MICHELIN Pilot Sport Cup2 ความสมดุลของยางแข่งกับการใช้งานจริง ที่ Mercedes AMG SLS เลือกใช้
สวัสดีครับ ชาว Sanook! Auto วันนี้มีโอกาสดีรีวิวยางขั้นเทพ อย่างยาง MICHELIN Pilot Sport Cup 2 สุดยอดสมรรถนะสำหรับสปอร์ตพันธุ์แท้ ให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสความสุดยอดของยางมิชลินรุ่นนี้กัน ไม่รอช้า ไปดูกันเลยครับ...
เมอร์ซิเดส เบนซ์ SLS AMG Coupe Black series คือนิยามใหม่แห่งรถสปอร์ตสายพันธุ์จาก AMG จึงไม่แปลกที่มิชลิน ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ทั้งบนเวที Motorsport ในขณะเดียวกันก็ถือว่าเป็นแบรนด์ยางชั้นนำที่ผลิตยางสมรรถนะสูงสำหรับการวิ่งบนถนนทั่วไป จะได้เข้ามาเป็น Partner ในการพัฒนายางติดรถรุ่นนี้ บนโจทย์ที่ต้องการดึงศักยภาพของรถให้แกร่งบนสนามแข่ง และดีเยี่ยมบนถนนจริง จนกลายมาเป็น MICHELIN Pilot Sport Cup 2 คือยางที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นยางมาตรฐานสำหรับเมอร์ซิเดส เบนซ์ SLS AMG Coupe Black series รุ่นใหม่ทุกคัน และเป็นเครื่องหมายสะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งมิชลินและ AMG ที่จะพัฒนายางและสมรรถภาพของรถสปอร์ตเพื่อให้ก้าวล้ำไปในอนาคตร่วมกัน
สมรรถนะอันทรงพลังของยาง MICHELIN Pilot Sport Cup 2 ได้รับการรับรองจาก AMG ว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับนำมาใช้เป็นยางมาตรฐานของรถรุ่นใหม่ในตระกูลนี้ทุกคัน MICHELIN Pilot Sport Cup 2 สามารถตอบสนองความเร้าใจในการขับขี่แบบสปอร์ตพลังสูงได้อย่างครบถ้วน โดยยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพเมื่อใช้งานบนถนนจริง เพราะการใช้งานในชีวิตประจำวันน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราสัมผัสสมรรถนะได้บ่อยที่สุดเพื่อความมั่นใจและความเร้าใจสูงสุด ซึ่ง MICHELIN Pilot Sport Cup 2 มีสมรรถนะที่โดดเด่นดังนี้
- มีความแม่นยำสูงตลอดระยะทางการขับขี่ ในทุกอุณหภูมิถนน
- ตอบสนองได้ฉับไวและแม่นยำต่อเครื่องยนต์และโครงสร้างรถสปอร์ตที่ทรงพลัง
- เกาะถนนได้ดีเยี่ยม สามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจ
- เนื้อยางมีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดีเยี่ยม ทำให้สมรรถนะคงที่ตลอดระยะทางขับขี่
- มีความเสถียรสูงและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม พร้อมการเกาะถนนที่มั่นใจในทุกการขับขี่ และทุกสภาพอากาศ
MICHELIN Pilot Sport Cup 2 ถ่ายทอดสุดยอดเทคโนโลยีจากการแข่งขันเอ็นดูแรนซ์สู่สุดยอดยางสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า จนมั่นใจว่าเราได้ยางรุ่นใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพ งานนี้ถูกทดสอบจนถึงขีดสุดโดยทีมงานจากทั้ง MICHELIN และ AMG สุดท้าย MICHELIN Pilot Sport Cup2 จึงเป็นยางที่ทำลายทุกกฏเกณฑ์ของยางสปร์ตอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นความเฉียบคม ระยะเบรกสั้นลง ที่สมบูรณ์แบบถึงขีดสุด เสริมความมั่นใจในการขับขี่ของผู้บริโภคอย่างเราๆ ซึ่งสามารถสรุปจุดเด่นได้ ดังนี้
- เร็วกว่ายางรุ่นก่อนถึง 1.8 วินาที บนถนนแห้งในการวิ่ง 5 รอบสนาม
ด้วยเทคโนโลยีสูตรเนื้อยางเดียวกับยางที่ใช้ในการแข่งขันเอ็นดูแรนซ์ ที่ออกแบบให้หน้ายางมีสูตรเนื้อยางที่แตกต่างกัน ด้านนอกเป็นสูตรเนื้อยางไฮโมเล็คคูลาร์เชน (High molecular Chain) และด้านในเป็นสูตรริจิด อิลาสโตเมอร์ (Rigid elastomer) เนื้อยางที่ให้ความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งมากขึ้น
- เร็วกว่ายางรุ่นก่อนถึง 1.2 วินาทีบนถนนเปียกในการวิ่ง 5 รอบสนาม
ความลึกของร่องดอกยางเพิ่มขึ้นอีก 20% โดยไม่สูญเสียสมรรถนะการยึดเกาะ
- เพิ่มอายุการใช้งานบนสนามแข่งมากขึ้นอีก 50%
ด้วยเทคโนโลยี แทร็ค ลองจิวิตี้ 2.0 กับการออกแบบโครงสร้างบริเวณไหล่ยางให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นช่วยลดอัตราการสึกหรอบริเวณไหล่ยางได้ดีมากยิ่งขึ้น จึงช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้น ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีหน้าสัมผัสแบบแปรผัน 3.0 และโครงสร้างไหล่ยางที่มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น จึงช่วยลดอัตราการสึกของยาง แก้มยางแบบใหม่ที่ให้ความโดดเด่นและดุดัน
เป็นอย่างไรบ้างครับ กว่าจะได้ยางสมรรถนะเทพๆ สักรุ่นไม่ง่ายเลยนะครับผ่านการวิเคราะห์ ทดสอบหลายต่อหลายครั้ง จนมั่นใจว่าสามารถดึงเอาสมรรถนะขั้นสูงสุดของยางออกมาได้ และด้วยความพิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียดของมิชลิน ทำให้ครองใจผู้ผลิตรถสปอร์ตคาร์หลายเจ้า รวมถึงเมอร์ซิเดส-AMG ก็เช่นกัน
บทพิสูจน์ของความสำเร็จ กับการทำงานร่วมกันของ AMG และ MICHELIN