เปิดประสบการณ์ใหม่กับการได้ลองใช้งาน โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle

เปิดประสบการณ์ใหม่กับการได้ลองใช้งาน โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle

เปิดประสบการณ์ใหม่กับการได้ลองใช้งาน โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อไม่นานมานี้ Dyson ได้เปิดตัว Lightcycle Desk โดยเป็นโคมไฟรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย และเป็นอีกนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยกับฟีเจอร์มามากย

วันนี้ทีม Sanook Hitech จะมารีวิวทดลองใช้งาจริงแล้วเล่าให้ฟังว่า โคมไฟหลักหมื่นตัวนี้จะน่าสนใจและดีจริงไหมกับฟีเจอร์ต่างๆ รอบตัวมากมาย

37

แกะกล่อง Dyson Lightcycle Desk

38

ภายในกล่องของตัวนี้จะประกอบไปด้วย

  • Lightcycle โคมไฟตั้งโต๊ะ รุ่น CD05 สีขาว-เงิน
  • Power Supply Unit (PSU)
  • รวมถึงชุดติดตั้ง
  • ใบรับประกัน
  • คู่มือการติดตั้ง อยู่ที่ฝากล่องเป็นรูปบที่ชัดเจน

36

34

35

26

รูปร่างหน้าตาของ โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle

ตามสไตล์ของ Dyson ครับด้วยสินค้าของเขาเป็นสินค้าที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ดังนั้นกล่องของมันก็จะมาพร้อมกับความใหญ่และเวอร์วังเอาเรื่องอยู่ครับ

และกล่อง Dyson Lightcycle ที่เราเห็นตรงหน้าบอกจากมาพร้อมกล่องที่ใหญ่แล้วขนาดของน้ำหนักก็มากเหมือนกันโดยเจ้ากล่อง Dyson Lightcycle ขนาดกล่อง 99.5 x 282.5 x 80.9 มม. หนักถึง 5.77 กรัม เดี่ยวในรีวิวเราจะมาเฉลยว่าส่วนไหนของโคมไฟที่ทำให้หนักขนาดนี้

โดยชุดของ Dyson Lightcycle Desk ประกอบด้วยตัวเสาเป็นโลหะ ซึ่งเป็นขาสำหรับติดตั้งกับโต๊ะ

30

ต่อกันที่ส่วนของก้านหลอดไฟครับหรือตัวโคมไฟครับ

27

ตรงนี้เป็นส่วนของท่อทองแดงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า Heat Pipe ซึ่งช่วยลดความร้อนหลอด LED โดยดึงความร้อนผ่านท่อทองแดงที่ผนึกแบบสุญญากาศที่บรรจุของเหลวภายใน ปกป้องคุณภาพของแสงได้ถึง 60 ปี เรียกได้ว่านานมากครับ

ส่วนต่อมาเป็นพระเอกของเราครับโคมไฟที่เป็นอลูมิเนียมผสมกับพลาสติกนิดหน่อย

29

เมื่อเราพลิกส่วนของโคมไฟไปมาด้านแรกที่เราเจอจะเป็นแถบสีทองๆ มันคือ Heat Pipe ที่มาพร้อมความสามารถในการะบายความร้อน และเป็นตัวช่วยในการรักษาและระบายความร้อน ทำให้หลอดไฟอยู่กับเราได้นานๆ (เขาบอกว่าอยู่ได้นานถึง 60ปีครับ)

21

20

ต่อมาเมื่อเชื่อมต่อเป็นรูปร่างแล้ว ถ้ามองถึงการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟในบ้านก็ต้องพึ่งพา Adaptor เราสามาถเสียบปลั๊กกับเต้ารับด้วยปลั๊กมาตรฐานในประเทศไทยได้ ในส่วนของสายไฟจะมีความยาวประมาณ 3 เมตรนิดๆ ครับ

32

แต่ถ้าจะเสียบปลั๊กตรงก็จะดูไม่เรียบร้อย ดังนั้น Dyson ก็มีการออกแบบให้สายไฟซ่อนอยู่ใต้ฐานของโคมไฟตามรูปนี้ เพื่อความเรียบร้อย

33

31

การประกอบ Dyson Lightcycle สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะทั้งหมดไม่มีน๊อต เริ่มกันด้วยส่วนของฐานก่อน ด้วยการนำฐานตั้งไว้แล้วนำขาตั้งมาเสียบและล็อคให้อยู่กับที่ วิธีการล็อคใช้การหมุนโคมไฟนั่นเอง ดังนั้นใครก็สามารถประกอบโคมไฟนี้ใช้งานได้ 

39

อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่าเราจะมาเฉลยกันในบทความว่าทำไมโคมไฟมันถึงได้ค่อนข้างหนัก ตัวที่ทำให้หนักก็คือฐานของโคมไฟครับ ตัวแกนสามารถหมุนโคมไฟได้ 360 องศาครับ

28

หลังจากนั้นให้คุณนำฐานมาปลดล็อคขั้วออกเพื่อให้ปลั๊กสามารถเสียบเข้าไปได้

24

ตัวสีวงกลมสีดำที่เราเห็นในกรอบเล็กๆ สีแดงเป็นตัวยึดฐานกับตัวโคมไฟนั้นเอง

25

22

ต่อกันที่การนำส่วนของแกนไฟมาประกอบกับตัวเสาหลัก

18

19

หัวของเสาที่มาพร้อมกับล้อและสปริง

16

15

17

โดยปุ่มกดจะอยู่ส่วนของไฟประกอบด้วย ปุ่มสำหรับเปิด / ปิด ถัดมาคือปุ่มสำหรับปรับระดับความสว่าง และ สีของไฟว่าจะเป็นแบบขาว หรือ สีส้มนวลตา และเราสามารถใช้นิ้วลากซ้าย–ขวา เพื่อสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ทันที

12

นอกจากสั่งเปิด / ปิด ได้แล้ว โคมไฟนี้ยังมี Sensor จับการเคลื่อนไหวของคน หากไม่มีใครอยู่ ไฟสามารถจะปิดเองโดยอัตโนมัติ และดูสภาพแสงของห้องได้ เป็นต้น

9

13

10

หลอดไฟเป็น LED คุณสมบัติพิเศษคือเปลี่ยนสีของไฟได้และให้ความสว่างยาวนาน ถูกเคลมว่าใช้ได้นาน 60 ปี

11

ชิ้นส่วนตรงนี้มันจะเกี่ยวกับการเลื่อนขึ้นลงของชิ้นหลอดจริงๆ คือใช้ปรับระดับความสูงหรือต่ำของหลอดไฟให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละประเภท แกนส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่ทำออกมาได้คูลมากครับ เพราะแค่เราเลื่อนขึ้น-ลง และปล่อยมันก็จะอยู่ในตำแหน่งนั้นโดยไม่ต้องมีตัวล็อกอะไรเลย!

6
เสาหลัก มันจะมี USB-C Port สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ เช่นคุณสามารถเสียบมือถือชาร์จไฟก็ได้ เท่ากับการออกแบบนั้นแม้จะไม่ได้ดูหน้าตาเหมือนกับโคมไฟทั่วไป แต่ว่าสิ่งที่ดูแล้วสามารถปรับแต่งได้เหมาะสมทั้งความแคบและกว้างสูงของตัวไฟเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าความพิเศษ ที่แตกต่างน่าสนใจ

ลองใช้งาน Dyson Lightcycle Desk ฉบับจริงๆ

นอกจากการออกแบบแล้ว เมื่อใช้งานจริงโคมไฟ Dyson Lightcycle Desk แล้วตัวโคมไฟเองมีคุณสมบัติพิเศษต่าง ไม่ว่าจะเป็น

เลือกแสงไฟที่เหมาะสม เพียงปลายนิ้วสัมผัส

โคมไฟสำหรับทำงาน Lightcycle™ ถูกออกแบบเพื่อให้ใช้งานแบบ ปรับเปลี่ยนได้ และง่ายดาย ปรับตามใจได้ด้วยมือ

การเคลื่อนไหวแบบ 3 Axis Glide™ ให้แสงไฟในจุดที่คุณต้องการ

npd_552_overview_lightcycle_f

แตะแขนโคมไฟเบาๆ เพื่อปรับตำแหน่งของไฟ ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และหมุนรอบทิศทาง 360 องศา ไม่มีสปริงหรือเดือยหมุนที่อาจจะหย่อนตัวเมื่อใช้ไปนานๆ และสามารถยืดเข้า ยืดออก เช่นเดียวกัน

ควบคุมด้วยการแตะแบบสไลด์

npd_552_overview_lightcycle_f_1

ควบคุมด้วยการแตะแบบสไลด์ ทำให้คุณสามารถปรับความสว่าง และอุณหภูมิสีได้ในแบบของคุณ

ปรับเปลี่ยนอย่างชาญฉลาด ด้วยการติดตามแสงธรรมชาติในพื้นที่ของคุณ "ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสี และความสว่างของแสงธรรมชาติในพื้นที่ที่คุณอาศัย - ให้แสงสว่างที่เหมาะกับช่วงเวลาของวัน" 

ทั้งนี้ Dyson ออกแบบแสงให้เหมาะสมแต่ละพื้นที่ผ่านการคำนวณด้วยอัลกอริทึม ที่มีการปรับเปลี่ยนตามเวลา โดยโคมไฟนี้มี GPS  สามารถคำนวณแสดงที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

คุณภาพของหลอดไฟ

untitled-5
โคมไฟสำหรับทำงาน Lightcycle™ ใช้ระบบระบายความร้อนที่พบบ่อยในจานดาวเทียม ทำให้ LED เย็นลงอย่างมีประสิทธิภาพ ปกป้องคุณภาพของแสงได้นานถึง 60 ปี 

ส่วนหัวแบบออพติคัลอันชาญฉลาดเปลี่ยนข้อมูล ให้กลายเป็นแสงไฟแบบไดนามิก

ควบคุมไดร์ฟเวอร์ออพติคัลอย่างอัจฉริยะ เพื่อปรับแสงหลอดไฟ LED แบบโทนอุ่น 3 หลอด และแบบเย็น 3 หลอด, ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสี และความสว่างให้เหมาะกับช่วงอายุ , กิจกรรม และ ช่วงเวลาของวันอย่างแม่นยำ

ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการมองเห็นสำหรับทำงาน หรือเรียน

ความสว่างถึง 1000 ลักซ์ พร้อมการป้องกันแสงจ้าและแสงกระพริบระดับต่ำ4 ที่เหนือกว่าระดับแสงมาตรฐานที่แนะนำสำหรับการทำงาน

ควบคุุมแสงสีฟ้า

ต่างจากแสงไฟส่วนใหญ่ที่มีแสงสว่างคงที่ โคมไฟสำหรับทำงาน Lightycle™ จะปรับเปลี่ยนอุณหภูมิ สีความสว่างตลอดวัน และควบคุมแสงสีฟ้า เพื่อให้สัมพันธ์กับแสงธรรมชาติในพื้นที่ที่คุณอยู่

ปรับความสว่างโดยอัตโนมัติให้เข้ากับอายุของคุณ

เมื่อเราอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อดวงตาของเราก็จะอ่อนแรงลง และ เลนส์แก้วตาก็จะยืดหยุ่นได้น้อยกว่าเดิม เราจึงต้องการแสงสว่างที่มากขึ้นถึง 4 เท่า3 โคมไฟสำหรับทำงาน Lightcycle™ ปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติเพื่อให้ระดับความสว่างที่เหมาะกับอายุของคุณ

การใช้งานผ่าน Dyson Link App

ด้วยความที่ Dyson Lightcycle เป็นอุปกรณ์แบบ Internet Of Thing จะต้องมีการเชื่อมต่อกับ Application ตลอดเวลาดังนั้นพวกเขาจึงมีโปรแกรมที่ชื่อว่า Dyson Link App มาเชื่อมต่อกับ โคมไฟนี้

untitled-4

page2
40
page4

เมื่อเราใช้งานครั้งแรกจะต้องมีการติดตั้งลงทะเบียนชื่อและเลื่อกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ โดยโปรแกรมนี้สามารถเชื่อมต่อทั้ง เครื่องฟอกอากาศ, หุ่นยนต์ดูดฝุ่น, และโคมไฟ

page6
page7

หลังจากที่ลงทะเบียนเรียบร้อยเราสามารถตั้ง Profile ว่าโคมไฟนี้เป็นของห้องอะไรก็ได้และมีฟีเจอร์จับเรื่องขงอการเชื่อมต่อแต่ละที่จะให้แสดงผลไฟเป็นแบบไหนก็ได้ เรียกได้ว่ามันฉลาดพอตัว

page8

หลังการตั้งค่าการเชื่อมต่อระหว่างโคมไฟกับ  Dyson Link App เสร็จสิ้นเราพอเราเข้ามาในตัว Dyson Link App ก็จะเจอหน้าต่างของแอปพลิเคชั่นแบบนี้ ทั้งนี้หลักๆ แล้วหน้าแรกของแอปมันก็จะแสดงโหมดการทำงานปัจจุบัน โดยเราสามารถปรับค่าของสีไฟและความเข้มรวมไปถึงความสว่างได้โดยการเลือกที่โหมด Boost  สำหรับงานที่ต้องการเพ่งมองให้ชัดเป็นพิเศษ โหมด Boost จะเพิ่มแสงที่สว่างจ้าและขาวมากกว่าปกติ

นอกจากนี้สามารถปรับโคมไฟได้ทั้งหมด 4 โหมดได้แก่

page9

npd_552_overview_lightcycle_f_2
โหมด Precision :  ช่วยเพิ่มความคมชัดในการมองเห็น3 ด้วยการกระจายกลุ่มแสงที่มีความเข้มสูง CRI (Color Rendering Index) หรือดัชนีชี้วัดความถูกต้องของสี มากกว่า 90 หมายความว่าสีจะถูกแสดงให้ใกล้เคียงกับคุณภาพของแสงธรรมชาติมากที่สุด

npd_552_overview_lightcycle_f_4
โหมด Study : ระดับแสงที่เหนือกว่า ระดับมาตรฐานที่แนะนำสำหรับการเรียน3 และปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสีให้สัมพันธ์กับแสงธรรมชาติในพื้นที่ของคุณ

npd_552_overview_lightcycle_f_6
โหมด Relax : ให้อุณหภูมิสีโทนอุ่นแบบผ่อนคลายด้วยความเข้มแสงต่ำ แต่ยังคงสว่างพอสำหรับการอ่านหนังสือ

แต่ทั้งหมดนี้ คุณสามารถเพิ่มรุปแบบต่างๆ ผ่านการกดปุ่ม Add ที่อยู่ขวามือ

npd_552_overview_lightcycle_f_5

ทั้งนี้ แอพฯ Dyson Link ยังฉลาดด้วยมันมาพร้อมความสามารถในการตั้งค่าอย่างชาญฉลาดตามอายุของผู้ใช้งาน การตั้งเวลานอน/ตื่นนอน และอื่นๆ อีกมากมายสำหรับการอัพเดทแอพฯ ในอนาคต ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าผ่านแอพฯ Dyson Link ได้ทันทีตามความต้องการ

บทสรุปของ โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle หลังได้ทดลองใช้งาน

4

ถือว่าเป็นอีก Gadget ที่ใช้งานได้จริงภายในบ้านคุณ มีความทันสมัยมาก และอายุของการใช้งานาวนาน เรียกได้ว่าเป็นอีก Smart Gadget ที่ถ้าเงินถึงน่าจะจัดสักตัว เพราะเราสามารถวางไว้ส่วนไหนของบ้านก็ได้ โดยที่ไม่รู้สึกว่าแปลกและกลายเป็นอะไรเก๋ๆ ที่ประกับของไป

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับความสว่างของไฟที่มาถึง 1000 Lumen ซึ่งทำให้เราได้แสงสว่างมากๆ และด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานมาพร้อมกับระบบสัมผัสคือดีย์ ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะเลย ด้วยความฉลาดของ AI หากเราไม่อยู่ในบริเวณนั้นเกิน 2 นาที Lightcycle Desk ก็จะจับสัญญาณและทำการปิดไฟอัตโนมัติ หากเรากลับเข้ามายังบริเวณนั้นตัว Lightcycle Desk ก็จะทำการเปิดไฟให้เช่นกัน(ถูกใจที่สุด)

อีกเรื่องที่อยากเล่าให้ฟังคือโคมโฟ Lightcycle Desk  ตัวนี้มันสามารถปรับอุณหภูมิสี–ความสว่างให้เหมาะกับการใช้งานของเราได้อัตโนมัติด้วยครับไม่ว่ากิจกรรมของคุณจะเป็นเป็นทำอะไรมันก็สามารถปรับตัวได้นั้นทำให้สายตาของเราไม่ต้องทำงานหนักและล้า(โครตดี) ซึ่งถือเป็นจุดเด่นหลักของโคมไฟรุ่นนี้เลย

โดยราคาของ Lightcycle Desk วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วที่ราคา 18,900 บาท ถือว่าราคาอาจจะสูงพอสมควร แต่ว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีมากมายไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้สามารถปรับใช้งานได้ 360 องศา, ไฟปรับได้หลากหลายสีทำให้คุณเลือกการใช้งานได้หลากหลายแบบ ประหยัดพลลังาน แข็งแรงและใช้งานได้นาน 60 ปี แถมดีไซน์ที่สวยงาม ดูยังไงก็ไม่เบื่อ ก็ยังคุ้มค่าอยู่ครับ

3
ดูแบบนี้แล้วหากคุณสนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ Dyson หรือสามารถไปทดลองกันได้ตามร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของ Dyson ในประเทศไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook