โตโยต้าเผยเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force 2.0 ลิตร พร้อมเกียร์ Direct CVT ใหม่ล่าสุด
โตโยต้าเผยโฉมเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force ขนาด 2.0 ลิตร บล็อกใหม่ล่าสุด พร้อมเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-CVT ครั้งแรกในโลก สำหรับวางในแพล็ตฟอร์ม TNGA โดยเฉพาะ
เครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force ของโตโยต้าดังกล่าว เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร หัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น D-4S มีจุดเด่นอยู่ที่การพัฒนาให้มีประสิทธิภาพทางความร้อนสูงสุดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และ 41 เปอร์เซ็นต์ในเครื่องยนต์ไฮบริด พร้อมทั้งปรับปรุงให้มีสัดส่วนกำลังอัดถึง 13:1 และ 14:1 ในรุ่นไฮบริด
นั่นทำให้เครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้ มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 171 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ขณะที่บล็อกสำหรับใช้กับระบบไฮบริดมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 145 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที
นอกจากนั้น ยังมีเครื่องยนต์ระบบไฮบริด 2.0 ลิตร THS II (Toyota Hybrid System II) ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.8 ลิตร ที่วางอยู่ใน Prius รุ่นล่าสุด แต่พัฒนาให้มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาลง ซึ่งโตโยต้าระบุว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในเครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้ สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 108 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร ขณะที่แบตเตอรี่มีแรงดันไฟ 216 โวลต์ 6.5 แอมป์ชั่วโมง เพิ่มเซลส์ไฟฟ้าขึ้นเป็น 180 เซลส์ จากเดิม 168 เซลส์
โดยเครื่องยนต์ไฮบริด THS II ดังกล่าว จะดึงพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้มากขึ้นกว่าเดิม และรีดพลังงานจากเครื่องยนต์น้อยลง ทำให้เกิดความนุ่มนวลขณะเร่งเครื่องยนต์กะทันหันมากขึ้น
โตโยต้ายังเปิดตัวระบบกระจายแรงบิด Dynamic Torque Vectoring AWD และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four 4WD สำหรับใช้กับแพล็ตฟอร์ม TNGA โดยเฉพาะ โดยระบบกระจายแรงบิด (Torque Vectoring) ทั่วไป จะเป็นการใช้เบรกเพื่อชะลอความเร็วของล้อด้านในโค้ง เพื่อให้เข้าโค้งได้ฉับไวมากขึ้น แต่ระบบ Dynamic Torque Vectoring ใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน จะเป็นการเพิ่มแรงบิดไปยังล้อด้านนอกโค้งแทน
ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four จะถูกใช้คู่กับรถยนต์ไฮบริด ซึ่งสามารถปรับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าบนเพลาหลังเพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน
ไม่เพียงเท่านั้น โตโยต้ายังเปิดตัวเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-CVT ใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อม Launch gear ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสายพานเกียร์ขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ รวมถึงปรับองศาของสายพานให้แคบลงเพื่อเพิ่มความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ และปรับพูลเลย์ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อลดแรงเฉื่อย เป็นต้น
โตโยต้ายังเอาใจตลาดยุโรปที่ชื่นชอบเกียร์ธรรมดา ด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะลูกใหม่ ที่ปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลงและลดน้ำหนักลงได้ถึง 7 กิโลกรัม ซึ่งโตโยต้าระบุว่าเกียร์ลูกใหม่นี้ ถือเป็นหนึ่งในชุดเกียร์ที่เล็กที่สุดในโลกก็ว่าได้
โตโยต้าจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาติดตั้งในรถรุ่นไหนบ้างคงต้องติดตามกันต่อไป