แนะวัยทำงานระวังออฟฟิศซินโดรม เผย3อาการส่งสัญญาณเสี่ยง

แนะวัยทำงานระวังออฟฟิศซินโดรม เผย3อาการส่งสัญญาณเสี่ยง

แนะวัยทำงานระวังออฟฟิศซินโดรม เผย3อาการส่งสัญญาณเสี่ยง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วัยทำงานมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม (Office syndrome) ได้อาการที่เป็นสัญญาณเตือนและพบบ่อย คือ

1. ปวดหลังเรื้อรังจากการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมง โดยเฉพาะการนั่งหลังค่อม ทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก เมื่อย เกร็งอยู่ตลอดเวลา ทำให้กระบังลมขยายได้ไม่เต็มที่ สมองได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ ทำให้ง่วงนอน ศักยภาพในการทำงานไม่เต็มร้อย

2.ไมเกรนหรือปวดศีรษะเรื้อรัง ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ แสงแดด ความร้อน และการขาดฮอร์โมนบางชนิด เป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน

3. มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อค การอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ เส้นเอ็น นิ้วมือพบมากขึ้น เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ การจับเมาส์ในท่าเดิมนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและ เส้นเอ็นจนอักเสบ เกิดพังผืดยึดจับบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ปวดปลายประสาท นิ้วล็อค หรือข้อมือล็อคได้

นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาการจะรุนแรงจนถึงขั้นหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทได้ และอาการออฟฟิศซินโดรม ยังรวมไปถึงกลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้ เนื่องจากจากการอยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เครื่องปรับอากาศไม่สะอาด รวมไปถึงสารเคมีจากหมึกของเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ และเครื่องพิมพ์เอกสาร ซึ่งวนเวียนอยู่ภายในห้องทำงานอีกด้วย

ดังนั้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้อย่างมีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ จึงควรใส่ใจจัดการสถานที่ทำงานให้เอื้อต่อสุขภาพของคนทำงานด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนอย่างเหมาะสม จัดเก็บวัสดุ อุปกรณ์เป็นระเบียบเรียบร้อย จัดห้องส้วมอย่างถูกลักษณะ และมีการควบคุมสัตว์พาหะนำโรค อีกทั้งสถานประกอบกิจการยังต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 อีกด้วย

“ วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองให้เหมาะสมในขณะทำงาน อาทิ ปรับความสูงของเก้าอี้และโต๊ะให้เหมาะสม นั่งสบาย หากใช้คอมพิวเตอร์ กึ่งกลางของจอควรอยู่ในระดับสายตา การพิมพ์งาน แป้นคีย์บอร์ดควรอยู่ในระดับข้อศอก ข้อมือ ใช้เมาส์โดยพักข้อศอกบนที่รองแขน และสามารถเคลื่อนไหวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่ ขณะนั่งทำงาน ควรนั่งหลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ กระพริบตาบ่อยๆ พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 10 นาที เปลี่ยนท่าการทำงานทุก 20 นาที ยืดเหยียดกล้ามเนื้อมือและแขนทุก 1 ชั่วโมง ปลูกต้นไม้ในร่ม ช่วยดูดซับสารพิษและเป็นที่พักสายตาจากการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น”นพ.พรเทพ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook