ศัพท์โซเชียลฮิตแห่งปี 2020 ไม่เคยพูดคือเชยแหลก

ศัพท์โซเชียลฮิตแห่งปี 2020 ไม่เคยพูดคือเชยแหลก

ศัพท์โซเชียลฮิตแห่งปี 2020 ไม่เคยพูดคือเชยแหลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศัพท์โซเชียลเรียกว่าเป็นคำศัพท์ที่มีออกมาให้เราอัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา โดยแต่ละคำนั้นก็มักที่จะนำเทรนด์ในช่วงนั้นๆ มาปรับจนกลายเป็นคำพูดติดปากนั่นเอง

วันนี้ Sanook Campus เราก็จะพาเพื่อนๆ มาสรุป ศัพท์โซเชียลฮิตแห่งปี 2020 มาดูกันว่าศัพท์อะไรที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ที่สุดของปี ที่ชาวโซเชียลต้องเอาไปพูดตามกัน และแต่ละคำนั้นมีความหมายว่าอะไรกันบ้าง เรามาย้อนดู ศัพท์โซเชียลฮิตแห่งปี 2020 ไปพร้อมๆ กันเลย

ว่าซั่น

01

เป็นวลีสุดฮิต โดยมีที่มาที่ไปจากเน็ตไอดอลสาวสุดแซ่บ อย่างหยาดพิรุณ โดยคำว่า ว่าซั่น นั้นมีความหมายว่า ว่าอย่างนั้น, ประมาณนั้น, ตามที่ได้กล่าวมานี้, ว่ากันว่าอย่างนั้น ใช้พูดต่อท้ายประโยคบอกเล่า มักใช้กับการเล่าเรื่องที่ฟังจากคนอื่นมา หรือใช้กับการยกประโยคของคนอื่นมาพูดอีกที

แกง

02

ศัพท์โซเชียลที่เรียกว่าเป็นที่ฮิตและใช้ตามกันอย่างแพร่หลายอันดับต้นๆ ของปี เริ่มมาจากเหล่า LGBTQ ของประเทศไทย โดยแกง มาจากคำว่า แกล้ง, โกหก, หลอกให้เชื่อ เอามาให้ขายหน้า เอามาให้โดนด่า เป็นการหลอก ขั้นกว่าของการต้ม การตุ๋นอีกฝ่ายจนเปื่อย

อย่าหาทำ

05

คำสุดชิคที่เรียกว่ากินพื้นที่สื่อโซเชียลไปทั่วประเทศเลยจริงๆ กับคำว่าอย่าหาทำ โดยคำว่า อย่าหาทำนั้นมาจากคำว่า อย่าไปทำ, อย่าริอาจไปทำ, มาจากภาษา​อีสาน​ "อย่าหาเฮ็ด" ​(ทำ)​ ใช้ในกรณีที่ต้องการจะเตือน​ผู้​ที่กระทำในสิ่งที่ไม่ดี

ฮ้อยยะ

03

คำว่า ฮ้อยยะ นั้นมีมานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงปี 2017 แต่เพิ่งจะมาฮิตในประเทศไทยช่วงนี้ โดยคำว่า ฮ้อยยะ นั้นมาจากคำว่า Hoya โดยการใช้ จะใช้ในขณะที่กำลังมีเรื่องเจ๋งๆ เกิดขึ้น โดยส่วนมากจะใช้กันในกลุ่มเพื่อน โดยผู้ที่ทำให้คำนี้กลายเป็นที่โด่งดังก็คือ Alissa Violet ดาว IG และ Vine

หนึ่ง

04

อีกหนึ่งคำศัพท์สุดฮิตที่มาจากเหล่า LGBTQ ของประเทศไทยอีกแล้ว โดย หนึ่ง ในความจริงแล้ว ย่อมาจากคำว่า ยืนหนึ่ง แต่ถูกตัดเหลือแค่คำเดียว แค่หนึ่ง สามารถนำไปต่อท้ายทุกประโยค และวลี ได้ทุกอย่าง ในเชิงความหมายที่ว่าเริ่ด หรือ ที่สุดแล้ว หรือง่ายๆ ว่า ทุกอย่างอะไรก็ได้ให้เติมหนึ่ง มันจะดูมีอะไร ทุกอย่างต้องหนึ่ง เหมือนเป็นคำต่อท้ายค่ะ คะ หรือ ครับ ในกลุ่มเพื่อนสนิทที่พูดแล้วจะสร้างความอรรถรสนั่นเอง

ปังปุริเย่

06

ปังปุริเย่ นั้นมาจากคำว่าปัง โดย ปังปุริเย่ เป็นขั้นสุดของคำว่าปัง ใดใด คือที่สุดแล้วจนไม่มีอะไรมาเทียบได้ แบบว่า ปังมากกกกกกกกกกกกกก ปังขั้นสุด ปังไม่ไหวแล้ว ปังแบบปังงงงงงงงงงงงง (ลากเสียงยาวๆ)

โอเค นัมเบอร์วัน

07

เป็นวลีที่มีความหมายว่า ได้, ได้เลย, โอเคเลย, จัดมาเลย, จัดมาอีกได้เลย

ที่มาของ โอเค นัมเบอร์วัน มาจากคลิปสัมภาษณ์แม่ค้าย่านมาบุญครอง ถึงเหตุการณ์ ม็อบ ที่มาร่วมชุมนุมกัน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบต่อการขายของ แต่แม่ค้าคนนี้รู้สึกว่า โอเค ไม่เป็นไร เพราะว่า โอเค นัมเบอร์วัน!!!

ดงปราคช

08

คำว่า "ดงปราคช" นั้นมาจากนักร้องสาวเสียงดี โบกี้ไลอ้อน จากการที่เธอตอบคำถามแฟนผ่านทางสตอรี่ IG

โดยแฟนคลับได้มาถามเธอว่า คุยยังไงให้ได้คบคะ โบกี้ไลอ้อน จึงได้ตอบไปว่า

สเต็ปแรก แกล้งทำเป็นพิมพ์อะไรก็ได้ เหมือนพิมพ์ผิดแบบไม่ได้ตั้งใจทักไป ไม่จำเป็นต้องเป็นคำ ทำตัวงงๆ เข้าไว้

มันมีวันนึงเราคุยกับทอย แล้วได้ยินทอยพูดอะไรไม่รู้ แต่เราได้ยินไม่ชัดเป็น ‘ดงปราคช’ ตอนนั้นงงมาก ภาษาเยอรมันหรอวะ เลยถามมันว่าดงปราคชคืออะไร ทอยบอกเราน่าจะฟังผิด เพราะจริงๆทอยพูดคำอื่น เราเลยเกิดไอเดีย ทำเป็นพิมพ์ไปหาคนที่ตัวเองชอบว่า ‘ดงปราคช’ ไม่ตอบกุนักใช่ไหม ได้ เจอดงปราคชกรุ อย่างน้อยก็ต้องสงสัยบ้างแหละสรุป เป็นกันทุกวันนี้เพราะดงปราคช ขอบคุณดงปราคช นั่นเองจึงเป็นที่มาของคำว่า ดงปราคช

ส้มหยุด

09

เป็นประโยคที่ทำให้เธอกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง สำหรับ สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอลสาวประเภทสอง ที่มักมีเรื่องราวขำขันให้ได้ติดตามกันเสมอ โดยวลีส้มหยุดนั้นมาจากการที่เธอไปออกรายการทีวีรายการหนึ่ง โดยเนื้อหาของประโยคทั้งหมดได้แก่

ตอนซัก 5-6 ขวบ หลังบ้านมันเป็นบ้านคนจีน แล้วแบบอยู่แถวพรานนก มันเป็นลาดไป เป็นพื้นไม้ แล้วเราถือส้ม มันกลิ้ง..เราบอกว่าหยุด! เดินไปดู… มันหยุด… ส้มหยุด! หยุดโดยไม่มีอะไรกั้น

แหก

istock-1131955464(1)

คำว่าแหกนั้นมักจะมาพร้อมกับดราม่า ไม่ว่าจะจานเล็ก หรือจานใหญ่ โดยคำว่าแหกนั้น ไม่ได้มีความหมายว่า แยกออก ถ่างออก ทำให้อ้าออก แต่อย่างใด แต่คำว่าแห่งในศัพท์โซเชียลนั้นมีความหมายว่า แฉ ตีแผ่ เปิดโปง ในเรื่องที่ไม่ดีที่บุคคลที่โดนแหกเคยทำ แล้วก็จะนำมาสู่การแบน ต่อต้าน ในสเต็ปต่อไป ดังนั้นถ้าไม่อยากโดนแหก เรื่องที่ไม่ดีงามทั้งหลาย ก็อย่าหาทำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook