งานวิจัยยืนยันออกกำลังกาย 'วันละ 30 นาที' ช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/me/0/ud/4/20861/99.jpgงานวิจัยยืนยันออกกำลังกาย 'วันละ 30 นาที' ช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ

    งานวิจัยยืนยันออกกำลังกาย 'วันละ 30 นาที' ช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ

    2017-09-26T14:30:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ผลการวิจัยจากตัวอย่างประชากรโลกกว่าหนึ่งแสนคน ระบุว่าผู้ที่ออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละครึ่งชั่วโมง มีความเสี่ยงลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วย

    งานวิจัยนี้ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Lancet เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนจาก 17 ประเทศ จำนวน 1 แสน 3 หมื่นคน ทั้งที่มีฐานะดีและฐานะยากจน

    การออกกำลังกายของประชากรโลกที่หลากหลายนี้มีทั้งที่เป็นการไปเล่นฟิตเนส การเดินไปทำงานและการทำงานบ้าน เช่น ซักผ้าหรือทำสวน

    สรุปได้ว่าการขยับเขยื้อนร่างกายอย่างแข็งขันในรูปแบบต่างๆ ที่ว่ามา สามารถทำให้อายุยืน และลดการเป็นโรคได้

    คุณหมอ Scott Lear ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจจากโรงพยาบาล St. Paul ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการศึกษานี้ กล่าวว่า ผลดีต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นหาก ออกกำลังกายมากขึ้น

    เขาบอกว่า แม้ออกกำลังมากกว่า 41 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ไม่พบว่าผลดีต่อสุขภาพลดน้อยถอยลง

    ทั้งนี้โรคหัวใจเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตของประชากรโลก และสร้างภาระทางเศรษฐกิจมหาศาลด้านการดูแลรักษา

    เมื่อปีที่แล้วมีคนเสียชีวิตจากโรคหัวใจทั่วโลก 9 ล้าน 4 แสน 8 หมื่นคน

    อาจารย์ Lear กล่าวว่า การวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงการดูแลสุขภาพที่ง่ายและราคาถูกกว่าการซื้อยาโรคหัวใจ หรือแม้แต่การซื้อผักและผลไม้รับประทานซึ่งในบางบริเวณของโลกที่ยากจนข้นแค้น ประชาชนไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายนี้ได้

    องค์การอนามัยโลกแนะนำให้คนวัยผู้ใหญ่อายุ 18 ถึง 64 ปี ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าคนเกือบ 1 ใน 4 ของโลกไม่ได้ทำตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก

    คณะวิจัยของอาจารย์ Learn กล่าวว่า ถ้าประชากรโลกทั้งหมดทำตามคำแนะนำดังกล่าว การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของคน 1 ใน 12 คน จะสามารถหลีกเลี่ยงได้

    (รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงาน Reuters)