[Hands On] Samsung Galaxy Watch4 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ดีไซน์สวยอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพ

[Hands On] Samsung Galaxy Watch4 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ดีไซน์สวยอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพ

[Hands On] Samsung Galaxy Watch4 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ดีไซน์สวยอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่เราดูสมาร์ทโฟนกันไปแล้ว ในครั้งนี้ Samsung ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy Watch 4 รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน แม้จะไม่ได้เป็นพระเอกของงานแต่สมาร์ทวอทช์อย่าง Galaxy Watch 4 ก็สามารถเรียกความสนใจคนรักสุขภาพได้ไม่น้อยเลยครับ วันนี้เราจะพาคุณไปชมสัมผัสแรกกันว่าจะเป็นอย่างไร

รูปลักษณ์ดีไซน์ที่แรกเห็น

batch_img_9033

เริ่มต้นสิ่งแรกที่เห็นคือหน้าปัดทรงกลมเหมือนกัน โดยสิ่งที่แยกออกชัดเจนระหว่าง Galaxy Watch 4 และ Galaxy Watch 4 Classic คือ วงแหวนและขอบตัวเครื่องเท่านั้น ถ้ามีขอบวงแหวนและดีไซน์ดูพรีเมี่ยมกว่า ก็จะเป็นรุ่น Classic และหน้าปัดของรุ่น Classic จะใหญ่กว่า นั่นเอง

batch_img_9043
batch_img_9044

รอบตัวเครื่องยังใช้วัสดุ สแตนเลสสตีล มีปุ่มให้กดใช้งาน โดยรายละเอียดปุ่มต่างๆ นั้นยังเหมือนกับรุ่นที่แล้ว โดยมี 2 ปุ่มทางขวามือ ปุ่มบนจะเป็นการ เข้าเมนูหลัก ปุ่มล่างจะเป็นปุ่มย้อนกลับ หรือกดค้างเพื่อสั่งปิด Smart Watch ได้ทันที อีกฝั่งจะเป็นลำโพงสำหรับฟังสายเรื่องเข้า

batch_img_9041

พลิกมาด้านใต้ มันเปลี่ยนแปลงชัดเจนมาก เพราะเซนเซอร์ที่ Samsung เรียกชื่อใหม่ว่า Samsung BioActive Sensor มันกลับบางลงทำให้เมื่อใส่ไปแล้วจะไม่มีการกดทับกับข้อมือของคุณ หรือถ้ากดทับก็น้อยมากๆ ทั้งนี้จุดนี้จะสามารถรองรับการจ่ายพลังงานเข้าไปแบบ Wireless Charge กระจกทั้งบนและล่างเป็น Gorilla Glass DX+ แล้ว แข็งแรงแน่นอน ส่วนสายนั้นมีขนาด 20 / 22 มิลลิเมตรแล้วแต่ขนาดของหน้าปัด หาเปลี่ยนได้ง่าย และถอดง่ายกว่าเดิม ไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแล

โดยขนาดของ Galaxy Watch4 จะมีขนาด 40 / 44 มิลลิเมตร และ Galaxy Watch 4 Classic ที่ขนาด 42 / 46 มิลลิเมตร

batch_w_02_07freshwise_02_g

  • Galaxy Watch4 = ดำ, เงิน, เขียว(เฉพาะขนาด 44 มิลลิเมตร), Rose Gold (เฉพาะขนาด 40 มิลลิเมตร)
  • Galaxy Watch4 Classic = ดำ และ เงิน

ฟีเจอร์ของ Samsung Galaxy Watch 4 ที่จัดว่าเด็ดมาก

batch_img_9039

Samsung Galaxy Watch 4 ถือว่าเป็นอีก Smart Watch ที่มีการปฏิวัติวงการของ Smart Watch จากค่ายมือถืออย่างมาก เพราะมันรวมครั้งแรกไว้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น ระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ Wear OS + One UI Watch ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีมากขึ้น และยังมีระบบการดาวน์โหลด Application อัตโนมัติจากมือถือเข้าสู่มือถือ หากมีดาวน์โหลดแบบเดียวกันด้วยกัน

การเชื่อมต่อนั้นรองรับทั้ง Bluetooth V5.2 LE และบางรุ่นสามารถรองรับ 4G LTE ผ่าน eSIM, และมีเทคโนโลยี Samsung KNOX สร้างความมั่นใจใจการใช้งานขึ้น

batch_img_9041

การรวมเซนเซอร์วัดสุขภาพ 3 รูปแบบภายในตัวเดียวกัน โดย Samsung เรียกว่า Samsung BioActive Sensor จะรวมทั้งหมด 3 เซนเซอร์ ได้แก่ Optical Head Rate Sensor (PPG) Electrical Heart Rate Sensor (ECG) และ Bioelectrical Impedance Analysis Sensor (BIA) ทั้งหมดอยู่ใต้นาฬิกาทั้งหมด

ยังมีการใส่ระบบวัดมวลร่างกายหรือ Body Composition Analysis ที่สามารถบอกค่าได้มากไม่ว่าจะเป็น

batch_img_9036
batch_img_9037

  • Skeletal Muscle หรือ มวลกล้ามเนื้อ
  • Fat Mass ไขมันช่วงท้อง
  • Body Fat ไขมันทั้งร่างกาย
  • BMI
  • Body Watch ระดับน้ำในร่างกาย

ทั้งหมดนี้ไว้ให้คุณได้พิจารณาว่าการออกกำลังกายของคุณจะไปในรูปแบบไหน และวางแผนได้ง่าย โดยการทำงานง่ายมาก แค่นิ้วไปวางที่ปุ่มทั้ง 2 ปุ่มระบบจะวัดข้อมูลโดยอัตโนมัติเพียง 15 วินาที

นอกจากนี้ในโหมดของการออกกำลังกายก็จะมีตัวช่วยทำให้ออกกำลังกายกับเพื่อนได้สนุกเช่นการทำ Group Challenge และ Fitness Routines แถมยังมีฟีเจอร์การออกกำลังกายผ่าน Smart TV โดยแสดงผลเวลาและการออกกำลังกายผ่านทีวี

ระบบการวัดการนอนที่จับได้หลากหลายพฤติกรรมเช่น Snoring Detection จับการนอนกรนของคุณว่าระยะเวลาเท่าไหร่) Blood Oxygen Tracking วัดระดับ Oxygen ในเลือดระหว่างการนอน และคะแนนการหลับนอนที่แสดงผลละเอียดผ่านทาง Samsung Health และมีการวัดการนอน

batch_img_9055

การปรับปรุงสำคัญอีกครั้งคือมีการใช้ One UI Watch มาปรับปรุงพร้อมกับรองรับ Apps จากฝั่งของ WearOS ทำให้สามารถรองรับโปรแกรมมากขึ้นและสามารถทำงานร่วมกับมือถือได้มากขึ้นและสามารถติดตั้งโปรแกรมจากมือถือในอัตโนมัติ และ Sync เวลาผ่านมือถือได้ รองรับการสั่งงานทั้ง Bixby Voice / Google Assistant, หมุน, วงแหวน และ Gesture Control มีท่าทางทั้งหมด 3 ท่าทางง่ายๆ เช่น

  • โบกมือขึ้นลง 2 ครั้ง = รับสาย
  • หมุนข้อมือ 2 ครั้ง = ตัดสาย, ปิดการแจ้งเตือน และการปลุก
  • ทำท่าเหมือนเคาะประตู 2 ครั้ง = เลือกคำสั่งเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ยังสามารถทำงานมือถือและ Tablet ได้ลงตัวเช่นฟีเจอร์ Auto Switch ที่สามารถทำงานคล่องไปยังมือถือ Tablet, ควบคุมกับ หูฟัง หรือ Smart Watch หรือจะตั้งค่าหูฟังผ่านทางนาฬิกาได้เลย

ทั้งหมดประมวลผลบนขุมพลังใหม่ที่มีชื่อว่า Exynos W920X ขนาด 5 นาโนเมตร , หน้าจอความละเอียดสูง และความจำเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 16GB ทำให้ประสิทธิภาพของ CPU แรงขึ้น 20% และมี RAM เยอะกว่าเดิม 50% (1.5GHz และการที่มีพื้นที่เพิ่มขึ้นทำให้ใส่เพลงเข้าไปได้ และแบตเตอรี่ใช้งานได้นาถึง 40 ชั่วโมง รองรับการใช้งานที่นาน และชาร์จไฟแค่ 30 นาที สามารถใช้งานได้ 10 ชั่วโมง

รวบรัดตัดความกับ Samsung Galaxy Watch 4

batch_img_9031

หากสรุปกันสั้นๆ แล้วเป็นนาฬิกาที่ออกแบบให้เหมาะสมกับคุณมากขึ้นเพราะคุณสามารถใส่ได้ดีเพราะมีความบางเบากว่าเดิม แต่มีการปรับปรุงรายละเอียดจนเรียกได้ว่าน่าใช้ขึ้นกว่าเดิมมากขึ้น

โดยราคาที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้จะเป็นของสหรัฐอเมริกาจะมีดังนี้

  • Galaxy Watch4 หน้าปัดขนาด 40 มิลลิเมตร (BLT) ในสีดำและพิงค์โกลด์ วางจำหน่ายในราคา 7,990 บาท (BLT) และหน้าปัดขนาด 44 มิลลิเมตร มาในสีดำและ
    สีเขียว ราคา 8,990 บาท (BLT) และ 10,900 บาท (LTE)
  • Galaxy Watch4 Classic = หน้าปัดขนาด 46 มิลลิเมตร กับตัวเลือกสีดำและ สีเงินสุดหรู ในราคา 11,900 บาท (BLT) และ 13,900 บาท (LTE) ในตัวเลือกสีดำ

 เริ่มจำหน่าย 27 สิงหาคม ทั่วโลก ส่วนประเทศไทยรอติดตามกันอีกครั้ง

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ ของ [Hands On] Samsung Galaxy Watch4 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ดีไซน์สวยอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook