ขับรถทางแคบ ใจต้องกว้าง

     ใครที่ผ่านประสบการณ์ขับรถเข้า-ออกซอยแคบ ๆ ในกทม. แล้วรถของคุณไม่เคยมีแผลเลย บอกเลยว่าคุณสุดยอดมาก ๆ ครับ

     การขับรถในเมืองกรุงถือเป็นการฝึกสกิลที่หาไม่ได้จากโรงเรียนสอนขับรถ รวมถึงไม่มีในสถานีทดสอบใบขับขี่ เช่นเดียวกับการขับรถขึ้นลงเขานะครับ เพราะเป็นประสบการณ์ที่คุณต้องเจอกับสถานการณ์จริง ๆ และต้องผ่านไปให้ได้ด้วยตัวเอง

     สำหรับผมเคยมีแผลจากการขับรถเข้าซอยแคบ เท่าที่จำได้ 2 ครั้งสมัยหนุ่ม ๆ ครั้งแรกในซอยทางลัดย่านรัชโยธิน เลี้ยวซ้ายไปครูดกับ เหล็กที่ยื่นออกมาจากรูเสาไฟฟ้าแบบไม่ทันมอง ส่วนอีกครั้งกระจกมองข้างฝั่งขวาครูดกับรถที่สวนมาจนพับเข้ามา ยังดีไม่ได้เสียหายอะไรมาก

     จากประสบการณ์ 2 แผลในครั้งนั้น ทำให้ผมเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาขับเข้าซอยแคบ รวมถึงในซอยที่รถต้องสวนทางกัน ผมเชื่อว่าสำหรับมือใหม่ เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ คงจะตื่นเต้นไม่แพ้จังหวะรอเลี้ยวออกถนนใหญ่ หรือจังหวะรถติดบนสะพาน (เกียร์ธรรมดา) เลยทีเดียวนะครับ

     เนื่องจากภาพที่เราเห็นจากกระจกด้านหน้า กับรถที่กำลังจะวิ่งสวนมา หากเราขับเป็นคันแรกที่จะต้องสวนเข้าไป มันจะเป็นอะไรที่หลอกตามาก! ว่าทางที่เราขับสวนนั้นมันจะกว้างไม่พอ เว้นแต่ว่าถ้ามีรถนำหน้าเรา ก็จะดีหน่อย เราแค่ขับตามแนวคันหน้าอย่างระมัดระวัง ก็เป็นอันหายห่วง

     อย่างไรก็ดี ในยุคนี้ผมยังเห็นคลิปในโลกโซเชียลมากมายที่รถเฉี่ยวชนกัน ทั้งจากความประมาทและนิสัยไม่ดีของคนขับรถ (บางคน) ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือ เราต้องระมัดระวังฝั่งของเราให้ดีที่สุด ที่สำคัญต้องไม่ใจร้อน และมีน้ำใจให้กับรถฝั่งที่สวนมาด้วยครับ

     ยกตัวอย่างว่า ทางที่สวนไปนั้น เป็นทางฝั่งเลนซ้ายของเราก็จริง (ถ้าเป็นทางปกติ รถที่สวนมาจะต้องหลบ) แต่เราก็ควรสังเกตเสียหน่อยว่ารถที่สวนมาเขามีที่หลบหรือทางเลี่ยงไม่ ถ้าไม่มีก็ไม่เสียหายครับที่เราจะจอด หรือหาที่หลบในฝั่งเราให้เขาไปก่อน เท่านี้ก็แก้ปัญหาได้แล้วครับ

     รวมถึงในบางจังหวะที่จะต้องถอย ก็ต้องถอยนะครับ เพราะหากต่างคนต่างไม่ถอย รับรองไปกันไม่ได้แน่นอน เผลอ ๆ จะมีเรื่องยืดยาวอย่างหลาย ๆ คลิปที่เห็นกันในโลกออนไลน์ยุคนี้ ผมเองเคยทั้งถอย เคยทั้งจอดพับกระจกมองข้าง เคยทั้งนั่งทำตัวให้เล็กที่สุดก็เคยทำมาแล้วครับ (ฮ่า ๆ)

     ยิ่งรถยุคนี้แต่ละรุ่นที่ออกมา ขนาดเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ ตั้งแต่รถคอมแพ็กคาร์ ที่พยายามอัปไซส์ให้ใหญ่ขึ้น ขณะที่รถระดับ D-Segment สมัยนี้ก็ยาวเท่ารถกระบะแล้ว ส่วนรถกระบะไปจนถึงรถ PPV ก็ทั้งยาวทั้งสูง ฉะนั้น ก็ยิ่งเป็นปัญหาเข้าไปอีกเมื่อต้องมาจ๊ะเอ๋กันในซอยที่แสนแคบ

     ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าซอยจะแคบแค่ไหน ขอให้ใจเราอย่าแคบเป็นดีที่สุด รับรองขับผ่านได้โดยที่ไม่มีแผลทั้งคนทั้งรถแน่นอนครับ

ผู้เขียน: ธันยเดช เกียรติศิริ