Preview Toyota Auris HSD เครื่องไฮบริด

Preview Toyota Auris HSD เครื่องไฮบริด

Preview  Toyota Auris HSD เครื่องไฮบริด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

เปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 ตอนนี้โตโยต้าสานฝันโปรเจ็กต์การนำรถบ้านในระดับคอมแพ็กต์มาติดตั้งระบบ ไฮบริดเพื่อทำตลาดยุโรปแล้ว กับเวอร์ชันออริส HSD  ที่ยกชุดระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดจากพริอุส เจนเนอเรชันที่ 3 มาวางใต้ฝากระโปรง

ยุโรปได้ตั้งมั่นว่าประมาณปี 2020 รถยนต์ทุกรุ่นของโตโยต้าจะต้องมีรุ่นไฮบริดให้เลือกซื้อด้วย ซึ่งการยกระบบไฮบริดมาใช้จึงไม่น่าเป็นเรื่องยุ่งยากหรือวุ่นวายจนเกินไป ซึ่งจริงอยู่ที่ว่า ในยุโรป ตัวถังซีดานจะขายอยู่เพียงไม่กี่ตลาด แต่สำหรับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ทั้งสำหรับโคโรลล่า ซีดาน และรถยนต์ไฮบริด ทางเลือกนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน ตอนแรกโตโยต้าเลือกอังกฤษให้เป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาและการผลิตตาม โครงการนี้ ซึ่งออริส HSD-Hybrid Synergy Drive ได้รับการผลิตที่โรงงานใน Bournaston เพื่อส่งขายในหลายประเทศของยุโรป ซึ่งออริส HSD พัฒนาบนพื้นฐานของออริสรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่เปิดตัวงาน “เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010” เช่นเดียวกับรุ่นไฮบริด

ความแตกต่างในเชิงรูปลักษณ์ด้วยการปรับ แต่งกระจังหน้าและกันชนหน้าให้มีความเพรียวลมและลดการต้นลมในขณะแล่น ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจากการปรับปรุงในครั้งนี้ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทาน หรือ Cd ลดลงจาก 0.29 ในรุ่นปกติลงมาอยู่ที่ 0.283 อีกทั้งโลโก้ของโตโยต้าทั้งบนกระจังหน้าและฝากระโปรงท้ายก็มีแถบสีน้ำเงิน เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นโลโก้เฉพาะของรถยนต์ไฮบริด ปรับปรุงชุดมาตรวัดใหม่ โดยมีการติดตั้งจอการแสดงผลของของระบบช่วยเหลือผู้ขับ หรือ Eco Drive Assist Monitor เพื่อแสดงสถานะในการทำงานของระบบไฮบริด อีกทั้งบนแผงคอนโซลกลางยังมีการติดตั้งปุ่มควบคุมการทำงานของระบบไฮบริดทั้ง ในโหมด EV สำหรับขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าไม่มีการปล่อยมลพิษออกสู่อากาศ ซึ่งการขับเคลื่อนจะอาศัยกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ โดยถ้าชาร์จจนเต็มสามารถขับด้วยระยะทาง 2 กิโลเมตรที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง, ECO เน้นความประหยัดในการขับ และ POWER เน้นสมรรถนะในการขับขี่ ตัวระบบไฮบริดยกมาจากพริอุสรุ่นใหม่ เป็นการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1,800 ซีซี VVT-i มีการออกแบบการเผาไหม้แบบ Atkinson Cycle เพื่อเน้นความประหยัด ซึ่งเฉพาะเครื่องยนต์เพียวๆ มีกำลังอยู่ที่ 97 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที และมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 60 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 21.1 กก.-ม. ที่ 0-13,000 รอบ/นาทีเข้ามาช่วยในการทำงานทั้งในส่วนการขับเคลื่อนและการชาร์จกระแสไฟฟ้า ซึ่งกำลังสูงสุดที่ได้จากการทำงานร่วมกันของทั้ง 2 ส่วนจะอยู่ที่ 134 แรงม้า

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook