กัปตัน นภสูร ชยันตรดิลก นักบินเครื่องบินโบอิ้ง 747 แห่งการบินไทย

กัปตัน นภสูร ชยันตรดิลก นักบินเครื่องบินโบอิ้ง 747 แห่งการบินไทย

กัปตัน นภสูร ชยันตรดิลก นักบินเครื่องบินโบอิ้ง 747 แห่งการบินไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส่งต่อคอนเนคชั่นจากฉบับที่แล้ว มาถึงอีกหนึ่งอาชีพที่หลาย ๆ คนเคยใฝ่ฝันในวัยเยาว์ว่าอยากขับเครื่องบิน และทำงานที่ได้รับเกียรติอย่าง “กัปตัน นภสูร ชยันตรดิลก” นักบินเครื่องบินโบอิ้ง 747 แห่งการบินไทย ที่จะมาพูดคุยถึงการทำงานบนเครื่องบิน และให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบิน 

ตอนนี้คุณนภสูร ชยันตรดิลก กำลังทำอะไรอยู่บ้าง?

เริ่มต้นเลยผมเป็นทหารอากาศครับ แล้วก็ออกมาทำงานให้กับทางการบินไทย ปัจจุบันก็เป็นกัปตันของเครื่องโบอิ้ง 747 ส่วนมากก็จะบินทางฝั่งยุโรป พวกมิวนิค, แฟรงเฟิร์ท, มิลาน แล้วก็ฝั่งญี่ปุ่น โตเกียว, คันไซ ประมาณนี้ครับ ส่วนใหญ่ก็จะใช้ชีวิตไปกับการเดินทาง นอกจากนี้ผมก็ร่วมทุนกับเพื่อน ๆ เปิดบริษัท CTL Biomass ทำเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกส่งให้โรงไฟฟ้าทางญี่ปุ่นและเกาหลีครับ

เส้นทางการมาเป็นกัปตันของการบินไทย?

แรกเริ่มเลยผมจบทหารอากาศครับ แล้วก็นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 35 เลือกเหล่าเป็นทหารอากาศ จบมาแรก ๆ ก็ทำงานกับทางกองทัพอยู่ช่วงหนึ่งครับ ประมาณ 3 ปี แล้วถึงลาออกมาเป็นนักบินให้กับทางการบินไทย แต่ตอนที่ทำงานกับกองทัพผมไม่ได้เป็นนักบินนะครับ ตอนนั้นเป็นเนวิเกเตอร์ จริง ๆ แล้วผมว่านักเรียนทหารอากาศทุกคนต่างมีความฝันอยากเป็นนักบินอยู่แล้วครับ เพราะตอนเรียนก็จะมีการฝึกอยู่ตลอด เหมือนกับปลูกฝังให้เรามีความพร้อมสำหรับการเป็นนักบินด้วยส่วนหนึ่ง สำหรับผมส่วนตัวแล้วชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ

คำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากเป็นนักบิน?

คือตอนที่ผมเริ่มสนใจการเป็นนักบินเนี่ย มันไม่เหมือนกับสมัยนี้เท่าไหร่ เพราะตอนนี้มันมีแอร์ไลน์เปิดแข่งขันกันค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นสายการบินโลว์คอส อาทิ นกแอร์, แอร์เอเชีย ฯลฯ หรือสายการบินอีกหลายแห่ง ก็ค่อนข้างแตกต่างจากสมัยนี้ที่เปิดกว้างกว่า จริง ๆ แล้วการจะเป็นนักบินนั้นไม่จำเป็นต้องจบตรงสายนะครับ ถ้ามีความสามารถก็สามารถมาสอบได้เลย เพราะยังไงก็ต้องเรียนต่ออีก 1 ปี อยู่แล้ว สำหรับต่างประเทศอาจจะจบแค่มัธยมก็พอ แล้วเรียนต่อทางนักบินเลย แต่ของประเทศไทยเรานี่จะแตกต่างกันหน่อย วุฒิขั้นต่ำจะต้องเป็นปริญญาตรี สาขาพวกที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ จะได้เปรียบคนอื่นอยู่บ้าง เพราะได้มีพื้นฐานการคำนวณมาบ้างแล้ว แต่สาขาอื่นถ้าอยากลองก็สมัครได้หมดครับ 

คุณสมบัติการเป็นนักบินจะต้องเป็นอย่างไร?

สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือเรื่องของความปลอดภัยครับ สมมติว่าเป็นการขับรถ ถ้ารถเสียเราก็ยังสามารถหลบจอดข้างทางได้ แตกต่างกับการเป็นนักบินที่ต้องแก้ปัญหาบนอากาศให้ได้ตลอดเวลา อย่างถ้าเครื่องยนต์ดับ ก็ต้องหาทางรีสตาร์ท ปรับไฮโดรลิก หาทางแก้ไขให้ได้ มันหลบไปจอดตรงไหนไม่ได้เลย อีกอย่างคือเรามีผู้โดยสารอีกหลายร้อยชีวิตที่ฝากไว้กับเรา เพราะฉะนั้นจิตใจเราต้องนิ่ง ต้องมีสมาธิวิเคราะห์ทรัพยากรที่มี และบริหารจัดการในการที่ต้องนำเครื่องลงอย่างปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ครับ คือเรื่องของคุณสมบัติพวกนี้เนี่ย ตอนสอบคัดเลือกจะมีนักจิตวิทยามาวิเคราะห์เราอีกทีหนึ่ง ไม่ยากครับเหมือนพูดคุยตอบคำถามปกติ แต่สุดท้ายแล้วจะมีคะแนนบอกผลการวิเคราะห์ว่าเราเป็นคนแบบไหน สามารถควบคุมสติได้มั้ย โดยรวมคือต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันทีและควบคุมสถานการณ์ให้ได้ครับ

การทำงานบนเครื่องบินเป็นอย่างไร?

นักบินนอกจากขับเครื่องบินกับดูแลความปลอดภัยบนเครื่องแล้ว กัปตันเครื่องบินมีอำนาจตามกฎหมายด้วยนะครับ เช่นถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างมีผู้โดยสารเมาขึ้นมา ถ้าเตือนแล้วไม่ฟังเราก็สามารถสั่งจับใส่กุญแจมือได้เลยครับ คือตัวกัปตันจะเหมือนเป็นตัวแทนกฎหมายเวลาอยู่บนเครื่องบินครับ มีอำนาจมากที่สุด แล้วก็จะมีลูกเรือบนเครื่องที่คอยช่วยเหลือให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นอีกที เครื่องบินนี่ก็เหมือนเรือนะ อย่างพอเรือออกเดินทาง เราก็เป็นทีมงานหน่วยนึงที่อยู่บนเรือลำนั้น เช่นเดียวกันกับเครื่องบิน ที่พอขึ้นบินแล้วเราก็ต้องจัดการดูแลกันบนเครื่องให้ไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพปลอดภัย

รู้จักกับคุณกิตติคุณ ทรัพย์ดี ได้อย่างไร?

คุณกิตติคุณนี่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนรักผมเลยครับ ด้วยความที่เราสองคนชอบดื่มไวน์กันทั้งคู่ ก็เลยได้มีโอกาสร่วมจิบไวน์ด้วยกันเป็นประจำ ถ้าจะเทียบก็คงเหมือนกับการตีกอล์ฟที่เราได้ใช้เวลาร่วมกัน ผมกับเขาจะนั่งดื่มไวน์ คุยเรื่องไวน์กันนี่วัน ๆ หนึ่งหลายชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกว่าคนคอเดียวกันดีกว่าครับ คือเราจะมีนัดดื่มไวน์กันกับหลาย ๆ คน ซึ่งเราจะไม่คุยเรื่องงานกันเลยนะ คุยเรื่องไวน์ เรื่องสบาย ๆ เวลาพักเราก็ต้องพักให้เต็มที่อะไรแบบนั้น ก็รู้จักมาเกือบสิบปีแล้วครับ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook