การงาน ความฝัน ความสุข “อาร์ม กรกันต์”
เคยได้ยินคำว่า ชอบอะไร ให้ไปทางนั้นให้สุดไหมครับ เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินผ่านหูมาบ้าง หากเราค้นตัวเองเจอยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะนั่นอาจหมายถึงเราจะประสบความสำเร็จหรือไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าคนอื่น
“อาร์ม กรกันต์” ผู้ชายที่ชอบสร้างความสุข รักการแสดง ชอบงานที่สร้างสรรค์ เขาค่อยๆ เดินตามความฝัน และวันนี้เขาตามฝันสำเร็จได้ทำงานหลากหลายในวงการบันเทิง พร้อมให้ความสุขกับผู้ชมอย่างที่ตั้งใจไว้เมื่อวัยเยาว์
คุณมีความสามารถหลากหลายชอบบทบาทไหนที่สุด
เป็นคำถามที่ถูกถามมากที่สุด และก็ตอบยากมากเลย เพราะว่าผมมีความสุขในทุกสิ่งที่ผมทำ และผมว่างานที่ผมทำมันมีจุดที่คล้ายกัน หรือ คาบเกี่ยวกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดง นักร้อง พิธีกร ดีเจ นักร้อง มันคือการทำให้คนดูมีความสุข พอเราทำและเห็นว่าเขามีความสุข เขาอิน เราก็มีความสุข ผมว่ามันเท่าๆ กันนะ
คุณค้นตัวเองเจอได้อย่างไรว่างานที่ให้ความสุข คือ สิ่งที่คุณชื่นชอบ
มันเริ่มมาตั้งแต่เด็กเลย เริ่มจริงๆ ร้องเพลงก่อน ผมไปร้องเพลงในร้านคาราโอเกะตอนกินข้าวกับพ่อแม่ เพลงสุนทราภรณ์ ด้วยความที่เป็นเด็ก ร้องเพลงสุนทราภรณ์ คนในร้านที่มากิน เฮ้ย เด็กผู้ชายคนนี้มันยังเด็กอยู่เลย อายุแค่ 8 ขวบ เขาก็เลยมองว่ายังเล็กอยู่เลยขึ้นไปร้องเพลง “พรานทะเล” เขาก็เลยเอ็นดู เราก็เลยมีความสุข และก็เป็นจุดเริ่มต้น ที่เราเริ่มเรียนร้องเพลง เริ่มจับระนาด เริ่มเล่นดนตรี เริ่มขึ้นเวทีแสดง
อย่างนี้ครอบครัวก็ต้องเห็นแววและสนับสนุนคุณมาตั้งแต่ต้น
มากครับ โชคดีที่ครอบครัวสนับสนุนทุกทาง เห็นแบบนี้ผ่านมาหมดแล้วนะครับ เล่นเปียโนก็เล่น ไวโอลินก็เล่น อยากเรียนอะไรไปเรียนเลยลูก ขออย่างเดียวขอให้เต็มที่ แล้วก็ไปค้นหาว่าใช่ไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่ก็รีบเปลี่ยนนะ แต่ก็จะมีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง เครื่องดนตรีที่พ่อแม่ซื้อให้ ถ้าไม่เล่นต้องขายทิ้งนะ ห้ามเก็บไว้ เพราะเราไม่ใช่ครอบครัวที่มีเงิน อย่างไวโอลิน เปียโน เราก็ซื้อมือสองไม่เล่นก็ต้องขายทิ้ง
ความฝันวัยเด็ก จำได้ไหมว่าคุณอยากเป็นอะไร
อยากชนะการประกวดร้องเพลงเท่านั้นเลยครับ ก็เลยเป็นนักร้องเดินสายอยู่พักหนึ่ง ไปตามเวทีตามสวนสาธารณะ สินค้าอะไรไปหมดที่มีการประกวดการร้องเพลง แต่เราไม่เก่งลูกทุ่งไม่อย่างนั้นก็ตามไปประกวดในวัดแน่นอน
ในวัยเด็กคุณจัดการกับความความพ่ายแพ้อย่างไร
เราก็จะวางเป้าหมายใหม่ คุณพ่อคุณแม่ก็แปลงเป็นพลังงานกลับมา คุยกันว่าทำไมเราถึงผิดพลาด ทำอะไรพลาดไป สมัยนั้นบางทีเวทีเล็กมันก็จะมีเซ็ทอัพขึ้นมาใครชนะ 1 2 3 เราก็เรียนรู้ มันก็มีแบบนี้ เราก็อย่าคาดหวังมาก มันก็เป็นเวทีให้เราขึ้นไปสร้างความสุข คุณพ่อ คุณแม่ คุณครู สอนดีมาก ก็ได้ตรงนั้นซึมซับมา
การที่คุณเรียนร้องเพลงมีผลต่ออาชีพปัจจุบันไหม
มีมากนะ เพราะพูดถึงทักษะการใช้เสียง เราได้ความมั่นใจในการขึ้นไปอยู่ในที่ชุมชน เจอหน้าคนเยอะๆ ความตื่นเต้นน้อยลงเชื่อไหมตอนเด็กผมต้องกินยาเพื่อควบคุมตัวเอง ตื่นเต้นจนสะอึก มันเกรงไปหมด ต้องกินยาให้หัวใจไม่เต้นแรง บ้ามากเลย ย้อนไปยังขำ นอกจากนั้นสิ่งที่สอนเรา มันสอนให้เรารู้แพ้รู้ชนะ เหมือนกีฬาเลย เราจะได้เรียนรู้ความเจ็บปวด มันได้เรียนรู้ที่จะแพ้เป็น
บทบาทผู้ประกาศข่าวเข้ามาได้อย่างไง
เกิดจากช่วงที่ผม เรียนจบใหม่ๆ อาชีพเดียวเลยตอนนั้น คือ นักแสดงละครเวที ผมมีช่วงที่ซ้อม ช่วงที่แสดง ช่วงที่ว่าง ก็เลยคิดว่าช่วงที่ว่าง เราควรจะทำอะไรอีกไหม พอดีตอนนั้นมีเพื่อนทำงานในเวิร์คพอยท์พอดี ดิจิตอลทีวีเพิ่งเปิด ก็เลยไปลองแคสต์ผู้ประกาศข่าวดู ซึ่งก็ได้งานเลย
อ่านข่าวตอนนั้นไม่เคยฝึก ไม่เคยไปเทรนที่ไหนมาก่อน ไปแคสหลายที่ก็ไม่ได้ มาได้ที่เวิร์คพอยท์ พอได้ปุ๊ป เอาล่ะสิงานเข้า ไม่เคยทำ และเขาก็ไม่ได้มีเทรนอะไรให้ ดีเดย์ อีก 1 เดือนมาเริ่มงาน
วันแรกที่อ่านจำได้ว่าสั่นมาก อำเภอแม่สรวย อ่านผิดเป็น แม่-สะ-หรวย พอโปรดิวเซอร์มาบอก ก็เรียนรู้จากความผิดพลาดเก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ การทำงานเราต้องตรวจสอบตัวเอง บางทีมันไม่ดีนะ เราต้องถูก เราต้องเป๊ะ จนบางครั้งเรากลายเป็นหุ่นยนต์ไปเลย ก็มีฟีดแบคว่าเราต้องปรับ ต้องผ่อนคลายขึ้น ทุกวันนี้ 5 ปีก็ยังค่อยๆ เรียนรู้อยู่เลย
เข้าไปเป็นหน้ากากระฆังใน The Mask Singer ได้ยังไง
ด้วยความที่จับพลัดจับผลูนี่แหละครับ ด้วยความที่เป็นซีซั่น 1 คนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก อาจจะหาคิวดารายาก ก็เลยตกที่ผม ได้มาอยู่ซีซั่นแรก เป็นเทปที่ 2 แล้วก็ผลดีเกินคาด ยอดฟอลโลเวอร์พุ่งเยอะมาก งงมาก แต่มันเป็นความโชคดีจริงๆ ที่เรามาจังหวะนั้น คนรู้จักเรามากขึ้น การงานก็ดีเลย มีโอกาสได้ไปทำอะไรอีกเยอะ เป็นพลังให้เราอยู่ในวงการนี้ มันต้องมีทั้งช่วงอยู่ห้องร้องเพลงให้แมวฟังที่บ้าน กับช่วงที่เต็มอิ่มเต็มที่
หลายคนบอกว่าคุณทำทุกอย่างแต่ไม่สุดสักทาง
ผมกำลังค้นหานะ และผมก็ยังคิดกับตัวเองตลอดว่าแล้วอะไรที่เราจะยึดไปเป็นแกนหลัก แต่ตอนนี้ยังสนุกกับการทำอะไรหลายๆ อย่าง ก็ไม่เห็นเป็นไร เคยไปปรึกษาผู้ใหญ่ เขาก็บอกว่าอย่าไปมองแบบนั้น อย่าไปมองสิว่าทำไมเราทำไม่ดี เป็นเป็ด ให้มองมุมกลับน้อยคนที่จะทำแบบเราได้ ให้มองเป็นข้อดี และพยายามทำให้ดีทุกด้าน
ใครที่คิดถึงเสียงร้องและลีลาการแสดงละครเวที ของ “อาร์ม กรกันต์” สามารถติดตามได้ในละครเวที “โหมโรง เดอะมิวสิคัล” ที่จะเริ่มการแสดงโชว์ในระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2561 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน งานนี้หนุ่มอาร์มบอกว่าเตรียมพร้อมทั้งเสียงร้อง และการแสดงที่รับรองว่าตรึงผู้ชมให้นั่งติดเก้าอี้ได้แน่นอน