ทำลายตัวขี้เกียจหลังหยุดสงกรานต์ด้วย 3 TED Talk สุดเจ๋ง ที่จะกระตุ้นอารมณ์การทำงานกลับมาอีกครั้ง
เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่แบบไทยที่คนทำงานก็ได้ใช้โอกาสนี้หยุดพักผ่อนสิริรวมก็ราวๆ 4 วัน ขณะเดียวกันการหยุดยาวก็อาจทำให้คนทำงานหลายๆ คน เกิดสภาวะ 'ขี้เกียจ' ขึ้นมา
การที่จะเกิดความรู้สึกขี้เกียจ ขึ้นมานั้น หากว่ากันตามตรงแล้ว ก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เนื่องจากการมีวันหยุดเข้ามา ทำให้สิ่งที่เป็นกิจวัตรประจำวันอย่างการทำงานถูกแทรกแซง จนกระทั่งตารางการใช้ชีวิตเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาชนิดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงตอนนี้ก็ควรค่าแก่เวลาแล้วที่จะเราจะต้องนำพาตัวเองกลับมาเข้ามาสู่วงจรการทำงานอีกครั้ง โดยตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ทำลายตัวขี้เกียจ และกระตุ้นอารมณ์การทำงานให้กลับมาอีกครั้งด้วย TED Talk งานพูดที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในเวลานี้
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักมักคุ้นกับ TED มากนัก ต้องขอเท้าความก่อนว่า งาน TED เป็นงานพูดที่จะเปิดโอกาสให้สปีกเกอร์ (Speaker) ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ขึ้นมาบนเวที พร้อมกับนำเสนอหัวข้อ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ กระตุ้นให้ผู้ฟังได้พบเจอกับสิ่งที่น่าสนใจ ซึ่งหัวข้อที่จะหยิบยกมาพูดนั้น สามารถหยิบเรื่องใดก็ได้ ไล่ตั้งแต่การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี การศึกษา และที่เราอยากให้คุณได้ลองฟังนั่นคือหัวข้อเกี่ยวกับการทำงาน ผ่านสปีกเกอร์ที่น่าสนใจ 3 คน ได้แก่ Eduardo Briceno, Dan Pink และ Tony Robbins ครับ
เริ่มที่คนแรก Eduardo Briceno เขาได้นำเสนอหัวข้อที่มีชื่อว่า How to get better at the things you care about? (จะทำให้สิ่งที่สำคัญสำหรับคุณดีขึ้นได้อย่างไร?) หลักใหญ่ใจความของหัวข้อนี้ Briceno ได้ตั้งคำถามขึ้นมาว่า คนทำงานจำนวนมากมีความรู้สึกว่า การทำงานอย่างหนักในชั่วโมงทำงาน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว มันก็ไม่มีอะไรที่ดีขึ้นตอบแทนกลับมา ซึ่ง Briceno ยืนยันว่า ปัญหาดังกล่าว คนทำงานจำนวนมากก็เจอเรื่องทำนองนี้ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ทางออกของปัญหานี้ ใช่ว่าจะไม่มี โดย Briceno เสนอว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีคิดและมุมมอง
Briceno อธิบายเพิ่มเติมตรงนี้ว่า เราควรแบ่งโซนชีวิตออกเป็น 2 โซน นั่นคือ Performance Zone หรือที่เรียกว่า โซนทำงาน และ Learning Zone หรือโซนแห่งการเรียนรู้ โดยที่โซนทั้งสองประเภทนี้ จะทำงานอย่างเกื้อหนุนกัน เขาได้ยกตัวอย่างว่า ศิลปินระดับโลกอย่างบียอนเซ่ (Beyoncé) ก็แบ่งชีวิตการทำงานเช่นนี้ การออกทัวร์คอนเสิร์ตของบียอนเซ่ คือ โซนทำงาน แต่เมื่อคอนเสิร์ตจบลง เธอจะมุ่งสมาธิไปที่โซนการเรียนรู้ ผ่านการศึกษาจากวิดีโอที่ทีมงานเป็นคนเก็บภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ เพื่อหาจุดที่บกพร่อง แล้วนำข้อบกพร่องไปปรับปรุงในการแสดงคอนเสิร์ตครั้งต่อไป ซึ่ง Briceno ย้ำจุดนี้ว่า ถ้าอยากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อย่าลืมที่จะเรียนรู้ให้มากขึ้นนั่นเอง
คนต่อมาที่เป็นสปีกเกอร์ที่พูดถึงการทำงานได้อย่างน่าสนใจ นั่นก็คือ Dan Pink เขาได้นำเสนอหัวข้อที่มีชื่อว่า The Puzzle of Motivation (เรื่องสลับซับซ้อนของแรงจูงใจ) ในงาน TEDGlobal เมื่อปี 2009 ความน่าสนใจในหัวข้อนี้ เป็นหัวข้อที่เชื่อว่า คนทำงานหลายคนน่าจะเคยได้ยิน ซึ่งก็คือ เรื่องของการให้รางวัลล่อใจคนทำงาน
Dan Pink ยืนยันตามแนวคิดของเขาว่า การให้ของรางวัลจะด้วยเงิน หรือโบนัสใดๆ ก็ตามแต่ เป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปเสียแล้ว โดย Pink นำเสนอว่า การทำงานของคนในคริสต์ศตวรรษที่ 21 จะต้องมาจากภายใน นั่นคือ การให้คนทำงานได้ทำงานตามแพสชันของตัวเอง การทำงานที่มีความเชี่ยวชาญ ให้อิสระในกรอบการทำงาน ตรงนี้ต่างหากที่จะช่วยคนทำงานมีแรงจูงใจที่ดีต่อการทำงาน และจะส่งผลดีต่อองค์กรมากกว่า การยึดติดการสร้างแรงจูงใจแบบเดิมๆ ซึ่ง Pink การันตีว่า แนวคิดของเขาได้ผ่านการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จึงหาใช่เรื่องยกเมฆที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ไร้การอ้างอิง
พร้อมกันนี้ Pink ยังสำทับด้วยว่า ข้อเท็จจริงที่เขานำเสนอในการพูดในหัวข้อนี้นั้น เป็นสิ่งที่นักสังคมศาสตร์ทราบและรับรู้มานานแล้วอีกด้วย
สุดท้ายที่ขอแนะนำ เป็นหัวข้อที่มีชื่อว่า Why we do what we do (ทำไมเราทำในสิ่งที่เราทำ) ของไลฟ์โค้ช (Life Coach) คนดัง Tony Robbins ที่เป็นโค้ชส่วนตัวของนักเทนนิสก้องโลกอย่างเซเรน่า วิลเลียมส์
แม้ว่าหัวข้อนี้จะเป็นหัวข้อเก่า ซึ่งเจ้าตัวเคยพูดไว้ตั้งแต่ปี 2006 แต่กาลเวลาที่ผ่านไป 12 ปี ก็มิได้บ่อนเซาะให้ความน่าสนใจของหัวข้อนี้ลดน้อยลงไป
Tony Robbins นำเสนอว่า ในความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนจะมีสิ่งที่เรียกว่า Invisible Forces (พลังที่มองไม่เห็น) เพียงแต่รูปแบบจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งความแตกต่างที่ว่านี้ ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า 'อาชีพ' ขึ้นมา ทั้งนี้ Tony Robbins ได้เน้นย้ำเพิ่มเติมด้วยว่า ถ้าหากเราสามารถจับสัญญาณของพลังได้เมื่อไหร่ ก็จะยิ่งค้นพบตัวเองได้เร็วขึ้นเท่านั้น
นอกเหนือจากนี้ ในการอภิปรายหัวข้อในช่วงท้าย เขาได้สรุปสิ่งที่เป็นแรงจูงใจในการกระทำต่างๆ ของมนุษย์ แบ่งเป็น 6 ประการ ได้แก่ ความแน่นอน, ความหลากหลาย, ความพิเศษ, ความสัมพันธ์ และความรัก, การเติบโต และการตอบแทน ซึ่งความหมายทั้งหกประการนั้น มันคืออะไรบ้าง Tony Robbins ได้อธิบายสิ่งเหล่านั้นไว้ในวิดีโอ ที่คุณสามารถรับชมมันได้ด้านล่างนี้ครับ
สำหรับวิดีโอ TED Talk ของสปีกเกอร์ทั้งสามคน คุณผู้อ่านสามารถรับชมด้วยคำบรรยายไทย โดยเลือกกดที่ Subtitle แล้วเลือกภาษาไทยครับ