รีวิว Nokia 2 น้องเล็กสุดของ Smart Phone Nokia ดีกรีแบตฯทนสุด
สำหรับคนที่เคยอ่านรีวิว Nokia 3 ที่ทีมงาน Sanook! Hitech ได้รีวิวไปเมื่อนานพอสมควรตั้งแต่กลางปีที่แล้ว อาจจะบอกว่า สเปกมันดี แต่ราคาอาจจะสูงไปและแบตเตอรี่หมดเร็ว (จริงๆ ก็เห็นด้วยแหละ) ก็ทำให้เป็นอีกโจทย์ที่ HMD Global เอาไปทำเป็นมือถือที่ถูกกว่า Nokia 3 และดีกว่าในเรื่องของแบตเตอรี่ และมันก็ออกมาเป็น Nokia 2 ตัวนี้ที่มีราคาไม่แพงและน่าสนใจจนทีม Sanook! Hitech ขอมารีวิวสักหน่อย
รายละเอียดของ Nokia 2
- ขนาดเครื่อง : 143.5 x 71.3 x 9.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 161 กรัม
- สีของเครื่อง : สีดำ และ ขาว
- CPU : Qualcomm Snapdragon 212 Quad Core 1.3GHz
- GPU : Adreno 304
- หน่วยความจำ RAM (LPDDR3) ขนาด 1 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 8 GB
- ความจำภายนอก รองรับ Micro SD สูงสุด 128GB
- การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ 2G/3G/4G Cat 4 150/50 Mbps (ซิมคู่ รองรับ 3G)
- WiFi 802.11 b/g/n
- Bluetooth V4.1
- หน้าจอขนาด : 5 นิ้ว IPS+ LCD ความละเอียด 1280 x 720
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล
- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP52 (ป้องกันหยดน้ำ)
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล Auto Focus + LED Flash
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
- ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion 4,100 mAh
รูปร่างของ Nokia 2
ด้านหน้าของ Nokia 2 มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของโนเกียที่ชัดเจนคือโลโก้ Nokia มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 หรือ HD 720P รองรับมัลติทัช 10 จุด พร้อมกับปุ่มกดทั้งหมดอยู่ในหน้าจอ
ส่วนบนของเครื่องมีกล้องหน้าคู่ขนาด 5 ล้านพิกเซล โลโก้โนเกียอยู่บนขวา และลำโพงสนทนา
ส่วนล่างมีปุ่มกด Back, Home ที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ และ Recent ทั้งหมดฝังในหน้าจอ
ด้านข้างใช้เฟรมโลหะที่คุณภาพสูง แต่ถ้าจับในอากาศปกติอาจจะให้ความรู้สึกเหมือนกับพลาสติก ฝั่งซ้ายจะไม่มีปุ่มกดอะไรทั้งสิ้น
ฝั่งขวามีปุ่มเปิดเครื่อง พร้อมปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนมีช่องเสียบ มีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียง และช่องเสียบหูฟัง
ด้านล่างมี ไมโครโฟน, ช่องเสียบ Micro USB
ด้านหลังยังคงเอกลักษณ์ของโนเกีย ด้วยการติดตั้งกล้องอยู่ตรงกลางเมื่อมองจากด้านบนลงมา และมี LED Flash , โลโก้โนเกีย และล่างสุดมีลำโพงตัวเครื่องที่ออกแบบวางแล้วไม่ชิดกับเครื่องเกินไป
เมื่อเปิดฝาหลังจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ มาพร้อมกับ ช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM 2 ช่องด้านบนและใส่ Micro SD ได้จากฝั่งขวาแต่ต้องใส่ซิมการ์ดก่อน
ภาพรวมตัวเครื่อง Nokia 2 ดูพื้นฐานและเรียบง่ายจนทำให้รู้สึกใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี แต่อาจจะมีเรื่องที่ไม่ชอบคือฝาหลังพลาสติกที่แกะยากไปหน่อยก็เท่านั้นเอง นอกนั้นถือว่ารับได้
ประสิทธิภาพของ Nokia 2
จากที่ได้ทดสอบจากโปรแกรม Antutu ได้คะแนนออกมาที่ 24360 คะแนน ถือว่าพอใช้ได้ ถ้าใครถามว่าทำไมทำคะแนนได้เท่านี้ คำตอบคือ Nokia 2 เป็นมือถือที่มีราคาไม่แพง แต่ให้สเปกเท่านี้ถือว่าสมตัวแล้ว เล่นเกมได้แต่จะโหลดช้าเพราะความจำน้อยจนเป็นจุดอ่อนของรุ่นนี้ แต่สามารถเพิ่มความจำได้ ก็ลองดูนะครับ
ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh แม้จะไม่ได้ให้ระบบจัดการพลังงานอะไรมานอกจากของระบบปฏิบัติการ Android แต่ก็สามารถทดสอบอยู่ได้นานถึง 11 ชั่วโมง 24 นาที แต่ถ้าใช้งานทั่วไป Nokia เคลมว่า 2 วันอยู่ได้สบายๆ ก็ยังคงเป็นความจริงอยู่
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Nokia 2 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และคาดว่าจะได้อัปเกรดเป็น Android 8.1 เวอร์ชั่นน้ำหนักเบาในอนาคต ลูกเล่นพื้นๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก
ลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามาในเรื่องของการสนับสนุน, คู่มือ, การเลือก Wallpaper ที่ทำให้สามารถตกแต่งเครื่องเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ส่วนเครื่องมือต่าง ๆ ของเครื่องนอกเหนือจาก Google Apps ยังมี เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย, และระบบ GPS มาให้
กล้องของ Nokia 2 ด้านหลังให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบ Auto Focus และมี LED Flash พร้อมกับ Camera UI ของโนเกียที่มีลูกเล่นพอเพียง มาพร้อมกับฟีเจอร์ Touch UP ที่สามารถเลือกละลายหลังได้ การถ่ายวิดีโอทำได้ที่ความละเอียด HD เท่านั้น
(ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Nokia 2)
ส่วนกล้องหน้าของ Nokia 2 ยังคงให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล Fix Focus ถ่ายวิดีโอได้ แต่อาจจะไม่ได้ดีเท่ากล้องหลัง
(ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Nokia 2)
สรุปหลังจากลอง Nokia 2
ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องเล็กสุด แต่จะเด่นคือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ให้เยอะมากและสามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี แต่ยังรู้สึกว่า RAM ของเครื่องน้อยเกินจนรู้สึกว่า ถ้าได้ RAM 2GB และความจำในตัวที่มากกว่านี้ ก็จะทำได้ดีกว่าเอามาใช้งานเบาๆ, โทรเข้า / ออก และ WiFi Hot Spot
ราคาของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 3,490 บาท ถือว่าถูกมากสำหรับ Smart phone ในไทย ถ้าตัวที่เปรียบเทียบแบบสมน้ำสมเนื้อคงจะเป็น Wiko Robby 2 ที่มีราคาแพงกว่า 100 เดียว แต่ถ้ามองแบรนด์ Nokia 2 ก็จะได้เปรียบ แต่สเปกความจำ Nokia 2 จะเสียเปรียบพอสมควร
สุดท้ายด้วยความเป็น Pure Android และแบตเตอรี่ที่ Nokia 2 ให้มากกว่า จึงจบที่ถ้าต้องการได้มือถือสเปกที่ไม่เน้นอะไรมาก ขอแค่แบตเตอรี่อึดสุดๆ ใช้ยาวๆ ได้ หรือจะเป็นเครื่องสำรอง Nokia 2 เป็นทางเลือกที่ใช่ครับ
ข้อดี
- แบตเตอรี่ก้อนใหญ่และทนทานมาก
- หน้าจอใหญ่และคมชัด
- ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
- ระบบปฏิบัติการลื่น
- ได้อัปเกรดต่อไปแน่นอน
ข้อควรปรับปรุง
- ไม่รองรับ Quick Charge
- ลูกเล่นกล้องไม่มีอะไร
- ความจำ (ทั้ง RAM และ ความจำในตัว) น้อยกว่าเพื่อน
- ฝาหลังค่อนข้างเป็นรอยง่าย
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ