เรื่องน่ารู้กับการเลือกซื้อมือถือของคนญี่ปุ่นที่ คนไทยไม่เคยรู้มาก่อน

    ประเทศญี่ปุ่นจัดว่าเป็นอีกประเทศที่หลายคนก็อยากไปอยู่และมีสิ่งที่พิเศษในเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากมาย รวมถึงสวัสดิการและอื่นๆ ที่บรรยายไปก็ไม่หมด แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้มาก่อนคือ การเลือกซื้อมือถือสักเครื่องของคนญี่ปุ่นนั้นเป็นอย่างไร เมื่ออยู่ในยุคของ Smart Phone อย่างงี้ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาและมีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว มาดูกันทีละข้อ ๆ กันดีกว่า

ร้านตู้ของญี่ปุ่นไม่ต้องหา เพราะมีเป็นร้านใหญ่อยู่ห้าง

หนึ่งในเหตุผลที่เดินไปตามถนนในโตเกียวย่านที่ขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจะดูเรียบร้อยไม่มีตู้มาวางขายมือถือเหมือนเมืองไทยก็เพราะว่า ญี่ปุ่นเขาจะมีเป็นอาคารและร้านค้าขายอย่างเรียบร้อย พร้อมโชว์เครื่องจริงหรือตัวจำลองแปะไปตามบูทและกำแพงบรรยายคุณสมบัติครบ อยากได้แค่หยิบใบแล้วไปจ่ายเงินเท่านี้ก็จบ เรียกว่าเรียบร้อยและดูง่าย เล่นให้พอแล้วค่อยซื้อ ไม่ต้องต่อรองราคาอะไรให้วุ่นวาย

เชื่อหรือไม่ ในญี่ปุ่นไม่มีมือถือจากประเทศจีนเข้าไปขายเลย

    เรื่องนี้ไม่ใช่เกิดจากการ Anti อะไรทั้งสิ้น แต่คิดว่าเพราะคนญี่ปุ่นนั้นชาตินิยมจ๋า ทำให้มือถือจากประเทศอื่นก็คงขายยากอยู่ (ยกเว้น iPhone กับ HTC, Samsung บางรุ่น และ LG) และแน่นอนว่ามือถือจีนราคาถูกและไม่ดูเป็นเอกลักษณ์อาจจะไม่ถูกจับจ้องจากคนญี่ปุ่นเองสักเท่าไหร่ ข้อนี้เชื่อได้อยู่เพราะผู้เขียนเคยไปญี่ปุ่นมา หามือถือจีนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยล่ะ

ความเป็นชาตินิยม Brand เลยมีมือถือแปลก ๆ บนโลกขึ้นมา

     หลายคนอาจจะคุยเคยกับมือถือจากญี่ปุ่นอย่างเช่น Sony ในปัจจุบัน แต่ในประเทศญี่ปุ่นเองจะมีมือถือยี่ห้อที่คนไทยหลายคุยคุ้นเคยกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น Kyocera ซึ่งเคยทำตลาดในยุคของ PCT, Sanyo, Sharp หรือจะเป็น Panasonic Lumix Phone ก็ตาม เป็นอีกสีสันหนึ่งที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่า สีสันของเครื่องก็สดใสไม่แพ้กัน

อย่าคิดว่าคนญี่ปุ่นไม่บ้า iPhone นะ

    ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกประเทศที่กระแสนิยม iPhone ก็มาแรงไม่เบา แม้ว่าราคาเครื่องไม่ได้ถูกแต่คนก็นิยมหามาใช้งานเป็นเรื่องปกติ ส่วนมากผู้ให้บริการอย่าง Softbank จะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคในกลุ่ม iPhone มากที่สุด

มือถือฝาพับยังนิยมอยู่ในประเทศนี้

    เนื่องจากลูกเล่นบางอย่างที่ขึ้นชื่อว่า คิคุ ติดใจกลุ่มผู้หญิงมิใช่น้อย บางทีเห็นผู้ชายใช้มือถือฝาพับสีฟรุ้งฟริ้งไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนเท่านั้นเอง และอีกเรื่องคือ มือถือฝาพับกลุ่มฟีเจอร์โฟน ราคามันถูกดูดใจมากกว่า

ผู้ให้บริการแต่ละรายจำหน่ายเครื่องแตกต่างกัน

    ในข้อนี้หลายคนคิดว่าผู้ให้บริการเวลาจำหน่ายเครื่องก็ต้องมีออฟชั่นที่เหมือนกันและโปรโมชั่นแข่งกันรุนแรง แต่ในญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะบางค่ายก็มีขายมือถือรุ่นหนึ่ง บางค่ายก็ไม่มีบ้าง ซึ่งมันก็มีข้อดีคือ แยกเครือข่ายชัดเจนอีกด้วย ปล อีกสิ่งที่พูดเลยคือ ต่อให้ประเทศนี้จะ Hitech ขนาดไหน การให้บริการของแต่ละเครือข่ายยังไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ โดยเฉพาะตามถนนใหญ่ เพราะเคยไปลองใช้งานเครือข่ายมาทีนึง เข้าอุโมงก็พูดเลยว่า ซาโยนาระ 3G

ถ้าใจกล้าซื้อมือถือมาเลย แต่ปลั้กไฟเช็คให้ดีนะ

    ในญี่ปุ่นนั้นมือถือส่วนมากจะล็อคให้ใส่ซิมของ Operator ค่ายน้้นอยู่ (แต่ถ้าคุยดี ๆ ผู้ให้บริการก็ยอมปลดล็อคให้คุณได้นะ) และเรื่องที่ป้องกว่าเช็คปลั๊กไฟให้ดีเพราะว่าญี่ปุ่นใช้งานไฟฟ้าแบบ 110V แต่ประเทศไทย 220V ฉะนั้นถ้าเป็น Android หรือ iPhone คงไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้ามือถือแบบฝาพับที่ญี่ปุ่นนั้น ระวังไว้ก็ดีครับ

    จะเห็นได้ว่า มือถือแม้ว่าจะมีหน้าตาและลูกเล่นทั่วไปเหมือนกันทั่วโลกแต่เมื่อต้องมาจำหน่ายในแต่ละประเทศที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันก็จะทำให้เครื่องและรูปแบบของการใช้งานที่แตกต่างกันไปด้วย และสิ่งที่ต้องระวังอย่างหนึ่งคือ การใช้มือถือในญี่ปุ่น ส่วนครั้งต่อไปอาจจะมีการบอกถึงมารยาทการใช้มือถือในประเทศญี่ปุ่นที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนมาฝากกันครับ