลื่น

6. เทครีมนวดลงบนฝ่ามือประมาณเท่าเหรียญ 10 บาทสักสองเหรียญ แล้วนำไปลูบผมให้ทั่วได้เลย

7. ใช้มือลูบผมจากโคนถึงปลาย เพื่อให้ครีมนวดซึมทั่วผมทั้งเส้น โดนเน้นที่ปลายเป็นพิเศษ

8. ใช้ปลายนิ้วทั้งห้าออกแรงกดนวดเบาๆ ให้ทั่วหัว

9. ทิ้งครีมนวดไว้สัก 1 - 2 นาที แล้วล้างออกจนรู้สึกว่าสะอาดหมดจดไม่เกาะกันเป็นก้อน

10. ใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่มค่อยๆ ซับน้ำ แล้วเช็ดเบาๆ ให้ผมแห้งพอหมาด

11. เป่าผมให้แห้งด้วยดรายร์ ( ถ้าที่บ้านไม่มีดรายร์ อนุโลมให้ใช้พัดลมเป่าผมให้แห้งแทนได้ ) โดยเริ่มจากการปรับดรายร์เป่าผมให้เป็นลมเย็นหรือร้อนปานกลาง

12. เป่าจากโคนสู่ปลายผมโดยเว้นระยะห่างระหว่างดรายร์กับผมประมาณ 15 เซนติเมตร หรือราวๆ 1 คืบ เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป และหมั่นส่ายดรายร์ไปมาเพื่อกระจายความร้อน

X DDT : Don't Do That! ขอร้อง!...อย่าทำแบบนี้กับผมเลย

- อย่าเทแชมพูในปริมาณที่มากเกินไป เพราะนอกจากจะเปลืองแล้ว ยังทำให้ล้างออกยาก และถ้าตกค้าง ก็อาจกัดหนังศีรษะจนแพ้หรือเป็นรังแคได้

- อย่าเทแชมพูลงบนผมโดยตรง หรือเทลงบนผมแห้ง เพราะเนื้อแชมพูข้นๆ อาจเกาะผมและหนังศรีษะ ทำให้ล้างออกยาก และมีเนื้อชมพูตกค้าง

- อย่าใช้เล็บขูดหรือเก่าหนังศีรษะอย่างมันสะใจจนเกินไป เพราะจะขูดหนังศรีษะจนเป็นแผล และเป็นการกระตุ้นรังแคด้วย

- อย่าทิ้งแชมพูหรือครีมนวดผมไว้นานเกิน 5 นาที โดยไม่ล้างออก เพราะผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตมาสำหรับการหมักผม ถ้าทิ้งไว้นานๆ อาจจะทำร้ายหนังศีรษะจนแพ้ ทำให้ผมร่วงหรือเป็นรังแคได้

- อย่าขยี้ผมเวลาเช็ด เพราะการขยี้จะทำให้ผมหลุดร่วงและพันกันได้ง่าย แถมยังทำให้ผมยุ่งไม่เป็นทรงเมื่อแห้งด้วย ทางที่ดีควรลูบจากบนลงล่าง ในทิศทางเดียวกันกับเส้นผม

- อย่าจ่อดรายร์เป่าผมใกล้หนังศีรษะเกินไป และอย่าจ่อที่จุดเดียวนานๆ หรือใช้ปากกระบอกดรายร์สัมผัสกับผมโดยตรง เพราะความร้อนจะทำลายผมให้แห้งกร้านและเสียได้ในที่สุด

อันตรายจากการนอนทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่
ใครที่ชอบสระผมแล้วนอนเลยทั้งผมเปียกๆ อย่าคิดว่าดีละ เพราะความชื้นเป็นบ่อเกิดของเชื้อราบนหนังศีรษะ แ ถมตื่นมาผมก็จะเป็นเป็ด ( ปลายผมหักงอและงอนไม่ทิ้งตัว ) ทำให้จัดทรงยาก อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเป็นหวัดอีกด้วย ( โดยเฉพาะในรายที่นอนห้องแอร์ )

นอกจากนั้น หมอนที่อับชื้นยังเหมาะมากสำหรับการเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งจะทำให้หมอนมีกลิ่นและเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้นจึงควรเอาหมอนออกไปผึ่งแดดบ่อยๆ ด้วย

 

..................................................................................................................

ติดตามทุกเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชาย รวบรวมข้อมูลเรื่อง แฟชั่นผู้ชาย ทรงผมผู้ชาย น้ำหอมผู้ชาย
พร้อมด้วยหลากหลายบทความเกี่ยวกับ สุขภาพ สาวสวย และที่เที่ยวกลางคืนได้ที่นี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook