เปิดเครื่องราง ของขลัง "นางงาม" ให้โชคมหาเสน่ห์

เปิดเครื่องราง ของขลัง "นางงาม" ให้โชคมหาเสน่ห์

เปิดเครื่องราง ของขลัง "นางงาม" ให้โชคมหาเสน่ห์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความเชื่อกับโหราศาสตร์ถือเป็นสิ่งที่อยู่กับสังคมไทยมาช้านาน ตั้งแต่การถือฤกษ์สร้างบ้าน ฤกษ์ยามออกศึกทำสงคราม การถือฤกษ์แต่งงาน ออกบวช การแข่งขันหรือการประกวด ภารกิจสำคัญๆ ในชีวิต ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานจนถึงปัจจุบันนี้

แม้กระทั่งเวทีประกวดนางงาม จึงเป็นเรื่องปกติจนถึงขั้นเป็นสิ่งที่ต้องกระทำสำหรับผู้แข่งขันหรือผู้ประกวด ที่จะต้องมีของมงคลมาช่วยเสริมโชคลาภเพื่อเป็นกำลังใจ และไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือพกเครื่องราง ของขลัง ไว้ติดตัวเพื่อให้สามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่น และเป็นขวัญกำลังใจ เสริมดวงบารมี ดังเช่นต่อไปนี้

ที่กำลังเป็นกระแสขณะนี้ มารีญา พูลเลิศลาภ หรือ มารีญา ลินน์ เอียเรียน (Maria Lynn Ehren) เป็นนางงามผู้ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 เป็นตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมชิงมงกุฎ การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา และได้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย เธอได้นำเครื่องรางของขลังติดตัวไปด้วยในการเดินทางไปประกวดในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ผ้ายันต์เจ้าคุณธงชัย 2 ผืน พระพิฆเนศวร และ เจ้าแม่กวนอิม

Image result for ผ้ายันต์เจ้าคุณธงชัย

ซึ่งก่อนหน้านี้เธอและครอบครัวได้เข้ากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้า พระนารายณ์ทรงครุฑประทับบนพระราหู ที่ กุฏิท่านเจ้าคุณพระพรหมมังคลาจารย์ หรือ เจ้าคุณธงชัย โดยเจ้าคุณธงชัยก็ได้มอบวัตถุมงคล ผ้ายันต์ศิวะนาฏราช และ ยันต์ธงชัยนวหรคุณ win win win ให้กับมารีญาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการประกวด เท่านั้นยังไม่พอ มารีญา เธอยังมีตารางสีเสื้อประจำวัน ติดไว้ที่ประตูเสื้อผ้า และท่องบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ก่อนนอนทุกวัน บทสวดนี้ ถ้าหากท่านใดได้สวดจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นกิจการงานแขนงไหนที่ทำอยู่จะมีความเจริญก้าวหน้า

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ฉบับย่อ (อริยสัจ ๔)

(1) อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขัง อะริยะสัจจัง. ชาติปิ ทุกขา, ชะราปิ ทุกขา, มะระณัมปิ ทุกขัง, โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา, อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข, ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข, ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ, ตัมปิ ทุกขัง, สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา

(2) อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจัง. ยายัง ตัณหา โปโนพภะวิกา นันทิราคะสะหะคะตา ตัตระ ตัตราภินันทินี. เสยยะถีทัง กามะตัณหา ภาวะตัณหา วิภะวะตัณหา

(3) อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง. โย ตัสสาเยวะ ตัณหายะ อะเสสะวิราคะนิโรโธ จาโค ปะฏินิสสัคโค มุตติ อะนาละโย

(4) อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจัง. อะยะเมวะ อะริโย อัฏฐังคิโก มัคโค. เสยยะถีทัง สัมมาทิฏิ สมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสะมาธิ

คำแปล

(1) ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้เป็นทุกขอริยสัจ คือ แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์ แม้ความตายก็เป็นทุกข์ แม้ความเศร้าโศกเสียใจ ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจก็เป็นทุกข์ ความประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ความไม่ได้สิ่งที่ปรารถนาเอาไว้ก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์

(2) ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้เป็นทุกขสมุทยอริยสัจ คือ ตัณหาอันทำให้เกิดอีก ประกอบด้วย ความเพลิดเพลินและความกำหนัด มีปกติให้เพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา

(3) ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้เป็นทุกขนิโรธอริยสัจ คือ ความดับตัณหาไม่เหลือด้วยวิราคะ ความละ ความสละทิ้ง ความพ้น ความไม่อาลัยในตัณหา

(4) ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้เป็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้แลได้แก่

4.1 สัมมาทิฐิ (เห็นชอบ)
4.2 สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)
4.3 สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)
4.4 สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)
4.5 สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)
4.6 สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)
4.7 สัมมาสติ (ระลึกชอบ)
4.8 สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)

 


และหากย้อนไปในอดีต เวทีขาอ่อนที่ฮือฮามากที่สุด ต้องยกให้ยุคของ ดร.กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ เข้าประกวดนางสาวไทยในปี พ.ศ. 2529 และปี พ.ศ. 2531 หลังจากนั้นเข้าร่วมประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ เธอได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 1988 และเป็นตัวแทนสาวไทยประกวดมิสเวิลด์ ปี 1988 ที่ อังกฤษ และยังเป็นใบเบิกทางให้เธอก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

โดยในปี 2531 ได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ด้านหลังเวทีมีมือดีเอาสายสะพายและคทานางงามไปทิ้งลงในโถส้วม สาเหตุว่ากันว่าเป็นเพราะเพื่อนนางงามด้วยกันไม่พอใจคำตัดสินที่ให้ กบ คว้ามงกุฎ ภายหลังปภัสราได้ให้สัมภาษณ์ทางรายการทีวีว่า การประกวดครั้งนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจเข้าประกวดด้วยซ้ำ และเผยว่ามีเครื่องรางของขลังติดตัวคือ ปลัดขิก นั่นเอง โดยใส่ปลักขิกไว้บนหัว ตรงมวยผมทุกครั้งที่ขึ้นเวที เป็น ปลัด อาจารย์ซ่วน วัดท่าลาด จนทุกวันนี้เรียกกันว่า "ปลัดนางงาม"

อีกทั้งยังมีเรื่อง “แสงสีทอง” สิ่งศักดิ์สิทธิ์เครื่องราง ของ หลวงพ่อปรีชา ที่อ้างว่ามีค่าสูงมาก แต่จะมีรูปร่างอย่างไรยังไม่มีใครทราบ โดย หลวงพ่อปรีชา (เจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโต) เผยว่าได้ให้ของสิ่งนี้กับนางงามท่านหนึ่ง ไปเพื่อประกวดนางงามและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย จึงให้ไปประกวดจนชนะ แต่ไม่ทำตามสัญญา ไม่ยอมเอาแสงสีทองที่หลวงพ่อให้มามอบคืน ไม่รักษาสัจจะวาจา จนเกิดกระแสวิจารณ์ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ “หลวงพ่อปรีชา” ประกาศลาสิกขา จึงปิดตำนานเจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโต

จริงๆ แล้วไม่ว่ายุคไหนๆ เรื่องแบบนี้ก็ยังอยู่กับคนไทยมาช้านาน เพื่อใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นขวัญกำลังใจให้ปกป้องคุ้มครอง ซึ่งก็แล้วแต่ความเชื่อและศรัทธาส่วนบุคคลนั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook