9 เหตุผล เมื่อการดูนางงามไม่ใช่เรื่องไร้สาระ!
และนี่คือ 9 เหตุผลที่จะทำให้คุณรู้ว่า การดูนางงามไม่ใช่เรื่องไร้สาระอีกต่อไป
1. ภูมิศาสตร์เป๊ะ
รู้จักประเทศ Aruba ไหม? เคยได้ยินชื่อเกาะ Turks and Caicos หรือเปล่า ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณเริ่มดูนางงาม! ปกติโดยการประกวดทั่วไป สาวงามของแต่ละประเทศจะมีสายสะพายคาดไว้ตลอดเวลาเพื่อบ่งบอกว่าเธอเหล่านั้นมาจากประเทศอะไร อีกทั้งเวลาแนะนำตัว ก็มักจะเรียงตามลำดับตัวอักษรด้วย ฉะนั้นเราจะพบว่ามีบางประเทศที่เข้าแข่งขันเป็นประจำทุกปี แต่ในชีวิตจริงไม่เคยได้ยินชื่อเหล่านี้เลย ถึงแม้ว่าคุณจะชอบดูบอลโลกหรือได้คะแนนเต็มวิชาสังคม แต่เชื่อสิว่ายังมีอีกหลายประเทศที่คุณควรรู้จัก อีกทั้งยังรู้คร่าวๆ ด้วยว่า โดยลักษณะทั่วไปของประชากรประเทศนั้น มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
2. มีสติตอนตอบคำถาม
‘ระฆังดี ไม่ตีก็ดัง’ วลีเด็ดที่ถูกนำมาผลิตซ้ำเพื่อเรียกเสียงตลกเวลาที่นึกถึงรอบตอบคำถามตอนประกวดนางงาม แต่เอาเข้าจริง รอบนี้ถือว่าปราบเซียนสำหรับใครหลายคน เพราะความสวยก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้าเกิดสิ่งที่พูดออกมานั้นดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย นี่คือตัวอย่างของการมีสติและความมั่นใจเมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งการสัมภาษณ์งาน ตอบคำถามเจ้านาย หรือเจรจางานที่เร่งด่วน เราแนะนำให้คุณตอบ Main Idea ไปเลย แล้วค่อยเสริมด้วยเหตุผลต่างๆ นางงามหลายคนที่ตกม้าตายรอบสัมภาษณ์ มักจะตอบไม่ตรงคำถาม (เช่น ถามเรื่องความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต แต่กลับไปตอบว่ารักครอบครัวตัวเองมากๆ Lol) กันทั้งนั้น
3. ส้นสูง
ใช่แล้วค่ะ นางงามมากับรองเท้าส้นสูงเสมอ รองเท้าแบบนี้ถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้หญิงไปโดยสิ้นเชิง เพราะถ้ามองเพียงแค่ภายนอก การใส่ส้นสูงทำให้เรานั้นดูโดดเด่น สง่าเทียบเท่าความสูงของผู้ชาย เพิ่มความมั่นใจให้กับการใช้ชีวิต แต่รู้ไหมว่าผู้หญิงหลายคนนั้นเดินบนส้นสูงไม่เป็น และทำให้เสียบุคลิกอย่างมาก การดูนางงามทำให้คุณได้สังเกตว่าพวกเธอมีวิธีทรงตัวบนส้นสูงได้อย่างมืออาชีพอย่างไร สเต็ปการเดินของใครเปรี้ยวถูกใจ หรือใครสับขาได้อย่างมั่นใจเหลือเกินจนอยากลองทำดูบ้าง เชื่อสิว่าแค่ส้นสูงดีๆ สักคู่ จะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูดีขึ้นกว่าเดิม
4. สวยสตรอง
ใครว่าการเป็นนางงามนั้นทำได้ง่ายๆ ผิดแล้ว แค่พูดว่า ‘รักเด็ก’ คงไม่ทำให้คุณเป็นนางงามขึ้นมาหรอกนะ กว่าผู้หญิงหนึ่งคนจะยืนอยู่บนเวทีได้ ต้องผ่านการฝึกฝนตั้งแต่การเดิน แต่งหน้า ทำผม ตอบคำถาม แนะนำตัว พรีเซ้นต์ชุด หรือแม้กระทั่งการยิ้มว่าควรทำอย่างไร รางวัลของความพยายามคือตำแหน่งที่ได้มา และถึงแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในตอนท้าย แต่ระหว่างทางก็มีคนเห็นในสิ่งที่ทำ คุณก็เช่นกัน ในแต่ละอาชีพย่อมต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกมากเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการลงมือทำ
5. เลือกสายความสวย
การประกวดระดับนานาชาติแต่ละครั้งจะเป็นการรวมสาวงามมากกว่า 80 ประเทศมาไว้ที่เดียวกัน ทำกิจกรรออกสื่อมากมาย ช่วงการเก็บตัวเราจะได้เห็นอิริยาบถของนางงามแต่ละคน รวมไปถึงรอบ Preliminary Competition ที่เป็นการประกวดรอบแรกเพื่อดูคาแรกเตอร์ของพวกเธอแต่ละคน คุณจะได้เห็นคำนิยามของคำว่า ‘นางงาม’ ที่พวกเธอได้ตีความออกมา เพราะจะมีทั้งสายเจ้าหญิง ที่ Keep Look สวยหรูอยู่ตลอดเวลา, สายนางงาม เดินทำตาเฉี่ยว สับขาอย่างมั่นใจ มองซ้ายทีขวาที หมุนโชว์กระโปรงพลิ้วหนึ่งทีเพื่อความสวยงาม, สายตลก หรือเรียกอย่างสุภาพว่า ‘นางงามเฟรนด์ลี่ย์’ นางงามประเภทนี้มักเดินไปยิ้มไป เฮฮาร่าเริง เล่นหูเล่นตากับคณะกรรมการและคนดู ส่วนสายหลืบ มักจะเป็นนางงามที่ดูไม่เอ็นจอยกับการประกวดสักเท่าไหร่ ไม่มั่นใจเอาเสียเลย ซึ่งก็จะหลุดสายตาของคนดูไป คุณจะได้เปรียบเทียบพวกเธอกับตัวเองว่าตอนนี้คุณอยู่สายอะไร พอใจกับสิ่งที่เป็นหรือไม่ และต้องปรับปรุงตัวเองอย่างไร
6. เหมือนท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง
ปี 2005 ชาวต่างชาติหลายคนได้รู้อย่างกระจ่างแจ้งว่า Thailand เป็นคนละประเทศกับ Taiwan! การประกวดนางงามทั้งในระดับประเทศและระดับสากลมักจะผูกติดเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยวไปด้วย เพื่อเป็นการโปรโมทให้ผู้ชมได้รู้จักกับสถานที่เจ้าภาพมากยิ่งขึ้น แต่ละช่วงของการถ่ายทอด จะมีการตัดภาพนางงามกำลังทำกิจกรรมในช่วงเก็บตัวในสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ การตกแต่งเวทีการประกวดยังมักจะอิงกับภูมิภาคนั้นอีกด้วย เช่น การประกวดที่เมืองไทย ก็ต้องมีตุ๊กๆ มีร่มบ่อสร้าง ถ้าประกวดที่บราซิล ก็จะได้บรรยากาศคึกคักให้สมกับเป็นเมืองแซมบ้า แตกต่างกันออกไป ได้เรียนรู้วัฒนธรรมไปในตัว
7. สวยสร้างได้
เวลาดูนางงาม คุณเองก็อยากมีหุ่นและผิวที่ดีเหมือนพวกเธอใช่ไหมล่ะ ลืมเรื่องมายาคติเรื่องความสวยไปก่อน เอาเป็นว่าพวกเธอสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ ว่าถ้าหุ่นเป๊ะขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นชุดว่ายน้ำหรือชุดราตรีแนบเนื้อ ก็ไม่มีทางตายแน่นอน แต่ใช่ว่าพวกเธอจะสวยออกมาจากท้องแม่กันซะที่ไหน เบื้องหลังของความสวยคือการเข้ายิม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จนได้หน้าท้องที่แบนราบ ต้นขาทีเรียวเล็ก แต่ไม่ผอมแห้งจนเกินไป เพราะหุ่นแบบนางงามนั้นไม่เหมือนกับนางแบบที่เดินอยู่ตามรันเวย์ งานเนื้อนมไข่ต้องมา
8. วิวัฒนาการความสวย
ใครที่เป็นแฟนนางงามอย่างเหนียวแน่นคงรู้ว่า ลุคของนางงามแต่ละยุคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พวกเธอเปรียบประหนึ่งตัวแทนของแฟชั่นในแต่ละช่วงสมัย ยุคหนึ่งนางงามนิยมตีฟาร่า ใส่ชุดว่ายน้ำแบบวันพีซทรงไฮคัท นั่นคือความสวย ยุคหนึ่งนางงามต้องยืนเอามือทั้ง 2 ข้างไว้ด้านหลัง ยืดอกแสดงความมั่นใจพร้อมกับยิ้มอย่างสง่างาม เดี๋ยวนี้นางงามต้องยืนแยกขา เอามือท้าวสะเอว การแสดงความมั่นใจแตกต่างกันออกไป ยุคหนึ่งชุดผู้เข้าประกวดที่ต้องใส่เหมือนกันเป็นกางเกงทรงเอวสูง ขาม้า สีเมทัลลิค ว่ากันว่าเป็นชุดที่ใส่แล้วสวยยากมาก แต่ในเมื่อทุกคนตัดสินใจมาประกวดแล้ว ก็ต้องสู้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น การประกวดนางงามคือเครื่องบันทึกประวัติศาสตร์ของแฟชั่นผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
9. รวมใจสามัคคี
เชียร์นางงามก็เหมือนเชียร์บอลทีมชาติไทยนัดชิงชนะเลิศที่เตะกับเวียดนาม เชียร์นางงามก็เหมือนกับเชียร์ สมจิตร จงจอหอ ต่อยชิงเหรียญทองโอลิมปิก เหมือนดูน้องอรยกน้ำหนักจนได้เหรียญทอง เหมือนดูน้องเมย์ รัชนก ตีแบดชนะคนจีน นี่เป็นการแข่งขันอย่างหนึ่งที่เราได้ส่งตัวแทนประเทศไปทำหน้าที่ ‘สวยสง่า’ บนเวทีระดับโลก ซึ่งตัวแทนนั้นได้ผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าตัวแทนของเราจะเข้ารอบหรือไม่ ความสนุกจะอยู่ตรงที่บรรยากาศการเชียร์ของคนดูที่จะเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันเสมอ นี่คือช่วงเวลาที่เราจะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ที่พร้อมเอาใจสู้ไปด้วยกัน และมีเรื่องคุยในแต่ละวัน
เรื่องจาก http://madamefigarothai.com/
