จะซื้อ iPhone 6s ดีไหม หรือไม่เปลี่ยน?
iPhone 6s - แม้ Apple เริ่มเปิดขาย iPhone 6s ไปในหลายประเทศบ้างแล้ว และอีกไม่นานก็จะเริ่มเข้ามาขายในประเทศไทย แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ ก่อนที่เราจะตัดสินใจ คิดกันก่อนสักหน่อยดีไหม? ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ อยากได้ iPhone 6s หรือไม่ค่อยชอบ iPhone 4s, 5s, 6 และ 6 Plus แล้วล่ะ หรือสมาร์ทโฟน Android ในมือมันไม่ตอบโจทย์ ... เหตุผล หรืออารมณ์ ที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจ เพื่อให้คุณผู้อ่าน aripfan ได้มีข้อมูลเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจ ลองมาดูกันว่า การใช้ของเดิม หรือเปลี่ยนของใหม่มันมีข้อดี หรือข้อด้อยอย่างไร?
ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะอยากได้ iPhone 6s หรือ 6s Plus หรือไม่ก็ตาม แต่ทาง Apple ก็ได้ประกาศตัวเลขยอดขายของตนเองในช่วงสามวันแรกที่วางขายแล้ว โดยสามารถขายไปได้แล้วถึง 13 ล้านเครื่อง ทุบสถิติเดิมเมื่อปี 2014 ที่ทำยอดขาย iPhone 6 / 6s Plus ไป 10 ล้านเครื่อง จากช่วงเวลาเดียวกัน กลับมาที่เรื่องของเรากันต่อดีกว่า โดยขอเริ่มต้นกันที่ข้อดี หรือจุดเด่นของประโยชน์ที่จะได้รับจาก iPhone 6s/6s Plus กันก่อน ว่ามันมีดีอะไรบ้าง?
สีชมพู Rose Gold โดนใจยิ่งนัก - แม้ขนาดหน้าจอ 4.7 และ 5.5 นิ้ว และความละเอียดการแสดงผลที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไร แต่สีตัวเครื่องที่เพิ่มมาอีกหนึ่งแบบ หรือที่ Apple เรียกว่าสีชมพู Rose Gold กลับเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลายคน จนมีการคาดการณ์ของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI Securities ที่ระบุว่าสี Rose Gold จะมียอดสั่งจองราว 30-40% ของทั้งหมด และเชื่อเหลือเกินว่าบรรดาสาวๆ ในไทยเมืองไทยที่ติดตามข่าวก็น่าจะถูกใจเช่นกัน และเพราะความโดดเด่นของสีสันที่ดูเจิดจ้ากว่าสีเดิมๆ ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญไม่น้อยที่จะทำให้หลายคนเลือกเปลี่ยนมาใช้ iPhone 6s / 6s Plus
ชิปประมวลผลทีทำงานเร็วขึ้น - iPhone 6s / 6s Plus มาพร้อมกับชิป A9 รุ่นใหม่ เร็วกว่าชิป A8 ถึง 70% ร่วมด้วยชิป M9 สามารถประมวลผลกราฟฟิกได้ดีขึ้นถึง 90% ที่ทำให้คุณสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มที่ทั้งเรื่องของการเล่นเกมส์ ที่กราฟิกลื่นไหล หรือการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ที่ทำให้ดูแล้วไม่สะดุด ตลอดจนการเล่นแอพฯ ต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจตั้งแต่โหลดจนรันแอพฯ นัั้น
กล้องพัฒนาขึ้น - หลายครั้งที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใด Apple จึงไม่อัพเกรดความละเอียดของกล้องบ้าง ทั้งที่คู่แข่งอย่างสมาร์ทโฟน Android หลายรุ่นขยับไปใช้กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว มาในครั้งนี้ iPhone 6s / 6s Plus เลือกที่จะเปลี่ยนให้ดีขึ้น ! ใช้กล้องหลัง iSight อัพเกรดเป็น 12 ล้านพิกเซล จากเดิม 8 ล้านพิกเซล มีระบบ Auto Focus ที่ดีขึ้น มีเซนเซอร์ที่ช่วยการแสดงผลของสีให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รองรับการบันทึกวี ดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K ขณะที่กล้องหน้าอัพเกรดเป็น 5 ล้านพิกเซล หน้าจอแสดงผลสามารถสว่างขึ้น ทำหน้าที่เสมือนเป็นแฟลช คอยอำนวยความสะดวกให้กับการ Selfie ที่ทำงานได้ดีกว่ากล้องหน้าของสมาร์ทโฟนบางรุ่นที่มีแฟลช LED
เติมฟีเจอร์ใหม่ - ฟีเจอร์เด่นใน iPhone 6s/6s Plus คงต้องยกให้กับ "3D Touch" ที่ Apple ภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยี Forch Touch ใน Apple Watch มีคุณสมบัติในการแสดงผลหรือเป็นทางลัดในการเข้าสู่ฟีเจอร์ของแอพต่างๆ ตามน้ำหนักนิ้วมือที่กดลงบนหน้าจอ Apple เรียกลักษณะการทำงานดังกล่าวว่า "Peek and Pop" เช่น เมื่อแตะค้างที่แอพ Email สามารถเข้าถึงหน้าต่างการส่งข้อความได้ หรือแตะค้างที่แอพกล้อง ก็สามารถเลือกเมนูใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นการ Selfie, ถ่ายภาพนิ่งทั่วไป หรือบันทึกวีดีโอ เป็นต้น เป็นความทันสมัยของ Taptic Engine เทคโนโลยีภายในที่สามารถตรวจจับแรงกดในรูปแบบต่างๆ ได้
อีกหนึ่งฟีเจอร์เรียกว่า Live Photos คุณสมบัติของการ ถ่ายภาพนิ่งและช่วยให้เราเห็นภาพเคลื่อนไหวในระยะเวลาสั้นๆ ได้ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำการบันทึกภาพเคลื่อนไหวก่อนและหลังเป็นเวลา 3 วินาที
พูดถึงข้อดีกันมาเยอะแล้ว มาดูข้อด้อย หรือข้อควรพิจารณากันบ้างดีกว่าว่า เราควรเปลี่ยนไปใช้ iPhone 6s/ 6s Plus กันดีไหม?
ดีไซน์ไม่เปลี่ยน - อย่าง ที่บอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่า iPhone 6s/6s Plus ไม่ได้เปลี่ยนดีไซน์อะไรจาก iPhone 6/6 Plus นอกเสียจากเพิ่มสีชมพู Rose Gold มาเป็นทางเลือกมากขึ้นเท่านั้น
น้ำหนักมากขึ้น - รอบ ที่แล้ว iPhone 6/6 Plus เจอบททดสอบสำคัญกับตัวเครื่องที่บางเบาด้วยการใช้มือเปล่าดัดจนงอ ซึ่ง Apple ก็ออกมาแก้ต่างว่าถ้าใช้ปกติมันจะไปงอได้ไง (ก็จริงของเค้า) ! อย่างไรก็ตามใน iPhone 6s/6s Plus แม้ผิวเผินจะดูบางเท่าเดิม แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย Apple จึงมีการใช้อลูมิเนียมซีรีส์ 7000 แบบเดียวกับ Apple Watch Sport มาผสมผสานเพื่อให้ตัวเครื่องมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องแลกมากับความหนาที่เพิ่มขึ้นราว 0.2 มิลลิเมตร และการปรับมาใช้หน้าจอชนิดใหม่ที่แฝงมากับฟีเจอร์ 3D Touch ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 15 กรัม โดยรวมแล้วจึงทำให้ตัวเครื่อง iPhone 6s/6s Plus มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นนั่นเอง
แบตเตอรี่ความจุน้อยลงซะงั้น - ในงานแถลงเปิดตัว iPhone 6s/6s Plus ไม่มีการเปิดเผยเรื่องของแบตเตอรี่ แต่ทาง iFixit เว็บไซต์จอมงัดแงะชื่อดัง ได้เปิดเผยออกมาเป็นที่เรียบร้อยว่าแบตเตอรี่ใน iPhone 6s มีความจุเพียง 1715mAh น้อยกว่า iPhone 6 ที่มีความจุ 1810mAh ซึ่ง Apple ให้ความมั่นอกมั่นใจว่าประสิทธิภาพของ iOS 9 และการทำงานร่วมกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่จะช่วยขจัดปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว
อย่าลืม Android - สำหรับข้อนี้ไม่ได้จะบอกว่าใครดีกว่าใคร แต่ต้องยอมรับว่า คุณสมบัติหลายๆ อย่างใน iPhone วันนี้ดูเหมือนจะตามหลังสมาร์ทโฟน Android และบางครั้งเริ่มมีความคล้ายคลึงกันเข้าไปทุกที แม้ iPhone 6s/6s Plus จะถือว่าฉลาดและดีที่สุดในบรรดา iPhone ทุกรุ่นก็ตาม แต่ด้วยคุณสมบัติบางอย่าง สเปคภายในยังเป็นรองสมาร์ทโฟน Android หลายรุ่นอยู่มิใช่น้อย ทางเลือกของการเปลี่ยน ! อาจเป็นการย้ายแพลตฟอร์มก็ไม่เลว เพราะคุณอาจได้สิ่งที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน
จากข้อด้อย และข้อพิจารณาในการเลือกที่จะซื้อ หรืออัพเกรดไปใช้ iPhone 6s/6s Plus ข้างต้นนี้ หวังว่า ข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ คงพอจะช่วยให้คุณผู้อ่านนำไปใช้ในการตัดสินใจได้บ้างนะครับ
สนับสนุนเนื้อหา: www.aripfan.com