อาการตกเลือดหลังจากการคลอดนั้น เป็นอาการที่สามารถพบได้ในคนท้องทั่วไป ถึงแม้จะพบได้ไม่บ่อย แต่ก็สามารถพบได้เรื่อยๆ อาการตกเลือดหลังคลอด ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งที่มีความอันตรายจนอาจถึงขั้นทำให้คุณแม่บางท่านเสียชีวิตได้ พบได้ทั้งคุณแม่ที่ผ่าคลอด และคลอดธรรมชาติ มาทำความรู้จักกับภาวะนี้ เพื่อที่จะได้หาวิธีการรับมือ หรือลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้กันดีกว่า
อาการตกเลือดหลังคลอด คืออะไร
การที่คุณแม่มีเลือดออกหลังจากคลอดนั้น ถือเป็นอาการคนท้องที่ปกติ แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่เลือดออกหลังคลอด มีปริมาณมากกว่า 1,000 มล. สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอด และมีปริมาณมากกว่า 500 มล. สำหรับคุณแม่ที่คลอดปกติ นั่นหมายถึงว่าคุณแม่กำลังเกิดภาวะแทรกซ้อนนี้ และจะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อรีบทำการรักษา
โดยสาเหตุที่พบได้มากที่สุด ก็คือการตกเลือดภายหลังจากการคลอด 1 วัน อันเกิดจากการที่ทารกมีขนาดลำตัวใหญ่เกิน รวมถึงการตั้งครรภ์แฝด แต่บางครั้งอาจเกิดจากปัญหาของมดลูก เช่น ปากมดลูกฉีกขาด หรือมีเนื้องอกมดลูกอยู่ภายใน เป็นต้น และส่วนน้อยเกิดจากความผิดปกติของระบบหลอดเลือดในตัวคุณแม่เอง นอกจากนี้อาจพบอาการตกเลือดหลังคลอดบุตรในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งกรณีนี้จะเกิดจากการติดเชื้อมากกว่าปัญหาอื่นๆ
อาการตกเลือดหลังคลอด เป็นอย่างไร?
หากรู้สึกตัวว่า มีเลือดออกทางช่องคลอดมากกว่าปกติหลังจากการคลอด ร่วมกับมีอาการหน้ามืด เหมือนจะเป็นลม ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเกิดจากการเสียเลือดมาก และควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นทันที แต่สำหรับภาวะตกเลือดหลังคลอดที่เกิดขึ้นระหว่าง 3 เดือนแรกที่อาจเกิดจากการติดเชื้อ คุณแม่จะมีอาการปวดท้องน้อยอันเกิดจากการเจ็บที่มดลูก ร่วมกับมีอาการเป็นไข้ เบื้องต้นจะมีลิ่มเลือดออกมาก่อน และจะมีปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ก็อย่านิ่งนอนใจ ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนเช่นกัน
วิธีป้องกันอาการตกเลือดหลังคลอด
ภาวะแทรกซ้อนในอาการคนท้องนี้ สามารถป้องกันเบื้องต้นได้ดังนี้
ถึงแม้ว่าอาการตกเลือดจะมีอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิต แต่หากได้ศึกษาภาวะนี้อย่างละเอียด และเตรียมรับมือตามวิธีการข้างต้น ก็จะช่วยป้องกันการเกิดขึ้นได้ในระดับหนึ่งอย่างแน่นอนค่ะ
ขอขอบคุณ
ภาพ :istockphoto