เกณฑ์ใหม่ คปภ. 2568 เพิ่มเงื่อนไขการทำประกันรถยนต์ “ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ทุกคัน“
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/au/0/ud/19/95995/health-2025-08-05t110227.24.jpgเกณฑ์ใหม่ คปภ. 2568 เพิ่มเงื่อนไขการทำประกันรถยนต์ “ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ทุกคัน“

เกณฑ์ใหม่ คปภ. 2568 เพิ่มเงื่อนไขการทำประกันรถยนต์ “ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ทุกคัน“

แชร์เรื่องนี้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประกาศใช้เกณฑ์ใหม่ปี 2568 โดยเพิ่มเงื่อนไขสำหรับการทำประกันรถยนต์ บังคับให้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ทุกคัน 

ก่อนหน้านี้ การประเมินเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่พิจารณาจากตัวรถเป็นหลัก ซึ่งไม่สะท้อนพฤติกรรมหรือความเสี่ยงของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง แต่เมื่อมีการปรับระบบให้ระบุชื่อผู้ขับขี่ จะทำให้บริษัทประกันสามารถประเมินความเสี่ยงรายบุคคลได้ตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะพฤติกรรมการขับขี่ในอดีต อัตราการเกิดอุบัติเหตุ และการเคลมประกันที่ผ่านมา

ทำไมต้องระบุชื่อผู้ขับขี่?

ระบบประกันภัยเดิมที่คำนวณเบี้ยโดยอิงเฉพาะตัวรถ ไม่สามารถสะท้อนความเสี่ยงของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริง ส่งผลให้คนขับดีและคนขับเสี่ยงสูงจ่ายเบี้ยเท่ากัน ซึ่งไม่ยุติธรรมและไม่จูงใจให้ขับขี่อย่างปลอดภัย

การระบุชื่อผู้ขับขี่ จึงเป็นวิธีใหม่ในการพิจารณาความเสี่ยงรายบุคคล เพื่อ:

  • ปรับเบี้ยประกันให้สอดคล้องกับพฤติกรรมจริง
  • ส่งเสริมพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี
  • สร้างระบบ “รางวัล” ให้กับคนที่ขับดี ไม่มีอุบัติเหตุ
  • ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในภาพรวม

เริ่มใช้เมื่อไร?

ซึ่งเงื่อนไขใหม่ที่เพิ่งประกาศออกมานี้จะเริ่มต้นบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 สำหรับรถยนต์ป้ายแดงที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี และจะขยายครอบคลุมรถยนต์ทุกประเภทที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป

รายละเอียดการระบุชื่อผู้ขับขี่

ภายใต้เกณฑ์ใหม่นี้ ผู้เอาประกันสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ สูงสุด 5 คน ต่อกรมธรรม์ โดยต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่:

  • ชื่อ – นามสกุล
  • เลขบัตรประชาชน หรือ เลขใบขับขี่

หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่หลักระหว่างปีกรมธรรม์ ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

ระบบส่วนลดประกันรถยนต์ใหม่

ก่อนหน้านี้ ส่วนลดของประกันรถยนต์จะอิงจากประวัติของรถที่ไม่มีการชนแบบที่เป็นฝ่ายผิด แต่ในเกณฑ์ใหม่นี้ ส่วนลดของประกันรถยนต์จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ขับดี และ ส่วนลดประวัติดีของรถ ซึ่งจะลดสูงสุด 40% ในแต่ละส่วน

ตัวอย่าง:
เบี้ยประกันภัยเต็ม: 50,000 บาท

  • ลด 40% จากการระบุชื่อผู้ขับขี่
    = 50,000 x 40% = ลด 20,000 บาท
    ⇒ เหลือ 30,000 บาท

  • ลดอีก 40% จากประวัติขับขี่ดี
    = 30,000 x 40% = ลดเพิ่ม 12,000 บาท
    ⇒ เหลือจ่าย 18,000 บาท

การเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ประกันภัยรถยนต์ในปี 2568 ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ที่มุ่งเน้นการสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน โดยการระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์จะช่วยให้การประเมินเบี้ยประกันแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ผู้ขับขี่มีพฤติกรรมที่ดี ลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุในระยะยาว ผู้ใช้รถทุกคนจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมกับระบบใหม่ เพื่อใช้สิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ และได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง