แบบทดสอบระดับความปรี๊ด...ของคุณ เกินสมดุลแค่ไหน

แบบทดสอบระดับความปรี๊ด...ของคุณ เกินสมดุลแค่ไหน

แบบทดสอบระดับความปรี๊ด...ของคุณ เกินสมดุลแค่ไหน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าเป็นนานๆ ที หรือเกิดขึ้นไม่กี่ครั้งในชีวิต คงต้องยกให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ถ้าหากเกิดขึ้นบ่อยจนไปที่ไหนวงแตกกระเจิงทุกครั้ง อาจไม่ดีสำหรับทุกคนแน่ โดยเฉพาะตัวคุณเอง เพราะเมื่อไหร่ที่คุณปล่อยให้สภาวะอารมณ์ไม่สมดุล ไม่ว่าจะเป็นคนแรงเกินไป เหวี่ยงทุกทิศ หรือนิ่งสงบจนดูเหมือนฆาตกรโรคจิตในภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนแล้วล่ะก็ เมื่อนั้นการจะรับสาระความงามของชีวิตเข้ามาในจิตใจคงเป็นเรื่องยาก

ลองมาทำแบบทดสอบง่ายๆ เพื่อเช็คสภาวะอารมณ์ของคุณดูดีกว่า ว่าสภาวะอารมณ์ของคุณอยู่ในระดับสมดุลหรือไม่



Let's Check

- มีคนมาเสนอขายสินค้าพร้อมเงื่อนไขพิเศษมากมาย แถมราคายังคุ้มแสนคุ้ม เมื่อเทียบกับเงื่อนไขต่างๆ ที่มี คุณจึงตกลงใจซื้อ แต่เมื่อสินค้ามาส่งถึงบ้านแล้ว มีเงื่อนไข หรือข้อตกลงบางอย่างต่างไปจากที่ตกลงในตอนแรก คุณจึงจัดการให้เขานำสินค้ากลับพร้อมขอเงินคืนทันที

- คุณมองหญิงสาวที่กำลังยืนจ่ายเงินอยู่หน้าแคชเชียร์ พร้อมสินค้าเต็มรถเข็นด้วยความหงุดหงิดที่ทำให้ต้องรอคิวนาน เลยจงใจบ่นเบาๆ พอให้ได้ยินว่า "ไม่รู้จะซื้อไปทำไมเยอะแยะ ไม่เห็นมีประโยชน์กับชีวิตซักอย่าง!"

- คุณกำลังจะรีบไปทำงาน บังเอิญวันนั้นรถติดนานผิดปกติแบบไม่ทราบสาเหตุ คุณหงุดหงิดแต่ไม่รู้จะทำอะไรดีเลยหาซีดีเพลงโปรดมาฟังแก้เซ็ง

- ไม่รู้เป็นอย่างไร เวลาคุณเห็นใครทำอะไรงี่เง่า คุณจะรู้สึกอยากเข้าไปจัดการกับความงี่เง่านั้นให้สิ้นซากไปเสียจริงๆ

- ถ้าคุณมีนัด แต่พอถึงเวลานัด คู่นัดของคุณก็ยังไม่มา คุณจะบอกกับตัวเองทันทีว่า ฉันไม่ได้มีเวลาทั้งชีวิตเพื่อรอคนไม่รักษาเวลาอย่างนี้นะ ว่าแล้วคุณก็สะบัดบ๊อบเดินไปโบกรถกลับบ้านทันที โดยไม่รอฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

- ในโรงภาพยนตร์คนข้างๆ ของคุณไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ แถมรับแล้วยังคุยเสียงดัง พอวางสายก็ยังหันไปคุยกับเพื่อนข้างๆต่อ ถึงจะแอบเคือง ทว่าคุณก็ได้แต่เก็บปากเก็บคำ เพราะไม่อยากมีเรื่องต้องทะเลาะกัน เกรงใจคนอื่น

- ถ้าลองได้มีเรื่องกับใครแล้วล่ะก็ คุณจะไม่ยอมลดราวาศอก ต้องเถียงกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคืนนั้นทั้งคืนคุณอาจนอนไม่หลับ ท้องอืดท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ยวไปสามวันสามคืน

- มีบางคนหรือบางสถานการณ์ที่ทำให้คุณโมโหสุดขีด แต่โต้ตอบไม่ได้ คุณมักใช้วิธีปิดประตูสักโครม ซัดผนังสักหมัด หรือขอระบายลงในเฟสบุ๊คด้วยภาษาพ่อขุนแทนแล้วกัน

- เมื่อไหร่ที่ปรอทในตัวคุณพุ่งปรี๊ด ใครที่อยู่ใกล้รัศมีเหวี่ยง คุณไม่แคร์ทั้งนั้นไม่ว่าหน้าไหน อย่าได้แหยมเชียว เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

- นานๆครั้งคุณจะไปซื้อของที่ตลาดสดสักที บังเอิญไปเจอแม่ค้าเจ้าอารมณ์เหวี่ยงใส่แบบไร้เหตุผล แต่คุณไม่โต้ตอบอะไร รีบจ่ายเงินแล้วเดินหลีกออกมา คิดว่าวันนี้เราคงดวงไม่ดีเอง

- คนรอบตัวมักบอกว่าคุณขี้โมโห เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผล หรือเป็นจอมเหวี่ยง

- ขณะกำลังรอคิวเข้าห้องน้ำสาธารณะ จู่ๆก็มีคนแซงคิวตัดหน้าคุณเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ คุณไม่ว่าอะไร ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ

 

 

------------------------- เฉลยค่ะ -------------------------


ถ้าคุณตอบว่าใช่ เกิน 7 ข้อ

ขอบอกว่าคุณมีปัญหาสภาวะอารมณ์เกินสมดุลไปเยอะเชียวล่ะ แบบนี้เข้าที่ไหนวงแตกที่นั่น หรือหลายคนก็เลี่ยงที่จะพบปะสังสรรค์กับคุณ คุณดูไม่ต่างจากระเบิดเวลาสักเท่าไหร่ เขาเลยไม่กล้าที่จะเสี่ยง เผื่อตัดสายไฟผิดเส้นมีหวังสิ้นชีพไม่เหลือซาก เจ้าอารมณ์ ฉุนเฉียว เกรี้ยวกราดแบบนี้ แนะนำให้ลองนั่งสมาธิ หรืองดรับประทานเนื้อสัตว์ หันมารับประทานอาหารมังสวิรัติ อาจช่วยได้บ้าง แม้ดูจะขัดแย้งกับนิสัยของคุณอยู่สักหน่อย แต่ค่อยๆ ลองทำไปเรื่อยๆ นั่งสมาธิก่อนนอน หรือตื่นตอนเช้าสัก 3 - 5 นาที แล้วค่อยๆเพิ่มระยะเวลาขึ้นทีละนิด รับรองว่าจะช่วยให้อารมณ์คุณสมดุลขึ้นได้บ้าง


ถ้าคุณตอบว่าใช่ 4 - 6 ข้อ

สภาวะอารมณ์ของคุณอยู่ในระดับสมดุลดี คุณรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะยอมหัก หรือเมื่อไหร่จะยอมงอ เมื่อไหร่ควรเรียกร้องสิทธิ หรือเมื่อไหร่ควรสงบปากสงบคำ เรียกได้ว่ามีวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Maturity) ว่าอย่างนั้นเถอะ

ถ้าคุณตอบว่าใช่ ต่ำกว่า 3 ข้อ

อะไรจะเก็บปากเก็บคำนิ่งสนิท ไม่โต้แย้งแถลงไข บอกความในใจ ว่าต้องการหรือไม่ต้องการอะไรได้ขนาดนั้น นี่ก็เรียกว่ามีปัญหาทางอารมณ์ไม่ต่างจากพวกแรก แต่เป็นในอีกฝั่งเท่านั้นเอง คุณต้องกล้าที่จะแสดงความต้องการของตัวเอง หรือกล้าที่จะปฏิเสธบางเรื่องที่คุณไม่ต้องการที่จะทำจริงๆ บ้าง เพราะถ้าคุณปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่อง "อะไรก็ได้" หรือ "ยังไงก็ได้" คนที่เครียดก็จะเป็นตัวคุณเอง แล้วจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าลงไปทุกที ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง และมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง เอ้า! กล้าๆ หน่อย แล้วชีวิตจะดีขึ้น เชื่อสิ!

ฝากถึงคนชอบปรี๊ดด...

EQ (Emotional Quotient) หรือ วุฒิภาวะทางอารมณ์ คำนี้คงเคยได้ยินคำนี้กันมานานแล้ว ผู้ที่มี EQ ดี คือผู้ที่มีสภาวะทางอารมณ์สมดุลดี (Emotional Maturity) รู้จังหวะ เวลา สถานที่ บุคคล และวิธีการที่จะสื่อสารทางอารมณ์

การมี EQ ดี เป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า IQ (Intelligence Quotient) ซึ่งหมายถึงระดับสติปัญญา ถ้า IQ สูง จะเป็นคนที่ฉลาด เรียนเก่ง ถ้า IQ ไม่ดี ก็จะเรียนรู้ช้า ไม่ค่อยปราดเปรื่อง สิ่งนี้จะถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่ก็ไม่เสมอไป อาจมีการพลิกล็อกเกิดขึ้นได้ เช่น พ่อแม่ฉลาดแต่ลูกเกิดมาไม่ค่อยฉลาด แต่โอกาสที่จะเกิดนั้นก็ไม่ง่าย 

บ่อยครั้งพบว่าคนที่ IQ ดี กลับเข้ากับใครไม่ได้เลย ไม่มีเพื่อน หรือไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน เพราะขาดทักษะในการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน EQ จึงเป็นตัวช่วยในส่วนนี้ หากคุณมี EQดี จะช่วยให้มีสัมพันธภาพที่ราบรื่นกับคนรอบข้าง และมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่ง EQ นี้เป็นสิ่งที่เรียนรู้ฝึกฝนได้ ผู้ที่มี EQ ดี จึงมักเป็นผู้ที่มีความสุขกับชีวิต

เห็นไหมว่า ความฉลาดไม่ได้ทำให้คุณเป็นที่ยอมรับเสมอไป ดังนั้นหากรู้ตัวว่าคุณเก่งแต่เข้ากับใครไม่ได้ไม่ อย่ารอช้า รีบหาทางปรับตัวใหม่ได้แล้ว !

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook