Honda Odyssey e:HEV 2026 เปิดตัวแล้ว อัปเกรดขึ้นเล็กน้อย แต่ขายแค่ญี่ปุ่น

Honda เปิดตัว Odyssey e:HEV รุ่นปี 2026 ออกมาแบบเงียบๆ ครับ แต่สิ่งที่ทำให้แฟนคลับต้องขมวดคิ้วไม่ใช่เรื่องหน้าตาใหม่ แต่เป็น "ราคา" ที่ปรับขึ้นไปพอสมควร ทั้งที่ตัวรถแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมเลย แต่รอบนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างมาดูกันครับ
สำหรับ Odyssey เวอร์ชันขายในญี่ปุ่น (JDM) รุ่นปี 2026 นี้ มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ เพียงแค่ 2 จุดเท่านั้นครับ คือ
- เพิ่มสีตัวถังใหม่: สีขาวมุก Diamond Dust Pearl ที่เคลมว่าเงางามดั่งเกล็ดน้ำแข็ง (สงวนสิทธิ์เฉพาะรุ่นแต่ง Black Edition)
- เพิ่มม่านบังแดดหน้าต่างหลัง: แบบดึงมือ (Manual Roll Sunshades) ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (จากเดิมเป็นของแต่งที่ต้องจ่ายเพิ่มราว 6,000 บาท)
แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาแบบจุกๆ คือ "ราคาจำหน่าย" ที่ปรับขึ้นทุกรุ่นย่อยถึง 286,000 เยน (ประมาณ 63,000 บาท) ซึ่งถือว่าสูงเอาเรื่องเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้เพิ่มมาแค่ม่านบังแดด
การเพิ่มเติมนั้นจะบอกว่า Honda Odyssey โฉมปัจจุบันในญี่ปุ่นนี้ ลากขายมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วครับ (อายุตลาด 10 กว่าปีแล้ว) แม้จะมีการปรับโฉม Minorchange มาหลายรอบ และเคยหยุดผลิตไปช่วงปี 2021 ก่อนจะกลับมาขายใหม่ในปี 2023 โดยใช้วิธี "นำเข้าจากจีน" แทนการผลิตในญี่ปุ่น
ขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV ตัวเดิม เป็นเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 181 แรงม้า (PS) ขับเคลื่อนล้อหน้าผ่านเกียร์ E-CVT ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

สถานการณ์น่าห่วง? เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
สื่อท้องถิ่นในญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า การขยับราคาครั้งนี้อาจทำให้ Odyssey เหนื่อยหนักกว่าเดิม เพราะ
- ราคาไปชน "Toyota Alphard": Odyssey รุ่นใหม่มีราคาเริ่มต้นราว 5.08 - 5.45 ล้านเยน ซึ่งไปทับซ้อนกับราคาเริ่มต้นของเจ้าตลาดอย่าง Alphard พอดี (แต่ Alphard สดใหม่กว่า หรูหรากว่า)
- ออปชันเริ่มตามไม่ทัน: เมื่อเทียบกับคู่แข่ง Odyssey ยังขาดลูกเล่นความหรูหราหลายอย่าง เช่น แอร์แยกโซน 4-Zone, หลังคา Panoramic Roof, เบาะเป่าลมเย็น หรือจอ Head-up Display
- Nissan Elgrand คู่แข่งตลอดกาลอย่าง Elgrand เพิ่งเปิดตัวและกำลังจะวางจำหน่ายในปี 2026 ซึ่งน่าจะแย่งซีนไปได้เยอะ
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี








