ความเชื่อลี้ลับ เจ้าป่าเจ้าเขา และพิธีเซ่นไหว้

เปิดความเชื่อ เจ้าป่าเจ้าเขา คือใคร พร้อมความเชื่อในเรื่องของการบวงสรวงสังเวย

จากกรณีข่าวการหายไปตัวของน้องจีน่า เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 11 เดือน ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2564 ในพื้นที่บ้านห้วยฝักดาบ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ย. 2564) ได้มีรายงานข่าวยืนยันว่าได้พบตัวน้องจีน่าแล้วในกระท่อม ซึ่งน้องปลอดภัยดี

หากย้อนกลับไปถึงการค้นหาตัวน้องจีน่า ปฏิบัติการณ์ค้นหาตัวเด็กหญิงเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ได้มีการควบคุมตัวชายต้องสงสัยชื่อว่า นายเสี่ยว แรงงานชาวเมียนมา โดยนายเสี่ยวได้อ้างว่า มีเจ้าป่าเจ้าเขา บอกให้อุ้มน้องจีน่าไปสังเวยผีถ้ำ

• จับแล้ว เพื่อนพ่อรับ อุ้ม “น้องจีน่า” ไปปล่อยหน้าถ้ำบนดอย สังเวยผีถ้ำ
• โล่งอก พบตัว "น้องจีน่า" แล้ว ปลอดภัยดี หลังหายตัวปริศนาเกือบ 3 วัน

เกี่ยวกับในเรื่องนี้ ตามความเชื่อแล้ว เชื่อว่าเจ้าป่าเจ้าเขา คือรุกขเทวดา ซึ่งจะเป็นเทวดาที่สถิตย์ในที่แห่งใดแห่งหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น พระภูมิเจ้าที่ เจ้าทุ่ง รวมไปถึงเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งเจ้าป่าเจ้าเขา จะคอยปกป้อง และคุ้มครองพื้นที่ป่า

ทั้งนี้ ยังมีความเชื่อว่าหากผู้ใดลบหลู่ หรือเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่า ก็จะลงโทษโดยการสร้างเกราะบังตา หรือที่เรียกว่า ผีบังตา สำหรับเครื่องเซ่นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขานั้น จะใช้ เหล้าขาว ไก่ต้ม พวงมาลัย หรือพานบายศรี 

สำหรับในเรื่องของการบูชาบวงสรวงเทวดานั้น สำนักวรรณกรรมเเละประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ได้ให้ข้อมูลว่า ส่วนใหญ่การบวงสรวงจะพบได้ในพิธี และประเพณีหลายอย่างของไทย นัยว่าหากเราต้องดำเนินชีวิตสัมพันธ์กับพื้นที่หรือสิ่งใด รวมถึงถ้าจะทำกิจการงานใดเป็นพิเศษ ก็จำต้องสังเวยบอกกล่าวให้เทวดาทราบ เพราะเชื่อว่าหากไม่ได้บวงสรวงหรือสังเวยแบบผิดจารีตธรรมเนียม เทวดาอาจจะบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ได้

โดยการบวงสรวงสังเวย ก็จะมีเช่น การตั้งศาล หรือหอ ในกรณีของเทวดาพระภูมิเจ้าที่ การไหว้ครู ในกรณีของเทวดาแห่งศิลปวิทยาต่างๆ การบวงสรวงเมื่อจะทำการตัดโค่นไม้ใหญ่ ในกรณีของรุกขเทวดา หรือหากคนไทยสมัยก่อนจะปลูกเรือนก็ต้องบวงสรวงทำบัตรพลีไหว้พระภูมิเจ้าที่เพื่อขอที่ดินต่อผู้รักษาพื้นดินก่อน บัตรพลีดังกล่าวมีหมากพลู มะพร้าวอ่อน ขนมต้ม กล้วยน้ำว้า เป็นต้น

ขณะเดียวกัน หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า แท้จริงแล้ว เจ้าป่าเจ้าเขาไม่มีจริง เป็นเพียงแค่กุศโลบายอุบายเพื่อหลอกคน เช่น เข้าป่าต้องให้เกียรติสถานที่ ส่วนคำว่าผีบังตา ตนมองว่าก็เป็นกุศโลบายเพราะไม่อยากให้คนอยุ่ในป่าเวลากลางค่ำกลางคืนเท่านั้น