เชฟโรเลตอวดโฉมแคปติวา สปอร์ต เอดิชั่น

เชฟโรเลตอวดโฉมแคปติวา สปอร์ต เอดิชั่น พร้อมชุดแต่ง เออร์เบิร์น แพ็คเกจ สำหรับเทรลเบลเซอร์ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยเปิดตัวเชฟโรเลต แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่น รุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าภายในงาน 2014 ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31 พร้อมกับแนะนำชุดแต่ง ‘เออร์เบิร์น แพ็คเกจ’ เสริมความโดดเด่นให้รถเทรลเบลเซอร์ แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่น รถเอสยูวีชั้นนำของเชฟโรเลตได้รับการติดตั้งกล้องมองหลัง พร้อมเส้นตารางกำหนดระยะ ที่ปรากฏบนหน้าจอจะปรับตำแหน่งโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงถึงขอบเขตของตัวรถ โดยเส้นตารางกำหนดระยะจะเปลี่ยนตำแหน่งทิศทางตามการหมุนของพวงมาลัย กล้องมองหลังจึงไม่เพียงให้ความสะดวกสบาย หากยังเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น แคปติวายังมาพร้อมไฟแอลอีดีส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน (LED daytime running light) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยสำหรับยานพาหนะที่วิ่งสวนมาและยกระดับความปลอดภัยโดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในสภาวะที่มีแสงสว่างน้อย รูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยวด้วยสปอยเลอร์และชุดแต่งบอดี้คิท พร้อมโลโก้ ‘Sport Edition’ และบันไดข้าง (สำหรับรุ่นเบนซิน) เสริมให้แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่นมีความโดดเด่นที่เหนือกว่า แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่นยังคงมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์และเข้า-ออกห้องโดยสารโดยไม่ใช้กุญแจ ผู้ขับขี่สามารถล็อกและปลดล็อกประตูและฝาประตูท้ายได้โดยไม่ต้องกดสวิทช์ที่กุญแจ ด้วยการพัฒนาบนพื้นฐานของรถระดับพรีเมียมอย่างคอร์เวทท์ สติงเรย์ ผู้ขับขี่ยังสามารถสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องบิดสวิทช์กุญแจ ระบบนี้คล้ายกับรถเชฟโรเลต ครูซ แต่มีฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้นเพื่อให้เหมาะสม ผู้ขับขี่เพียงแค่เก็บกุญแจไว้ในกระเป๋ากางเกง กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าใส่เอกสาร ตัวรถและกุญแจมีการสื่อสารด้วยระบบอิเลกทรอนิกผ่านรหัสที่มีความปลอดภัยซึ่งป้องกันการแทรกแซงจากอุปกรณ์อิเลกทรอนิกอื่นๆ แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 ให้พละกำลัง 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบ/นาที และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลัง 163 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดครั้งแรกในรถระดับนี้ พร้อมฟังก์ชั่น DSC (Driver Shift Control) ระบบยกตัวอัตโนมัติ (Self-Levelizer System) ช่วยรักษาความสูงของตัวรถไม่ว่าจะบรรทุกสัมภาระหรือผู้โดยสารมากเพียงใดก็ตาม เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวและสมรรถนะการควบคุมของแคปติวาให้ดีที่สุดในทุกสถานการณ์ แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่นรุ่นดีเซลมีราคาจำหน่ายที่ 1,729,000 บาท ขณะที่รุ่นเบนซินมีราคาจำหน่าย 1,610,000 บาท พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ 15,000 บาท สำหรับเทรลเบลเซอร์สามารถเลือกเสริมความพิเศษให้รถเอสยูวีรุ่นนี้ด้วยชุดแต่ง เออร์เบิร์น แพ็คเกจ ซึ่งประกอบด้วยหน้าจอสำหรับผู้โดยสารเบาะที่นั่งแถวหลัง เครื่องเล่นดีวีดี กล้องมองหลังและไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน ขุมพลังของเทรลเบลเซอร์เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร ให้พละกำลัง 200 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที หรือเท่ากับ 178 นิวตันเมตรต่อลิตร ขุมพลังรุ่นใหม่ไม่เพียงเพิ่มอัตราเร่งและสมรรถนะทางตรงของเทรลเบลเซอร์เท่านั้น แต่ยังเสริมศักยภาพการลากจูงและการบรรทุกหนักอีกด้วย สำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตร ให้พละกำลัง 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล 2.8 ลิตรเวอร์ชั่นล่าสุดมีพละกำลังสูงขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ แรงบิดมากขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์และบริโภคเชื้อเพลิงน้อยลง 4.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตรมีพละกำลังเพิ่มขึ้น 8.6 เปอร์เซ็นต์ แรงบิดสูงขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์และประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าเดิม 5.17 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์เจนเนอเรชั่นแรก พบกับแคปติวา สปอร์ต เอดิชั่น ชุดแต่งเทรลเบลเซอร์ เออร์เบิร์น แพ็คเกจ และผลิตภัณฑ์อันโดดเด่นของเชฟโรเลตภายในบูธเชฟโรเลต ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31 และที่ศูนย์ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศ เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์ เรียบเรียงข้อมูลโดย www.gpinews.com ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th