7 เทคนิคเลือกรับประทานอาหารระหว่างตั้งครรภ์
การเลือกรับประทานอาการที่มีมีประโยชน์ทำให้หญิงตั้งครรภ์มีสุขภาพที่ดี และทารกในครรภ์ก็จะมีสุขภาพดีด้วยเช่นกัน 7 เทคนิคในการรับประทานอาหารเหล่านี้ จะทำให้ทั้งแม่และลูกในครรภ์ มีสุขภาพที่ดีได้
1. ต้องไม่ลืมรับประทานอาหารเช้า : ไม่ว่าช่วงเวลาเช้า จะยุ่ง และมีเวลาน้อยแค่ไหน คุณแม่ตั้งครรภ์ก็ต้องไม่ลืมรับประทานอาหารเช้า อาจจะจัดอาหารที่ทำง่าย เช่นซีเรียล กับผลไม้ เสริมด้วยอาหารที่มีแคลเซียม หรือหากใครมีอาการแพ้ท้อง ไม่สามารถจะรับประทานอาหารได้มากนักในช่วงเช้า ก็ให้เริ่มจากขนมปังโฮลวีด แล้วค่อย ๆ รับประทานเมื่ออาการดีขึ้น
2. รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ : ให้เลือกรับประทานผัก ผลไม้ให้หลากหลายเช่น แครอท ผักใบเขียว กล้วย เมลอน รับประทานถั่วให้มาก ๆ และจะดีมากหากสามารถรับประทานข้าวแดง หรือพวกข้าวโอ๊ตได้
3. รับประทานอาหารว่างที่มีประโยชน์ : เลือกอาหารว่างไขมันต่ำ โยเกิร์ตที่ไม่มีไขมัน และผลไม้ ขนมแครกเกอร์โฮลเกรนไร้ไขมัน และชีสไขมันต่ำ เป็นต้น
4. เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินหลากหลาย รวมทั้งมีธาตุเหล็ก และกรดโฟลิคทุกวัน : ธาตุเหล็กมีความสำคัญในระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะทำให้เลือดดี ส่วนโฟลิก ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อความผิดปกติของทารก
5. รับประทานปลาให้มาก ๆ : อย่างน้อยให้รับประทานปลาให้ได้ 12 ออนซ์ต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ปลา 1 ชิ้น ขนาดประมาณสำรับไพ่ จะมีน้ำหนักประมาณ 3 ออนซ์ แต่ให้ระวังปลาที่มีสารปรอทเช่นฉลาม ปลาฉนาค ปลาอินทรีย์ หากรับประทานปลาทูน่า ให้เลือกกระป๋องเล็ก ปลาทูน่าขาวก็มีสารปรอทมากเช่นกัน ส่วนปลาทั่ว ๆ ไปอย่างแซลมอน ปลาดุก หรือกุ้ง จะมีสารปรอทน้อย
6. หลีกเลี่ยงการรับประทานชีสเหลว และเนื้อดิบในช่วงกลางวัน : อาหารบางอย่างมีแบคทีเรียทำร้ายร่างกายได้ ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทาน เช่น ชีสเหลว ชีสจากแพะ รวมไปถึงเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก อย่างเช่นซูชิ นอกจากนั้น ควรเลี่ยงการรับประทานอาหารกลางวันจำพวกเนื้อ ฮ๊อทดอก เว้นเสียแต่ว่า อาหารเหล่านั้น ปรุงสุกในอุณภูมิที่เหมาะสมจริง ๆ
7. จำกัดปริมาณคาเฟอีน และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ : เครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟ ต้องรับประทานจำกัด เลือกดื่มน้ำเปล่า ไม่ดื่มน้ำอัดลม และควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
