เลิกคิดสั้น เพราะธรรมะฉันยาว

เลิกคิดสั้น เพราะธรรมะฉันยาว

เลิกคิดสั้น เพราะธรรมะฉันยาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายครั้งที่พอได้รับรู้ข่าวคราวว่ามีคนด่วนคิดสั้นฆ่าตัวตาย ก็จะมีหลายๆ คำถามที่เกิดขึ้นในใจ อาทิ เพราะเหตุใดพวกเขาจึงตัดสินใจเช่นนั้น หรือจะต้องเป็นความทุกข์ที่หนักหนาขนาดไหนกันนะ คนเราถึงสามารถทิ้งชีวิตไปได้...แต่ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุปัจจัยอะไร มาลองคิดยาวๆ กันก่อนดีกว่า ด้วยแนวคิดดีๆ จากพระอาจารย์มานพ แล้วคุณจะพบว่า ความทุกข์ที่ดูเหมือนหนักหนาสาหัสนั้น จริงๆแล้วก็เบาหวิว...แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง

การฆ่าตัวตายเป็นบาปมากน้อยขนาดไหนหรือขอรับ

การฆ่าตัวตายย่อมเป็นบาปมาก เพราะถือว่าเป็นการฆ่าคนๆ หนึ่งให้สูญสิ้นไป โดยการฆ่าตัวตายนั้นถือเป็นปฏิฆะ เป็นโทสะ เป็นความรู้สึกไม่ชอบใจ หงุดหงิด ที่เกิดจากจิตใจได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส ซึ่งคนที่มีจิตเป็นบาป เป็นอกุศลเช่นนี้ เมื่อตายไปพร้อมกับจิตใจที่เศร้าหมอง อกุศลกรรมจะส่งผลให้ไม่ไปสู่สุขคติ แต่จะไปเกิดในทุคติ แล้วการฆ่าตัวตายนี่ถือว่าเป็นอกุศลกรรมบถไหมขอรับ

ถ้าวินิจฉัยตามหลักอภิธรรมแล้ว การฆ่าตัวตายไม่ถือเป็นอกุศลกรรมบถ เนื่องจากไม่ได้มีการฆ่าหรือเบียดเบียนผู้อื่นโดยตรง จึงไม่ครบองค์ประกอบเป็นปาณาติบาต แต่ถึงอย่างไร เมื่อฆ่าตัวตายไปแล้ว ก็ต้องไปเกิดในอบายอยู่ดี ถามว่าทำไม ต้องวินิจฉัยอย่างนี้ การฆ่าตัวตายนั้น แม้อาจจะไม่ผิดศีล แต่ว่าผิดธรรม เพราะเป็นการกระทำด้วยจิตที่เป็นปฏิฆะ มีความโกรธ มีความขัดใจ จิตใจก็ย่อมไม่ผ่องใส ซึ่งส่งผลให้ตายแล้ว ต้องตกอยู่ในอบาย ไปทุคติ

 

 

แล้วจะมีวิธีดับปฏิฆะที่ว่านี่อย่างไรดีล่ะขอรับ

ทุกข์เกิดขึ้นที่ใจ เวลาดับก็ต้องดับที่ใจ เราสามารถดับความทุกข์ของตัวเราได้ ถ้าหากเข้าใจวิธีในการดับทุกข์ การดับทุกข์ทางใจนั้น เราจะต้องเข้าใจก่อนว่าที่เป็นทุกข์นั้นเกิดจากอะไร ให้เอาใจที่เป็นทุกข์มามองดู ซึ่งขณะที่เรามองดูใจที่กำลังเป็นทุกข์อยู่นั้น เราก็จะหยุดดำริถึงเรื่องหรือบุคคล ที่ทำให้ใจของเราเป็นทุกข์ไปเอง

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเอาไว้ว่า ทุกข์เกิดจากการดำริถึง คิดถึง ปรารภถึง เหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ใจของเราเป็นทุกข์ ถามว่าดำริถึงอะไร ก็ดำริถึงสิ่งที่ทำให้ใจเป็นทุกข์นั่นแหละ ถ้าดำริถึงสิ่งที่เราไม่ค่อยชอบใจ ก็จะคิดถึงเรื่องนั้นในเชิงลบ คิดถึงแต่ในทางเลวร้าย ใจของเราก็เกิดอาการขัดเคือง มัวหมอง จากนั้นใจก็จะเป็นทุกข์ เมื่อเป็นอย่างนั้น ให้ลองย้อนกลับไปดู ให้นึกทบทวนทุกข์ทางใจที่เกิดกับตัวเรา ที่ทำให้เราเดือดร้อนใจ ไม่สบายใจ น้อยใจ เสียใจ กลุ้มใจ หนักใจ กังวลใจ หวั่นวิตก ไปจนถึงความกังวลต่างๆ แล้วจะเห็นว่าใจของเรานั้น กำลังคิดถึงใครคนใดคนหนึ่งอยู่ เราเป็นทุกข์เพราะคิดถึงเขา ก็แสดงว่า สิ่งที่ทำให้ใจของเราเป็นทุกข์นั้น เกิดจากการดำริถึงเขา ดังนั้น ถ้าไม่ต้องการเป็นทุกข์ ก็หยุดดำริถึงเขาเท่านั้นเอง


เคยมีบางแนวคิดที่กล่าวว่า การฆ่าตัวตายถือเป็นบาปกว่าฆ่าคนอื่นเป็นเรื่องจริงไหมขอรับ

แนวคิดนี้คงนำมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้นะ เพราะการวัดว่าบาปมากบาปน้อยต้องดูที่เจตนาของจิตที่คิดจะฆ่า ว่ามีความตั้งใจมากหรือตั้งใจน้อย พยายามมากหรือพยายามน้อย ถ้าตั้งใจมากพยายามมาก ก็ถือเป็นบาปมาก แต่ถ้าตั้งใจน้อยพยายามน้อย เกิดจากความคิดเพียงชั่ววูบก็ย่อมบาปน้อยกว่าคนที่มีการวางแผนมานานแล้ว  มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระฉันนะที่ฆ่าตัวตายเพราะทนโรคภัยไข้เจ็บไม่ไหว ทว่าสามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ในช่วงก่อนจะสิ้นลม

แบบนี้ถือเป็นบาปไหมขอรับ

ไม่ถือว่าเป็นบาป เพราะท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ซึ่งหมายความว่าท่านเข้าถึงนิพพาน ไม่ต้องวนเวียนมาให้เป็นทุกข์อีกแล้ว จึงแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปที่ยังไม่หลุดพ้นจากความทุกข์ เหตุที่ยังมีคนฆ่าตัวตายอยู่ เพราะหลงคิดไปว่าเมื่อตายแล้วจะสามารถหลีกหนีจากความทุกข์ไปได้ ซึ่งไม่จริงเลย เพราะการไปเกิดในอบายจะยิ่งต้องทนทุกข์หนักกว่าเดิมหลายเท่า

 

 

แล้วเราจะเพิ่มภูมิต้านทานไม่ให้ความทุกข์เกาะกินใจได้อย่างไรบ้างขอรับ

ถ้าเรามีธรรมะอยู่ในใจ ก็จะมีภูมิต้านทานในตัวอยู่แล้ว ให้กำหนดดู รู้เท่าทันใจ ฝึกเจริญสติบ่อยๆ โดยอาศัยสติสัมปชัญญะที่เกิดจากการสังเกต 4 สิ่งคือ กาย เวทนา จิต ธรรม หรือ สติปัฏฐาน 4 นั่นเอง การหมั่นสังเกตทั้งกายและใจอยู่เสมอ จะทำให้จิตใจหนักแน่น ส่งผลให้เราสามารถห้ามใจไม่ให้คิดฟุ้งซ่านได้ ในที่สุดใจก็วางเฉยได้เอง และไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ แล้วเราก็จะไม่เป็นทุกข์จนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย

Tips วิธีทำใจให้วางเฉย ...แบบรวดเร็ว เห็นผลทันตา !

วิธืที่ 1 ไม่เอาใจใส่ต่อสิ่งนั้น และเบี่ยงเบนใจไปที่อื่น

ไม่ว่าจะมีคนด่าหรือชม เราก็สามารถเบี่ยงเบนใจ ไม่เอาใจใส่ โดยเอาใจไปกำหนดไว้ที่อย่างอื่นแทน เช่น กำหนดลมหายใจเข้า-ออก เมื่อเบี่ยงเบนใจได้สำเร็จ ใจก็จะไม่เป็นทุกข์ และหนักแน่นขึ้น

วิธีที่ 2 ฝึกใจให้รอบรู้เท่าทันใจ แล้วใจจะไม่เป็นทุกข์

ใจรู้สึกอย่างไร ให้ตามดูจนเรารู้เท่าทันใจ จะเห็นการเกิดดับของอารมณ์ ทำให้ปล่อยวางได้และไม่เป็นทุกข์

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook