ฌอห์ณ จินดาโชติ เจ้าของตำแหน่งสามีในฝันของสตรีไทย

ฌอห์ณ จินดาโชติ เจ้าของตำแหน่งสามีในฝันของสตรีไทย

ฌอห์ณ จินดาโชติ เจ้าของตำแหน่งสามีในฝันของสตรีไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่อง: แป้งร่ำ
ภาพ: แสงอรุณ จำปาวัน

ความย้อนแย้งที่น่าสนใจคือ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้โด่งดังชนิดที่คุณมองไปทางไหนต้องได้เห็นหน้าเขาทุกหนแห่ง เขาเป็นพระเอกละครที่ดันชอบเขียนหนังสือมากกว่า พูดก็น้อย ทำตัวลึกลับเข้าใจยาก แต่นี่คือผู้ชายที่กุมหัวใจผู้คนได้มากจนเราตกใจ ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หญิง ชาย หรือเพศไหน ใครต่อใครก็รักฌอห์ณ จินดาโชติ จนเกือบจะพูดได้ว่าเขาเป็น ‘พี่เบิร์ด’ ของยุคสมัยนี้ ตาเฉี่ยวๆ คิ้วเข้มๆ ปากบางๆ ออกแนวญี่ปุ่นเบาๆ เราเลยพาเขาไปญี่ปุ่นซะเลย จะได้รู้กันซะทีว่าฌอห์ณ จินดาโชติ ใช้ยาเสน่ห์ยี่ห้ออะไรกันแน่

“รอนานไหม ผมขอโทษที่ให้รอนะครับ” หนุ่มคิ้วหนาเดินปรี่เข้ามาหาเราทันทีที่ถ่ายแบบเสร็จ กระวีกระวาดหาน้ำหาท่าให้เราด้วย นั่นไง ยาเสน่ห์เริ่มออกฤทธิ์แล้ว

มาญี่ปุ่นเที่ยวนี้เป็นไง คุณน่าจะมาบ่อยอยู่แล้วใช่ไหม
ใช่ครับ ผมมีโอกาสไปโตเกียวบ่อยอยู่แล้ว น่าจะเป็นครั้งที่ 7 หรือ 8 แต่ครั้งนี้เราไปพาร์คเยอะ แล้วเป็นช่วงที่เป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดีฮะ ผมชอบบรรยากาศของคนที่ออกไปถ่ายรูปกับพวกวิวทิวทัศน์รอบข้าง ประทับใจวัดเมจิ สวยมาก เป็นเหมือนอยู่กลางสวนอยู่แล้ว การถ่ายแฟชั่นก็สนุกนะครับ เราทำงานกันเป็นทีมที่ดี

ใช่แล้ว เป็นการถ่ายแบบกองโจรเล็กน้อย
(หัวเราะ) ต้องรีบถ่ายรีบออก เดินเกาะกลุ่มเป็นแพมากไม่ได้ ต้องกระจายตัว แต่ทีม GQ ดูแลผมดีมากครับ ขอบคุณมากเลย ถือเป็นทริปที่สนุกครับ ทำงานไม่ค่อยเหนื่อย

ชอบหรือไม่ชอบอะไรที่ญี่ปุ่นบ้าง
ถ้าจะบอกว่าไม่ชอบ แทบจะไม่มีครับ เพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นประเทศที่คนไทยไปไม่เคยเบื่อ เราจะได้ยินคำนี้ที่บอกว่า ทำไมคนถึงชอบไปญี่ปุ่น ถ้าตัดเรื่องของการไม่ต้องขอวีซ่าไป ก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมนี่แหละ ความสะดวกสบาย การขนส่งมวลชนที่ครบ แหล่งท่องเที่ยวที่ชัดเจน ภูเขาขึ้นเหนือ อยากจะมาวัฒนธรรมหน่อยก็ลงใต้ แล้วศาสนาของเขาใกล้เคียงกับบ้านเราหมด บอกได้เลยว่าครบวงจร โดยเฉพาะคนชอบแก็ดเจตต่างๆ

คุณเองก็กวาดโมเดลไม่ใช่น้อยนี่นา
ใช่ครับ ผมกับพี่วร (ทัตวร สุกัณศีล – บก.ดิจิตอล) ชอบของพวกนี้เหมือนกัน ปกติผมมาก็ซื้อเสื้อผ้าบ้างอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ผมได้มากับพี่วร เลยได้รู้จักร้านดีๆ พวกโมเดลดีมาก ก็เลยจัดไป น่าจะเยอะอยู่เหมือนกัน (ยิ้ม) เลยรู้สึกเหมือนได้มาเที่ยวเล่นมากกว่า

แล้วปกติเมืองไหนที่ญี่ปุ่นที่คุณชอบเป็นพิเศษ
ชอบซัปโปโรครับ อยู่ทางตอนเหนือ เพราะมันเป็นเมืองที่เงียบ เป็นเมืองหิมะ มีการจัดเทศกาลสกีฤดูหนาว แล้วก็เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง Music Box ครับ ผมเคยมีโอกาสไป 2 ครั้ง เงียบสงบดี ผมชอบไปอยู่กับธรรมชาติมากกว่า

ทราบมาว่าช่วงเด็กๆ คุณอยู่ที่อเมริกา การเติบโตมากับสองวัฒนธรรม คุณรู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นฝรั่งหรือเอเชียมากกว่ากัน
ผมว่ามัน Half-Half นะครับ อาจจะไทย 60 ฝรั่ง 40 ด้วยซ้ำ เพราะโตที่เมืองไทยมากกว่า แต่ความเป็นฝรั่งของผมเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคิด ความชัดเจน จุดยืน ผมเป็นคนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะรู้สึกว่าเราแตกต่าง แต่เราไม่แตกแยกนะ ผมจะไม่ทำตัวเพื่อขัดแย้งกับใคร แต่เราก็ไม่เปลี่ยนความคิดตัวเองให้ตามคนอื่นเสียหมด นี่คือสิ่งที่ครอบครัวผมสอน คือการ Outstanding ในจุดยืนของตัวเอง และอีกอย่างคือการที่... If You Don’t Know, Just Ask. คืออย่าเขินที่จะถาม คนถามไม่ใช่แปลว่าคนโง่

ส่วนใหญ่เด็กไทยจะไม่คุ้นกับการที่จะยกมือขึ้น ไม่เอาอะ ไม่ถาม เดี๋ยวสะเหล่อ ซึ่งไม่จริงนะครับ ผมเป็นคนที่กล้าถาม กล้าแสดงออก ผิดตรงไหน ถูกตรงไหน เดินออกไปคุยกัน แต่ความเป็นไทยในตัวผม ผมว่าเป็นเรื่องของระบบซีเนียร์ครับ ผมเคารพผู้ใหญ่ ชัดเจนว่าผู้ใหญ่ต้องมาก่อน ผู้หญิงต้องมาก่อน แล้วก็เรื่องของการให้เกียรติ อย่างฝรั่งคือเขาให้เกียรติทางตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่อายุจะมากกว่าแค่ไหนไม่สน เขาก็เรียกชื่อกันเลย ตรงนี้ผมเหมือนคนไทยมากกว่า ผมรู้สึกว่าระบบอาวุโสเป็นระบบที่น่ารักของคนไทย จะผิดจะถูกอะไร ยกมือไหว้ไว้ก่อนไม่ผิด แล้วค่อยมาถามกัน

คุณอยู่วงการนี้มากี่ปีแล้ว
นับกันจริงๆ ก็ 8 ปีแล้วนะครับ

แสดงละครมาก็มาก แต่ตอนนี้เขียนหนังสือด้วย บทบาทไหนที่เป็นตัวคุณที่สุด
น่าจะเป็นนักเขียนครับ นักเขียนจะไม่มีสโคปว่าคุณต้องเขียนอะไร ไม่ต้อง Act หรือ Pretend ว่าเราเป็นใคร เราแค่คิดอะไร รู้สึกกับอะไรก็เขียนออกมา เพียงแต่ต้องถูกกลั่นกรองจาก บก. อีกทีหนึ่งว่ามันถูกจริตคนอ่านไหม หรือว่ามันเป็นการสื่อสารที่ผู้อ่านเสพแล้วเข้าใจหรือเปล่า ผมว่ามันเป็นอาชีพที่ทำได้ทุกที่

ก่อนหน้านี้เป็นคนเขียนหนังสืออยู่แล้วหรือเปล่า
ผมเป็นนักอ่านครับ ผมเป็นคนที่อ่านหนังสือได้ทุกแบบ อ่านได้ทุกแนว อ่านเยอะ

นักเขียนที่ชอบคือใคร
ถ้าของฝรั่งผมชอบ นิโคลัส สปาร์ก ครับ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่เขียนนวนิยายโรแมนติกเกี่ยวกับผู้หญิงได้ดี ผมอ่านงานเขียนเขาเกือบทุกเรื่อง ก็เลยทำให้เข้าใจมุมมองผู้หญิงมากขึ้น

แปลกนะ ผู้ชายบางคนบอกว่างานเขียนของสปาร์กเหมือนชอบสร้างฝันให้ผู้หญิง แต่มันสมจริงสำหรับคุณใช่ไหม
จริงไม่จริงไม่รู้นะครับ ผมยังไม่ได้เห็นโลกทั้งหมด แต่ผมแค่รู้สึกว่าอย่างน้อยมันก็ทำให้เราเห็นความสวยงามของความรัก การแคร์กัน ความรักมันไม่ได้จบลงที่แฟนกันอย่างเดียว มันมีอะไรอีกมาก ความรักคือสิ่งสวยงาม เหตุผลที่คนอยากมีรักเพราะมันคือความสุขและความสวยงาม ฉะนั้นหลายคนอาจจะบอกว่า เฮ้ย เขาโลกสวยไปหรือเปล่า แต่ผมว่าถ้าทุกคนมีรัก โลกมันก็ต้องสวยทั้งนั้นแหละ เราแค่เลือกที่จะปฏิเสธ อาจเพราะเราเคยเจ็บปวดมาก่อน แต่สุดท้าย ‘All You Need Is Love’ ครับ ทุกคนต้องการความรักกันทั้งนั้น

ความรักในชีวิตคุณตอนนี้ล่ะเป็นอย่างไร
ตอนนี้ถามว่าโฟกัสที่ไหน ผมโฟกัสที่แฟมิลี่ก่อน เพราะพวกเขาคือคนรอบตัวที่อยู่กับผมมานานมาก แล้วเขาก็รู้จักผมดีพอ ยอมรับข้อด้อยของผมมากกว่าข้อดีด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมยังไม่มีคนข้างกาย แต่สมาชิกของครอบครัวเพิ่มขึ้น ผมมีหลานเพิ่มอีก 2 คน ฉะนั้นการทำอะไรตามอำเภอใจด้วยความคึกคะนองมันก็น้อยลง คำนึงถึงคนรอบข้าง คำนึงถึงอนาคต แพลนในอนาคตเรื่องความรัก ผมไม่ได้มองว่าผมจะมีแฟน มันยังจับต้องอะไรไม่ได้ แต่ผมมองว่าถ้าวันหนึ่งผมมีครอบครัว มีลูก ผมจะเลี้ยงเขาอย่างไร ผมมองอย่างนั้นมากกว่า เพราะผมถูกปลูกฝังมาให้เรียนรู้ เรียนรู้ที่จะสู้และเรียนรู้ที่จะยอมรับ แต่เด็กสมัยนี้มันเป็นยุคดิจิตอลไปหมดแล้ว ยุคของความอดทนในการรอคอย การเขียนจดหมาย มันหายไปแล้ว ผมเลยคิดว่า ถ้าผมทำได้ จะเลี้ยงลูกหลานตัวเองให้เป็นนักอดทนรอคอย จะได้เห็นคุณค่าของความสำเร็จ

ถ้ามองย้อนไปในอดีต คุณเคยทำอะไรโง่ๆ เพื่อความรักบ้างไหม
เคยนะครับ สิ่งที่โง่ที่สุดที่เคยทำคือรักตัวเองน้อยลง รักเขามากขึ้น จนลืมไปว่าจริงๆ ต้องรักตัวเองก่อน ถ้าเรารักตัวเอง เรามีคุณค่ามากพอ เขาก็จะเห็นคุณค่าของเราเอง ไม่ใช่เราเห็นแต่คุณค่าของเขา แต่เขาไม่เห็นคุณค่าเราเลย ไม่ใช่ความรักหรอกครับ เขาเรียกว่าความงมงาย

คุณเป็นคนเขียนเรื่อง Relationship ได้ดี ถามตรงๆ ว่าผ่านมาเยอะเหรอ
ไม่ได้ผ่านมาเยอะครับ เทียบกับวัยเดียวกันอาจจะใช่ แต่ถ้าเทียบกับคนวัยอื่น ผมคงไม่ได้เจอเยอะ แต่อาจเป็นคนเก็บรายละเอียดเยอะแค่นั้นเองครับ ผมชอบเก็บความรู้สึก เก็บฟีลลิ่ง ไม่ว่าจะ Good or Bad เก็บไว้ก่อน เก็บแล้วก็จำ ส่วนใหญ่จะจำเรื่องที่ดีมากกว่า ถ้าเรื่องเสีย ไม่ค่อยเก็บกับตัวเยอะ มันบั่นทอน

คุณเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ทุกคนไหม
มันอยู่ที่เขามากกว่า ผมพร้อมที่จะเป็นเพื่อนกับทุกคนอยู่แล้ว เพราะถ้าผมผิด ผมจะเดินไปบอกว่าขอโทษ ณ ตอนนั้นมันทำได้ดีแค่นี้ แต่ไม่ใช่ปิดตายกับความสัมพันธ์ เพราะผมรู้สึกว่าครั้งหนึ่งเขาเองรู้จักผมมากพอกับที่ผมรู้จักเขา บางทีมากกว่าตัวผมเองด้วยซ้ำ เขารู้ว่าผมกินเผ็ดหรือหวาน หนังที่ชอบ นิสัยที่แย่ รู้แม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวว่าผมหลับคาโทรศัพท์ก็มี เรื่องราวดีๆ หลายเรื่องก็มีเขารับรู้ เพราะฉะนั้นเขาอาจจะเป็นเพื่อนที่ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดให้กับเราก็ได้

คุณเป็นคนมองความรักแง่บวกดี ฝากอะไรให้กับคนที่อาจจะเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะความรักหน่อย
เรามีตัวอย่างความรักที่ดี นั่นคือเจเนอเรชั่นรุ่นพ่อแม่ที่แก่ไปด้วยกัน แล้วเราก็จะมีตัวอย่างความรักของเด็กวัยรุ่นที่ฉาบฉวยแล้วจบชีวิตลง แล้วก็มีความรักของวัยรุ่นที่มัน Puppy Love โลกเรามีตัวอย่างความรักทุกเจเนอเรชั่น ทุกประเภท มีหมด ให้เราเลือกสรรใช้ แต่เราชอบจะเลือกในสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือความรักโดยสมบูรณ์แบบ ซึ่งเราลืมไปว่าความผิดหวังเป็นสิ่งที่มาด้วยกัน ความรักมันเป็นเรื่องละเอียดลออครับ คุณพร้อมที่จะเป็นผู้ให้หรือเปล่า อย่าลืมว่าการเป็นผู้ให้ที่ดีต้องรักตัวเราเองให้เป็น เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตคือตัวเราเองครับ

ถ้าคุณพร้อมที่จะให้ทุกอย่าง แต่คุณลืมให้ตัวเอง หัวใจมันก็ทำงานช้าลง มันก็จะมีความรู้สึกน้อยใจ ระบบร่างกายเราไม่ไหลเวียน เราวิ่งเต้นไปดูแลเขาให้นอนหลับ แต่เรายังไม่นอนเลย แล้วพรุ่งนี้เช้าเราจะมีแรงไปดูแลเขาได้อย่างไร มันไม่ใช่แล้วครับ ฉะนั้นความรักที่แท้จริงมันซิมเพิลนะ แม่ผมบอกว่าความรักที่ดีคือการนั่งข้างกัน ดูหนังกัน ใช้ชีวิตธรรมดาด้วยกัน มันคือการเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องตัวติดกัน โดยไม่ต้องมาขอหอมแก้มหน่อย ไม่ต้อง มัน Sync กันโดยธรรมชาติเอง

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มได้ในนิตยสาร GQ THAILAND ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ วางแผงแล้ววันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook