ฮือฮา “โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” สร้างพญานาค 7 สี หลังถูกหวย 4 งวด

ฮือฮา “โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” สร้างพญานาค 7 สี หลังถูกหวย 4 งวด

ฮือฮา “โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” สร้างพญานาค 7 สี หลังถูกหวย 4 งวด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากรายการโหนกระแส (วันที่ 22 ม.ค.) เป็นเรื่องราว “คุณโป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” ที่ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อกัน 4 งวด 140 คู่ ทำให้ประชาชนแห่ไปรดน้ำมนต์กับฤๅษีเณรล้นวัด ความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคที่บูชา รวมถึงของดีที่พกติดตัวมีอะไรบ้าง มีพุทธคุณอย่างไร

วันนี้ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย  ได้เชิญ คุณปรีชา จิตบริสุทธิ์” หรือ “ฤๅษีเณร” และ “คุณพงษ์ศักดิ์ โสภักดี” หรือ “โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” มาร่วมพูดคุยกันในรายการ

 

คุณโป๊งเหน่ง อยู่ดีๆ อารมณ์ไหน เห็นมีข่าวลงทุกช่อง ไปถูกล็อตเตอรี่แล้วเอาเงินไปแจกชาวบ้านคนละร้อย?

โป๊งเหน่ง : การถูกล็อตเตอรี่เหมือนไปดู ไปที่สำนักอาจารย์ เพราะฝากตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์สองปีแล้ว เขามีงานไปบวงสรวงที่ไหนก็ติดตาม  เราไปเจอของดีเขาเข้า เขาก็ไปเจอของดีหลายๆ อย่าง

 

หาที่พึ่งเป็นโรคซึมเศร้า?

โป๊งเหน่ง : ถูกต้องครับ ไม่สบายเพิ่งหาย ช่วงนั้นผมไม่สบาย งานก็ลดน้อยถอยลง ปอดเป็นรู 5 รู หมดเป็นแสนกว่าไม่หาย กลับบ้านมาหาอาจารย์ หาย จริงๆ ไปหาหมอชาวบ้าน

 

ไม่งั้นต่อไปไม่ต้องมีหมอ?

โป๊งเหน่ง : หมอเหมือนกัน แต่หมอคนละอย่างกัน หมอในกรุงกับหมอบ้านนอก หมอบ้านนอกเห็นเป็นคลินิกเล็กๆ แต่รักษาหาย

 

พอไปรักษาคุณบอกว่าแพง ไปเจอฤๅษี เขารักษาให้หายหมื่นกว่าบาท?

โป๊งเหน่ง : ฤๅษีแนะนำให้ไปหาหมออีกท่านหนึ่ง เขาเป็นคนแนะนำไป ถ้าไม่ได้เขาก็แย่เหมือนกัน ก็ไปรักษาแล้วหาย เหมือนดวงชะตาผมกับดวงชะตาฤๅษีเณรต้องกัน ผมไปรับใช้เขา 2 ปี มีอยู่วันหนึ่งอาจารย์ทำน้ำมนต์กลางหาว

ฤๅษี : เป็นน้ำมนต์โบราณ สมัยก่อนวิชาการสืบทอดน้ำมนต์กลางหาว เวลาเขาจะมีวิธีราษฎร์หรือวิธีหลวง เขาก็จะใช้น้ำมนต์นี้เพื่อเสริมมงคลและขับไล่อวมงคล หรือสิ่งที่ไม่ดี น้ำมนต์กลางหาว คือเป็นการรองน้ำค้างทุกวันพระ ขึ้น 15 ค่ำข้างขึ้น อย่างน้อยก็ 3 วันพระ 5 วันพระ 7 วันพระ 9 วันพระ แล้วมาผสมกับน้ำที่เราคิดว่าศักดิ์สิทธิ์ ตามตำราโสฬสสะระตะ ก็อยากตอบคำถามที่คนไม่เชื่อเหมือนกัน หลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับความงมงายเพราะเดี๋ยวนี้สื่อต่างๆ ที่ออกมาไม่ขอกล่าวว่าสื่อไหน ถ้าเอาคนไม่มีความรู้มาพูดกับคนที่มีความรู้ ก็ทำให้วงการความเชื่อเสื่อมไปเยอะแล้ว

 

ใช้คำว่าวงการความเชื่อ?

โป๊งเหน่ง : ครับ

ฤๅษี : มีสิครับ คนที่เขามีความเชื่อ อย่างสมมติเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เขาอยู่ในโลกใบนี้ อยู่ในประเทศเรา ส่วนมากเขาเป็นสหธรรมมิตร ภาษาธรรมดาคือเพื่อนที่อยู่ร่วมกัน สมมติ อย่างผมกับหลวงพ่อวัดสว่างอารมณ์ หรือว่ากับหลวงพ่อวัดไหนๆ นี่เรียกวงการ วงการหนึ่ง อาจมีหลายวงการ สายที่คนอยากดังก็มี

 

ไปเรียนวิชามาจากไหน?

ฤๅษี : ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นเด็กวัด บ้านเก่าอยู่ไม่ไกลจากวัด เดิน 20-30 ก้าวก็ถึง แล้วผมเนี่ยเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่วัดบวรฯ ทีนี้ผมไปเป็นลูกศิษย์อยู่ พระทำวัตรเช้าวัตรเย็น เราก็มีความชอบส่วนตัวแหละ ก็ศึกษาเกี่ยวกับการไหว้พระสวดมนต์บูชา เพราะหลวงปู่สดท่านเป็นเกจิพระอาจารย์ เราก็ซึมซับตรงนี้มา พอดีมีอยู่ครั้งหนึ่ง ไปเจอหลวงปู่มิตร ซึ่งเป็นศิษย์เอกหลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ผมก็เลยเรียนมา เริ่มเรียนวิชาอักขรขอมจนแตกฉานได้สักอายุ 8 ขวบกว่าถึง 9 ขวบ เข้าบวชในพระพุทธศาสนาตั้งแต่ 10 ขวบ ธุดงค์อยู่ 8 ปี เป็นฤๅษีต่ออีก 12 ปี

 

ทำไมไม่บวชต่อมาเป็นฤๅษีทำไม?

ฤๅษี : การที่เราอยู่ในเพศบรรพชิต บางสิ่งบางอย่าง การช่วยเหลือคนไม่สามารถทำได้ เช่น การแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง

 

อดไม่ได้?

ฤๅษี : บางครั้งเป็นกฎปาราชิก เป็นฤๅษีแตะได้ คิดว่าเป็นฤๅษีดีกว่า

 

ละไม่ได้?

ฤๅษี : ทุกวันนี้ผมก็ถือเพศบรรพชิตเหมือนกัน

 

ทำไมมาปลุกเสกของได้?

ฤๅษี : อันนั้นเป็นอำนาจของจิต ถ้าเราว่างมงาย แล้วที่เขาบอกว่าพระพุทธเจ้าของเราเกิดมาเดินได้ 7 ก้าว เชื่อมั้ย เดิน 7 ก้าวปุ๊บชูนิ้วขึ้นเลย แปลเป็นไทยว่า ตัวอาตมาจะนำสัตว์ทั้งหลายข้ามห่วงแห่งนิพพาน หรือวัฏสงสาร สมมติเรามาพูดกันแบบนั้นคนเดี๋ยวนี้ก็ต้องไม่เชื่อ

 

แต่อันนั้นเป็นพุทธประวัติ?

ฤๅษี : แล้วคิดมั้ยว่าพุทธประวัติที่เขาเขียนไว้เรื่องอิทธิฤทธิ์ก็มี กระสินแบ่งย่อยเป็น 40 กอง กระสินถ้าเราศึกษาตามพระพุทธเจ้าพูด เอามาทำอะไร เอามาสำแดงฤทธิ์ สำแดงให้เห็นก่อน แล้วค่อยเอามาปฏิบัติ

 

คนด่าเยอะมั้ย?

ฤๅษี : ด่าเยอะแต่ไม่สนใจ เพราะคนเราในโลกใบนี้ พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีใครไม่โดนนินทาหรือดูถูก แต่สิ่งนั้นทำให้เรามีกำลังใจสู้ต่อมากกว่า

 

มุมหนึ่งมองไปทางพุทธ อีกมุมก็ละไม่ได้ มีรักโลภโกรธหลง ดูย้อนแย้งหรือเปล่า?

ฤๅษี : ถ้าพูดว่ามีรักโลภโกรธหลง ผมถามว่าพระอรหันต์กับตัวผมแตกต่างกันแค่ไหน ใครตอบได้บ้าง พระอรหันต์ เรามีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อารมณ์ไง โกรธ 20 ปี ไม่ยอมอโหสิซึ่งกันและกัน แต่พระอรหันต์กับผม แตกต่างกันแค่ตั้งอยู่เท่านั้น สมมติผมอยู่ๆ ถือไม้มาตีหัวคุณหนุ่ม ปั้ง โกรธมั้ย ตั้งอยู่ โกรธนานมั้ย แต่พระอรหันต์ไม่โกรธ ต่างกันแค่นี้ แค่ตั้งอยู่นานหรือไม่นานแค่นั้น

  

คุณโป๊งเหน่งถูกล็อตเตอรี่กี่ใบ?

โป๊งเหน่ง : งวดล่าสุดล็อตเตอรี่ 2 ตัว 140 ใบ ถูกมางวดที่ 4  ไปได้มาที่สำนักอาจารย์ ไปดูสิ

 

ถูกมาร้อยกว่าใบ เอาไปแจกคน คนละร้อยบาท?

โป๊งเหน่ง : เขาเรียกเงินขวัญถุง บางครั้งได้มาก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ก็ต้องแจกบ้าง ทำบุญบ้าง แจกที่สำนัก อาศรมฤๅษี

 

วันนี้จะมีการสร้างพญานาค?

โป๊งเหน่ง : ผมสร้างเสร็จ สำเร็จรูปแล้วเอาเงินไปจ่ายก็ยกมาเลย

 

กำลังจะถอนทุนคืน?

โป๊งเหน่ง : ไม่ๆ ไม่ใช่กระแส พูดถึงพญานาค กระแสมาแล้ว ตั้งแต่คำชะโนด ที่อาศรมอาจารย์เณรมีปู่ศรีสุทโธ กับแม่ย่าปทุมมา ผมก็เลยไปบนตรงนี้เอาไว้ ถ้าถูกนิดๆ หน่อยๆ ก็จะเอาพญานาคมาถวาย 1 ตัว ก็หุ้นกับเพื่อน 3 คน ถูกไม่มากหรอก สร้างมา 580,000 หุ้นกัน 3 คน

 

ทำไมต้องสร้าง 7 สี?

โป๊งเหน่ง : เพราะไม่เหมือนตัวอื่นเขา พญานาคส่วนใหญ่มีสีเขียว ผมตัวเดียวครบ 7 สีเลย

 

ไปมาอยู่อย่างนี้ 2 ปีกว่า?

โป๊งเหน่ง : ครับผม ไม่ไปไหนแล้ว มาเจอของดีที่นี่แล้ว ผมเป็นลูกศิษย์ดูแล

 

เห็นมีคนบอกว่าทางฤๅษีสร้างกระแสเรื่องความเชื่อ เอาความเชื่อมาปรุงแต่ง?

ฤๅษี : ทำไมไม่คิดว่าทางอาศรมเราเป็นกำลังใจให้คนที่ขาดสติ ฤๅษีเณรไม่ได้บอกว่ามาทำนี่เก็บตังค์ มาทำโน่นเก็บตังค์

 

เก็บตังค์มั้ย?

ฤๅษี : บางครั้งก็มีเก็บเพราะการทำพิธีเปิดดวง ลงนะหน้าทอง พูดตรงไปตรงมา อาศรมก็มีค่าน้ำค่าไฟ ค่าโน่นค่านี่เยอะแยะมากมายเหมือนกัน ก็เอาส่วนนี้มาใช้จ่าย

 

เก็บเท่าไหร่?

ฤๅษี : ไม่ได้มีราคาค่างวด คือสมมติงานไหว้ครู เขาก็มีพานครู ก็ 500 กว่า เขาเรียกว่าเป็นการถือเคล็ด ถือลาง ถือพิธีกรรม ถ้าคนไม่รู้ก็พูดไปต่างๆ นานา คนโบราณที่เขาคุยกันว่าอาจารย์คาถานี้แปลว่าอะไร บางครั้งเขาก็ตอบว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะถ้ารู้แล้วจะไม่ขลัง แต่บางครั้งรู้แล้วขลังก็มี คาถาอาคมไม่เหมือนกัน การใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน

 

ออกมาพูดแบบนี้ไม่กลัวคนด่า?

ฤๅษี : ไม่กลัว ทุกวันนี้จริงๆ ก็กินข้าวแค่มื้อสองมื้อ

 

ถ้าโดนร้องเรียนว่าหลอกลวง?

ฤๅษี : โหย เยอะแล้ว ร้องอีกก็ไม่ได้ว่า

 

ถ้าเขามาตรวจสอบ?

ฤๅษี : ได้ เต็มที่ ลองไปสิ จะยากอะไร

 

มีใครไปตรวจสอบหรือยัง?

ฤๅษี : โห เยอะ กรมพุทธศาสนาก็เข้าไป อะไรก็เข้าไป แต่ทุกอย่าง ผมบอกก่อนนะ ใครก็แล้วแต่ที่กำลังเป็นทุกข์ คนเราแพ้อย่างเดียวคือความดี และความเมตตา หลายๆ คนอาจมองฤๅษีเณรว่าสิ่งที่สร้างเยอะแยะมากมาย แต่หลายๆ คนอาจไม่เคยเห็น ฝั่งที่เขาทำความดี เช่น ผมตั้งเป็นมูลนิธิพลังพุทธคุณ เงินเข้าออกมูลนิธิหมด ที่ผ่านมากฐิน 9 วัดก็หลายบาท ช่วยวัด ช่วยโรงเรียน เลี้ยงอาหารกลางวันทุกเดือน จ้างครูพิเศษมาสอนครูทุกเดือน สาธารณประโยชน์ โรงพัก เยอะมาก แล้วมูลนิธิไม่เรี่ยไรทั่วไป อาจารย์เณรหาเงินคนเดียว สร้างคนเดียว ทำคนเดียว ถึงได้บอกว่าไม่กลัวใครมาตรวจสอบไง

 

เป็นไปได้มั้ย สิ่งที่อาจารย์เณรพูด บางกลุ่มอาจมองว่า หว่านพืชหวังผล ให้เห็นว่าเรามีบารมีแล้วค่อยมาเก็บดอกทีหลัง?

ฤๅษี : ถ้าคิดอย่างนั้นก็เป็นประเภทอลัชชี คือมารนอกศาสนา พระพุทธเจ้าบอก จงอย่าหลงกับธรรมของเรา ดูก่อนอานนท์

 

พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่าอวดอุตริเป็นผู้วิเศษ?

ฤๅษี : พระเวสสันดรชาดกมีจริงมั้ย มันอยู่ในตำราของพระพุทธเจ้า คนไม่เข้าใจก็ต้องอธิบาย ไม่ใช่ไปอาฆาตเขา ถ้ามองว่าดูย้อนแย้งการปฏิบัติที่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าบอกว่าตนเองคือผู้เห็นตนเอง แต่ความผิดของภิกษุหรือผู้ทรงศีล ผิดเพราะโลกติเตียน

 

หยุดทำแบบนี้ได้มั้ย ดูไม่น่าศรัทธา?

ฤๅษี : มีเหตุผลอะไรให้ผมหยุด การที่เราแผ่เมตตาหรือโปรดสัตว์พระพุทธเจ้าก็บอกวิธีไว้ ถ้าให้หยุดปลุกเสก ก็เหมือนให้ผมหยุดปฏิบัติธรรม เพราะอย่างที่เล่าให้ฟังว่ากระสิน 10 คือการสำแดงฤทธิ์

 

ณ วันนี้ถ้ามีคนพูดว่าปัจจุบันสังคมไทยขายดีมี 3 อย่าง หนึ่งความสวย สองสุขภาพ สามความเชื่อ?

ฤๅษี : อาหารเสริมปรุงยังไงก็ได้ แต่ถ้าวงการความเชื่อประกอบด้วยความศรัทธา ความศรัทธาคือความเชื่อ ความเชื่อคือปาฏิหาริย์ สิ่งที่เราจับต้องไม่ได้ แต่เกิดขึ้นได้

 

คิดอยู่ฝ่ายเดียว?

ฤๅษี : ก็คงคิดกันทั่วโลก

 

เวลาไปข้างนอกแต่งชุดแบบนี้?

ฤๅษี : ผมแต่ง 2 แบบ คือชุดแบบนี้กับชุดม่อฮ่อม ส่วนมากใส่แบบนี้ เวลาออกจากอาศรมต้องไปพิธีการพิธีกรรมเท่านั้น

 

หยิ่งด้วย เชิญไม่ค่อยไป?

ฤๅษี : ไม่ใช่หยิ่งหรอก อยากจะไปนะ ตามวัดตามวาตามพิธีการ แต่ว่างานตัวเรามันเยอะ

 

ณ วันนี้สำนักพุทธมาบอกแล้วว่าห้ามขาย ห้ามให้เช่าวัตถุมงคล ห้ามให้หวย ห้ามให้เลข ทุกอย่าง ทำไมยังทำ?

ฤๅษี : ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้ให้  โป๊งเหน่งผมก็ไม่ได้ให้ เขาไปดูของเขาเอง น้ำมนต์กลางหาวเขาไปดูกับตาเขาเอง หาวในบาลีคือท้องฟ้า คือน้ำค้างนั่นแหละ

 

หลังออกรายการ สังคมพิพากษาว่าทำแบบนี้ไม่เหมาะไม่ควร ย้อนแย้ง ขอให้คนเข้าไปตรวจสอบ?

ฤๅษี : ยินดีต้อนรับ ผมไม่หยุด

 

ถ้ามีข้อกฎหมายว่าหลอกลวง?

ฤๅษี : ข้าราชการก็มีสิทธิ์ที่เขาจะตรวจสอบ และเราให้เขาตรวจสอบ อะไรทำให้ฤๅษีเณรหยุด หยุดเพราะอะไร สังคมจะประณามคนดีคนหนึ่งให้จมแผ่นดินไม่ได้

โป๊งเหน่ง : ทำเพื่อช่วยสังคม

ฤๅษี : การสร้างความดี สมมติคุณหนุ่มไม่ชอบอาจารย์เณร จ้างคนพันคน คนละหนึ่งร้อย ให้ลงมติว่าอาจารย์เณรเป็นคนชั่ว ผมก็โดนคนไม่ดีทำร้ายง่ายๆ  สรุปนะ บุคคลที่จะรู้ได้ว่าฤๅษีเณรเก่งจริง หรือปลอม บุคคลนั้นต้องมีปัญญา เมื่อมีปัญญาก็มาที่อาศรมและมาทดสอบปัญญาผมเท่านั้น คริสตจักรก็มีรูปแบบคริสตจักร อิสลามก็มีรูปแบบอิสลาม ปัญญาในการตีวิชาให้แตกฉาน

 

ไม่ใช่มาเสก?

ฤๅษี : เรื่องวิชาอาคมก็ถามได้

 

วันนี้ทำอะไรบ้าง?

ฤๅษี : ที่เราศึกษามาก็สารพัดเรื่อง อยากทราบเรื่องอะไรก็เข้าไปถามผม ผมตอบได้ทุกอย่างด้วย

 

ถ้าสังคมส่วนใหญ่มองว่าให้ไปตรวจสอบแล้วไปเจอ แบบนี้หลอกลวงให้หยุด?

ฤๅษี : ขออนุญาตนิดหนึ่ง คำว่าพระพุทธเจ้าที่ห้ามภิกษุอยู่ในที่ลับหูกับลับตา คำว่าลับหูคือเห็นอยู่แต่ไม่ได้ยิน ที่ลับตา เราไม่เห็นแต่ได้ยินเสียง  ภิกษุกล่าวหาภิกษุด้วยกัน คือปาราชิกนะ

 

สังคมมีกระแสย้อนแย้งกลับมา อยากรู้ว่าแบบนี้ได้เหรอ?

ฤๅษี : สมมติมีมีดอยู่เล่มหนึ่ง เราสามารถประหารคนได้ แต่จะประหารโดยใช้ความคิด จะลงโทษใครก็ได้เหรอถ้ามีมีด  ทุกวันนี้ผมก็กำลังแจงเรื่องความถูกต้องให้สังคมเห็น

 

เสกปลัดขิกให้ชาวบ้านมีของดีติดตัว ค้าขายดี?

ฤๅษี : มันเป็นความเชื่ออีก คนไม่มีความเชื่อเอาไปแค่ไม้ธรรมดา โยนเมื่อไหร่ก็โยนได้ แต่ถ้ามีความเชื่อสิ่งนี้มันขลัง ศักดิ์สิทธิ์ และเราต้องทำความเข้าใจกับมันด้วย ผมไม่ใช่ผู้วิเศษทำให้ใครรวยก็ได้

 

คนด่า?

ฤๅษี : ก็แล้วแต่ ไม่สนใจ

โป๊งเหน่ง : ให้เขาด่าไปครับ ผมก็ยังนับถืออาจารย์เณรของผมอยู่

 

ฝากอะไร?

โป๊งเหน่ง : ที่อาศรมฤๅษีเณร เขาจะมีการไหว้ครู 3-4-5 ก.พ. ถ้าเชื่อก็ไปดูให้เห็นกับตา ไม่เชื่อก็ไม่ต้องไป แค่นั้นเอง ใครอยากไปตรวจสอบก็ไปเลย

 

ถ้าเขาชี้ว่าผิด?

ฤๅษี : ผิดก็ยินดีรับผิด ลูกผู้ชายไง แต่ถ้าถูกจะแก้อะไรให้ผม

โป๊งเหน่ง : ถ้าถูกสังคมจะให้อะไรเรา หรือไปสำนักกันเยอะๆ  อยากรู้มานานแล้วไอ้สังคมเป็นใคร

ฤๅษี : จริงๆ ผมไม่ต้องการความศรัทธาจากคน คนที่เขาศรัทธาเพราะเขาเห็นแล้วศรัทธา ไม่ต้องแห่กันไปแต่ไม่เชื่อ มันก็เท่านั้นแหละ มันไม่มีประโยชน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook