อ.คฑา ชินบัญชร นำทีมร่วมพิธีบูชาดาว จันทบุรี 2561 เสริมมงคล

อ.คฑา ชินบัญชร นำทีมร่วมพิธีบูชาดาว จันทบุรี 2561 เสริมมงคล

อ.คฑา ชินบัญชร นำทีมร่วมพิธีบูชาดาว จันทบุรี 2561 เสริมมงคล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

งานบูชาดาวนพเคราะห์ วัดเขตร์นาบุญญาราม จันทบุรี วันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม พ.ศ. 2561 งานบุญ เสริมมงคล เสริมดวงเฮง ในงานบูชาดาว 9 นพเคราะห์  จัดขึ้นที่ วัดเขตร์นาบุญญาราม หรือ วัดญวน ใน อ.เมือง จ.จันทบุรี

ซึ่ง พิธีบูชาดาวนพเคราะห์ เป็นงานประจำปีของวัดเขตร์นาบุญญาราม ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงของเดือนแรกของปีตามปฏิทินของ อนัม-จีน ซึ่งจะตรงกับประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดจันทบุรี 

เป็นพิธีกรรมโบราณสืบทอดมาจากชาวญวน เริ่มแพร่ขยายเข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ปัจจุบันหลงเหลือพิธีไหว้บูชาดวงดาวเพียงแห่งเดียวในไทยคือที่ วัดเขตต์นาบุญญาราม อ.เมือง จ.จันทบุรี เป็นพิธีทางศาสนาของจีนนิกายและอันนัมนิกายร่วมกัน ซึ่งมีความเชื่อว่าการไหว้ดวงดาวเป็นการเสริมดวง ต่ออายุ และสะเดาะเคราะห์ โดยพิธีนี้จะมีเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยสืบสานพิธีนี้มานานกว่า 180 ปีแล้ว

ซึ่งมี อาจารย์คฑา ชินบัญชร ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ นำขบวน ผู้โชคดีจาก "เว็บสนุก" (www.sanook.com) ทั้ง 10 ท่าน ร่วมงานบูชาดาว 9 นพเคราะห์เสริมสิริมงคล พร้อมกับประชาชนที่มาเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

โดยลำดับพิธีการนั้น พระสงฆ์อนัมนิกาย จะทำการประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เปิดพิธีในช่วงเวลาเช้าและสวดพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคล ในวันที่สองของงานในตอนค่ำพระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมกับทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับบรรดาผู้ที่มาทำบุญ โดยการเวียนเทียนรอบโบสถ์ 3 รอบ แล้วจึงมีการถวายเทียน หรือจุดเทียนตามแต่ เพศ และอายุว่าเกิดในปี นักษัตรใด เพื่อที่จะนำไปตรวจว่าในปีนี้ “ดาวนพเคราะห์” พระองค์ใดเข้ามาเสวยอายุ ซึ่งจะมีคุณและโทษที่แตกต่างกันออกไป ต้องมีการจุดเทียนเป็นรูปแบบสัญลักษณ์ของดวงดาวนั้น ๆ เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์

ระหว่างพิธีจะมีการถวายเครื่องสักการะบูชาตามความเชื่อแก่เทพยดาต่าง ๆ พร้อมกันกับเทพดานพเคราะห์ทั้ง 9 ซึ่งเสวยอายุประจำปีของมนุษย์ เครื่องสักการะบูชา ได้แก่ เจไฉ่ (หมายถึง อาหารเจแห้ง อันประกอบไปด้วย เห็ดหอม วุ้นเส้น ดอกไม้จีน เห็ดหูหนู และฟองเต้าหู้) ผลไม้ และน้ำสะอาด เพื่อนำมาทำน้ำพระพุทธมนต์ โดยมีมูลเหตุของการประกอบพิธีบูชาดาวนี้มาจาก ความเชื่อที่ว่าครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนาไว้ว่า เทพเจ้าประจำดวงดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 พระองค์ ได้แก่

องค์ที่ 1 พระอาทิตย์ (ไท่เยือง) , องค์ที่ 2 พระจันทร์ (ไท่อ็อม) , องค์ที่ 3 พระอังคาร (หมอกดึ๊ก) , องค์ที่ 4 พระพุธ (หวาดึ๊ก) , องค์ที่ 5 พระพฤหัสบดี (โถดึ๊ก) , องค์ที่ 6 พระศุกร์ (ไท่บัด) , องค์ที่ 7 พระเสาร์ (ถีดึ๊ก) , องค์ที่ 8 พระราหู (ราโห้ว) , องค์ที่ 9 พระเกตุ (เก้โด่) 

ซึ่งตามความเชื่อของมหายานแล้วนั้น ทั้ง 9 ดวงเป็นดาวที่มนุษย์ปุถุขนผู้หนึ่งผู้ใดถ้าได้ปฏิบัติทำความเคารพสักการะและ ได้นิมนต์มาเจริญพระพุทธมนต์ตามพระคัมภีร์นพเคราะห์นี้แล้วจะได้เป็นการต่ออายุหรือเพิ่มอายุให้ยืนยาวนานตามความเชื่อ และเป็นการขอพรเพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคล รวมทั้งปกป้องคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ให้กับตัวเอง ทั้งชาตินี้และชาติหน้า โดยเทพยดาทั้ง 9 พระองค์นี้ ในความเชื่อทางฝ่ายมหายานได้กล่าวไว้ว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเข้าไปสู่ปรินิพพานได้ทรงแผ่บารมีความเมตตากรุณาแก่สรรพสัตว์ไว้มาก ครั้นเมื่อปรินิพพานไปแล้วนั้นจึงได้จุติเป็นเทพยดาประจำดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 พระองค์ และได้ปฏิญาณตน ไว้ว่า จะแผ่เมตตาไปให้แกสรรพสัตว์ที่เกิดในโลกนี้นานถึง 4 กัลป์

โดย อ.คฑา ได้กล่าวว่า....การบูชาดาวนพเคราะห์ เป็นพิธีโบราณ เชื่อว่าจะก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในยศถาบรรดาศักดิ์ อายุยืนยาว อานิสงส์มาก ส่งถึงญาติมิตรทั้งหลายที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ตามความเชื่อของมหายาน เชื่อว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 พระองค์นั้น จะคอยดูแลปกครองและรักษาให้ได้ซึ่งความสุขความเจริญ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook