ความเชื่อแบบผิดๆ เรื่องออกกำลังกาย

ความเชื่อแบบผิดๆ เรื่องออกกำลังกาย

ความเชื่อแบบผิดๆ เรื่องออกกำลังกาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มีคนเปรียบเทียบการออกกำลังกายว่าเหมือนเรื่องของเซ็กส์หรือการมีเพศสัมพันธ์ คือตอนแรกไม่อยากจะเริ่มแต่เมื่อได้ทำแล้วติดใจไม่อยากเลิก ไม่รู้ว่าจริงเท็จ ต้องไปลองเทียบกันดู

แต่วันนี้เรามาพูดคุยกันถึงเรื่องการไปออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงหุ่นดี ผอมสวยให้ได้ตามที่ใจอยากได้ แต่หลายคนพอตั้งท่าแล้วก็ถอดใจเพราะบางทีหาข้อมูลแล้วต้องใจถดถอย ทำไมจะบริหารร่างกาย
ซักทีมันยากมันเย็นเสียจริง คุณอาจได้อ่านได้ฟังมาเยอะ เรามีข้อมูลเพิ่มเติมให้คุณได้พิจารณากันว่าอะไรถูกอะไรผิดแล้ว จะออกกำลังกายจะได้ไม่ต้องบิดพลิ้วหาข้ออ้างให้ไม่ต้องไปเสียเหงื่อ

ความเชื่อแบบผิด ๆ เรื่องการออกกำลังกาย

ความเชื่อข้อที่ 1 อยากจะเอาส่วนเกินตรงไหนออก ให้บริหารเฉพาะส่วนนั้น

ความจริง แนวคิดแบบที่ว่า การบริหารเฉพาะจุด Spot Training หลายต่อหลายคนเวลาอยากผอม อยากจะลดพุงที่ดูจะเดินล้ำหน้าเราไปทุกครั้งเวลาไปไหนมาไหน ด้วยการซิทอัพ หรือบริหารตรงกล้ามเนื้อท้อง ทำให้เป็นร้อยครั้งต่อวันก็ไม่ยุบ แต่กล้ามเนื้อท้องแข็งแรงขึ้นแน่นอน หรือต้นขาใหญ่ ออกไปวิ่งเพื่อรีดไขมันให้ลดลง ร่างกายช่วยคุณรีดไปทั่วทั้งร่างกายไม่ได้เฉพาะเจาะจงที่ต้นขาที่คุณต้องการ

การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก เพื่อรูปร่างที่กระชับ การรีดไขมันรวมด้วยการออกกำลังกายแบบเผาผลาญ เช่นวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ควรทำเป็นประจำ และการรีดเฉพาะส่วนต้องทำควบคู่ไปกับการเล่นเวท และบวกกับการควบคุมอาหาร ซึ่งใช้เวลามากกว่าแค่ลดน้ำหนักลง

ความเชื่อข้อที่ 2 ผู้หญิงห้ามยกเวท จะกล้ามขึ้นน่าเกลียด

ความจริง ในการเข้าคลาสเล่นเวทเทรนนิ่งหรือการยกตุ้มน้ำหนักเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ฮอร์โมนตัวสำคัญที่ทำให้กล้ามใหญ่คือตัวฮอร์โมนผู้ชายเทสโทสเตอโรน แต่ผู้หญิงมีเจ้าตัวนี้ไม่มากเท่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นจะเล่นเวทหนักหนาแค่ไหนก็ไม่ทำให้กล้ามผู้หญิงดูหนาใหญ่ได้เหมือนผู้ชาย แต่กลับเป็นเรื่องดีสำหรับการเล่นให้กล้ามเนื้อในแต่ละส่วนมีความกระชับ ไม่ดูหย่อนคล้อยเกินไป และระหว่างการออกกำลังกายประเภทนี้ทำให้เพิ่มการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ลดน้ำหนักได้ด้วยเช่นกัน

ความเชื่อข้อที่ 3 ถ้าคุณไม่ออกกำลังกายหนักหรือบ่อยมากพอ จะไม่ได้ประโยชน์

ความจริง เลิกท่องคาถาการออกกำลังกาย ครั้งละ 30 นาที ให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ถ้าทำไม่ได้ตามนี้ก็ไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ นั่นเป็นความเชื่อดั้งเดิมสำหรับคนที่หาเรื่องไม่ออกกำลังกายมากกว่า การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับหัวใจ หากเราไม่มีเวลาแบบ 30 นาทีต่อเนื่อง การแบ่งออกเป็นช่วง ๆ 10 นาที แล้วออกกำลังโดยไม่ต้องตั้งท่ามากเรื่องมากนัก ตั้งเป้าว่าต้องมี 10 นาทีแล้วออกกำลังกาย จะกระโดดเชือก ที่แสนจะได้เหงื่อและหัวใจทำงานได้ดี ราคาเชือกกระโดดก็แสนถูก ไม่ได้เล่นก็ไม่เสียดายมาก

10 นาทีที่มีสามารถวิดพื้น เล่นกล้ามท้องหรือเล่นเวทแบบสั้น ๆ ยกไปดูละครหลังข่าวไป น่าจะดีกว่าขนมขบเคี้ยวไปกับซีรี่เกาหลี (ยิ่งถ้าเปลี่ยนออกกำลังกายคู่กับซีรี่ยาว ๆ รับรองว่าสุขภาพได้ดีจริง ๆ กว่าจะถึงตอนอวสาน)

แม้แต่การสร้างนิสัยกินเสร็จแล้วไม่นอนผึ่งพุงแต่ออกไปเดินย่อยอาหารทุกครั้ง ก็จะทำให้ร่างกายโดยรวมมีสุขภาพที่ดี

ขอให้ถือคติที่ว่ามีเวลาออกกำลังกายน้อยก็ดีกว่าไม่ได้ออกกำลังกายเลย

ความเชื่อข้อที่ 4 อยากมีซิกแพ็ค ออกกำลังกายเฉพาะกล้ามท้อง

ความจริง ข้อนี้จะมีความคล้ายคลึงกับความเชื่อข้อแรก ความจริงแท้ของการมีหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดก็คือการเอาไขมันออกไปจากหน้าท้อง ซึ่งต้องทำด้วยการเผาผลาญไขมันด้วยการวิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เล่นเวทเพื่อเพิ่มการเผาผลาญ จึงจะรีดส่วนเกินหน้าท้องออกไปได้ก่อน รวมถึงการจัดการเรื่องอาหารการกินที่เหมาะสมหลบเลี่ยงแป้ง น้ำตาล

การเน้นบริหารไปเฉพาะที่หน้าท้องให้หนักเพียงใด ก็ทำให้เจ้าของถอดใจได้ เพราะกล้ามท้องที่อยู่ภายใต้ชั้นไขมันที่หนา จะไม่มีวันที่จะมองเห็นเป็นกล้ามชัด ๆ ได้เลย ถ้าไม่มีกระบวนการรีดไขมันออกไปจากร่างกาย ด้วยการออกกำลังกายที่ว่ามาข้างต้น

ความเชื่อข้อที่ 5 คุณจะเผาผลาญได้มากขึ้นถ้าออกกำลังกายแบบเบา ๆ แต่นานมากขึ้น

ความจริง การควบคุมน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย หัวใจสำคัญไม่ใช่การได้เผาผลาญเฉพาะไขมันออกไปจากร่างกาย แต่เรื่องสำคัญอยู่ที่การได้รีดเอาแคลอรี่รวมออกไปให้ได้มากที่สุด ยิ่งออกกำลังกายได้หนัก เดินให้เร็วกว่าเดิม วิ่งให้เร็วขึ้น หรือขี่จักรยานว่ายน้ำแบบเร็ว ๆ ทำให้ร่างกายเพิ่มการเผาผลาญได้สูงมากขึ้นเหมือนรถยนต์ที่วิ่งเร็วกว่าปกติก็ต้องกินน้ำมันมากกว่าวิ่งในระดับไม่ช้าไม่เร็วเกินไป

การได้รีดเอาผลรวมของแคลอรี่ออกไป ผลได้ที่ดีคือน้ำหนักที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ความเชื่อข้อที่ 6 ยิ่งเล่นให้ปวดกล้ามเนื้อยิ่งมีประโยชน์

ความจริง สถานที่ออกกำลังกายบางแห่งทำให้ผู้เล่นบาดเจ็บจากการเล่นที่หนักเกินกำลัง หรือเหนื่อยเกินไป วิธีแบบธรรมชาติหากเป็นการวิ่งหรือขี่จักรยาน ความเร็วที่เหมาะสมคือเราสามารถพูดคุยได้บ้างโดยไม่ถึงกับพูดไม่ได้เลย ซึ่งแสดงว่าหนักเกินไป

แต่ไม่ใช่ไปเรื่อย ออกกำลังกายแบบสามารถเม้าท์แตกได้ไม่หยุด ไม่มีอาการเหนื่อย นั่นไม่ได้แสดงว่าคุณฟิต แต่บอกว่าปากคุณจะบริหารหนักเกินกว่าร่างกายส่วนอื่น ต้องเพิ่มความเข้มข้น

การเล่นแล้วปวดเมื่อยนิดหน่อย ไม่เหมือนกับการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ฟังเสียงบอกจากร่างกายของเรา โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกาย หรือผู้ที่อายุเริ่มไม่ใช่วัยหนุ่มสาว การมีผู้แนะนำที่ถูกต้องเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ การออกกำลังกายด้วยความมุ่งมั่นแต่ไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือแย่กว่านั้นหากมีปัญหาสุขภาพอยู่อาจทำให้เกิดผลร้ายได้มากกว่าการอยู่เฉย ๆ

แต่การได้ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว ได้ยืดเส้นยืดสายจากการทำงานปกติ แม้จะมีเวลาน้อย ก็ขอให้ท่องคาถาไว้ว่า มีน้อยดีกว่าไม่ได้ออกเลย

ขอให้ผู้ที่รักสุขภาพมีสุขภาพที่ดีอย่างที่ทุกท่านต้องการ

Never-Age.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook