วิทวัส ชินบารมี ทายาทธุรกิจนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์ กับชีวิตที่น่าอิจฉาที่สุด

วิทวัส ชินบารมี ทายาทธุรกิจนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์ กับชีวิตที่น่าอิจฉาที่สุด

วิทวัส ชินบารมี ทายาทธุรกิจนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์ กับชีวิตที่น่าอิจฉาที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

GQ / How I Got My Money

เรื่อง: บุญโชค พานิชศิลป์

ภาพ: มนัญญา ไชยนันทน์ 

มีรถคันแรกเมื่ออายุ 11 เป็น Lotus Elan ที่ยึดมาจากบิดา-เสรี ชินบารมี แม่ทัพใหญ่ของนิชคาร์กรุ๊ป บริษัทนำเข้ารถหรูอันดับต้นๆ วันนี้เขาอายุ 35 ปีแล้ว ในฐานะทายาทคนโต เขารับตำแหน่งขุนศึกอย่างเต็มตัว และคงไม่ต้องบรรยายว่ายานยนต์ขั้นเทพรุ่นไหนผ่านมือเขามาแล้วบ้าง

‘แชมป์’ วิทวัส ชินบารมี จากครอบครัวไปเรียนที่สิงคโปร์ตั้งแต่เก้าขวบ จากนั้นไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย และกลับมาเรียนต่อจนจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ก่อนเข้ามาสานต่อธุรกิจ เขาเป็นผู้บริหารมาดเคร่งขรึม ทว่าเต็มไปด้วยความเข้าใจทั้งในงานและผู้ร่วมงาน ด้วยความที่คลุกคลีกับธุรกิจนำเข้ารถหรูมาเกือบทั้งชีวิต แน่นอนว่าเขาต้องมีซูเปอร์คาร์ไว้ใช้ประจำวัน “ผมใช้ทุกวัน สลับคันไปเรื่อยๆ” แชมป์บอก และรถที่เขาใช้วนๆ อยู่มีทั้งหมด 4 คัน

-          รู้ไหมว่าซูเปอร์คาร์ยุคแรกเป็นรถใช้ยากและไม่มีความสะดวกสบายอย่างทุกวันนี้ แอร์ไม่เย็น ความร้อนขึ้น เกียร์-คลัตช์-พวงมาลัยหนัก ออกจากรถแผ่นหลังจะต้องเปียก (หัวเราะ) ไม่ค่อยเหมาะกับเมืองไทย ช่วงเปิดกิจการแรกๆ ธุรกิจของเราจึงบูมแต่กลุ่มลูกค้ากลุ่มเดียว

-          เมื่อครอบครัวเรามาทำธุรกิจนี้ Audi เพิ่งซื้อ Lamborghini ไป และเขามีโปรดักต์ออกมาเรื่อยๆ จากปกติลัมบอร์กินีเริ่มต้นสมัย 20 กว่าปีที่แล้ว ราคา 13-14 ล้าน (V12) เขาก็ลงราคามาเพื่อทำตัวเล็ก (V10) พอตัวเล็กลง เราก็ยกรถได้พ้นเนิน แอร์เย็นแน่นอน ไม่ไปตายที่ไหนแล้ว หลังจากนั้นตลาดก็เริ่มโตขึ้น

-          ลิขสิทธิ์ของแบรนด์ระดับนี้ค่อนข้างยุ่งยากและต้องอาศัยความอดทนพอควร ตอนนั้นคุณพ่อเป็นดีลเลอร์มาตั้งแต่ปี 2534 แต่มันมาถูกรีวิวใหม่ตอนที่ Audi มาซื้อกิจการ เขารีวิวใหม่ทั้งหมด ก็มีคนจากเมืองไทยขอไปเยอะนะ คนใหญ่ๆ โตๆ ทั้งนั้น แต่ด้วยว่าเรามีศักยภาพที่ดี และเขายังเชื่อมั่นเรา

-          แค่มีเงินไม่พอครับ ถึงมีเงิน แต่ถ้าปกติคุณขายขนมแล้วจะมาขายรถ เขาก็ไม่ให้ครับ เขาเช็คเยอะนะ ต้องมีประวัติ สภาพการเงิน และภาพลักษณ์ที่ดี เขาเช็คทั้งหมดก่อนอนุมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าเราเป็นตัวแทนแบรนด์ของเขา ถ้าเราไม่ดีก็จะกระทบเขาด้วย

-          สมัยนั้นคุณพ่อค่อนข้างใจกล้านะ สั่งรถมาครั้งละ 10 กว่าคัน โรงงานยังตกใจ ทำไมใจกล้าจัง เราเริ่มเป็นดีลเลอร์มาตั้งแต่ปี 2535 เป็นคนไทยเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่จัดจำหน่ายลัมบอร์กินีตั้งแต่นั้นมา

-          ผมโตมาในรถเลยครับ สมัยก่อนทำรถมือสอง ผมไปกับคุณพ่อทุกที่ มีโอกาสได้ฟังเรื่องธุรกิจตลอด แต่ก็จะมีช่วงหนึ่งที่ห่างกัน ช่วงที่คุณพ่อปีหนึ่งจะอยู่เมืองไทยแค่ 2-3 เดือน

-          ตอนเด็กเวลาไปห้าง ผมมักได้รถกลับมาบ้านทุกครั้ง คันเล็กๆ อะไรก็ได้ ผมขอหนึ่งคัน หลังจากนั้นก็หายไปชอบอย่างอื่น ช่วง 8-9 ขวบผมกลับมาชอบรถอีกเพราะว่าคุณพ่อมีรถอยู่คันหนึ่งขนาดไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นสมัยนี้คงใช้ระบบไฟฟ้า แต่ตอนนั้นผมมีทั้งเครื่อง ทั้งเกียร์ ทั้งคลัตช์ มีโอกาสเรียนรู้การขับรถ อย่างช่วยเข้าเกียร์ให้คนขับบ้าง ขอไปนั่งหน้าพวงมาลัยบ้าง ผมเลยอินกับรถตั้งแต่ตอนนั้น

-          รถคันแรกผมได้มาแบบไม่เป็นทางการตอนอายุ 11 เป็น Lotus Elan ที่ยึดมาจากคุณพ่อ ตามประสาเด็กๆ ผมก็ซน เอาไปใส่เครื่องเสียง แล้วทิ้งบิลให้เขาตามเก็บเงินจากคุณแม่ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถเบนซ์สองประตู เป็น SL บ้างอะไรบ้าง พอเริ่มโตจริงๆ ก็จับซูเปอร์คาร์

-          ซูเปอร์คาร์ก็เหมือนดารา ทุกคนอยากเป็นดารา แต่ทุกธุรกิจมีทั้งด้านมืดและสว่าง มันคงไม่มีอะไรง่ายขนาดนั้น ผมเชื่อว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ยกเว้นว่าใครจะทำด้วยความชอบจริงๆ ไม่ต้องการผลกำไร นั่นก็อีกเรื่อง

-          ผมเชื่อว่าดาราที่ไต่ขึ้นมาด้วยความสามารถของตัวเองคือดีลเลอร์ทั้งหมดในประเทศไทย ผมว่าบริษัทที่ทำธุรกิจสีเทาน่าจะเป็นส่วนน้อยนะ ผมเปรียบเทียบกับการเป็นดารา เพราะมันมีหลายวิธีในการเป็น ทั้งไต่เต้าเองหรือแบบไม่ถูกต้อง

-          คนไทยชินกับการเอาง่ายไว้ก่อน แต่การนำเข้ารถเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ด้วยวัฒนธรรมและนิสัยของคนไทย เราเป็นประเทศที่มีมิตรไมตรี อะไรก็ยิ้มให้ไว้ก่อน ถ้าเป็นประเทศอื่นเขาจะเช็คทุกอย่างก่อนเลยว่าคุณทำอย่างนั้นได้หรือไม่ได้ แต่คนไทยเอาง่ายไว้ก่อน

-          ปัจจุบันนี้เกมมันเปลี่ยนแล้ว บอกเลยว่าธุรกิจที่ผิดกฎหมายน้อยลงไปเยอะ เพราะรัฐบาลใหม่มา ซึ่งผมว่าเป็นข้อดี กอปรกับประเทศเออีซีกำลังเร่งพัฒนา ผมว่าทุกประเทศคุยกันหมดแล้ว เห็นได้จากเวลาไปประชุมดีลเลอร์ทั่วโลก เรารับรู้ความเคลื่อนไหวของหลายประเทศได้ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันกับเรา มันไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว ทุกวันนี้มีการตั้งมาตรฐานขึ้นมาให้ชัดเจนขึ้น

-          คุณพ่อสอนเสมอว่าถ้าคุณหา คุณใช้ มันไม่มีหมด บางคนอาจมองว่ายังเด็กอยู่ ทำไมถึงขับซูเปอร์คาร์ แต่คุณพ่อผมเลี้ยงลูกไม่เหมือนคนสมัยก่อน พ่อค่อนข้างเปิดและปล่อย ผมเลยเป็นเด็กโชคดี เพราะมีเด็กอีกเยอะที่อยากได้รถ

-          บางครั้งเราให้รางวัลเขาก่อนก็ได้ ถ้าเด็กคนนั้นมีดีเอ็นเอที่ดี เขาจะคิดเองได้ ผมเพิ่งขายรถให้ลูกค้าไป พ่อของเขาซื้อซูเปอร์คาร์คันแรกให้เป็นรถ McLaren จากคนที่ไม่ค่อยทำงาน ทุกวันนี้เขาเข้าออฟฟิศ นั่งทำงานทุกวัน ผมอยากบอกว่าบางครั้งคนเราก็ไม่ได้ทำแบบนั้นเพื่อให้ได้รางวัล แต่ถ้าเขาได้รับก่อน เขาจะยิ่งซาบซึ้ง คุณพ่อก็สอนผมมาแบบนี้ตลอด

-          ในการทำธุรกิจ ถ้าเราคิดไม่ยาว มันก็จะอยู่ไม่ยาวจริงๆ ผมเป็นคนตรงและซื่อตรงต่อลูกค้า ธุรกิจนี้คุณพ่อสร้างมา ผมเข้ามาก็เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่หลักๆ ก็นำจุดดีของคุณพ่อมาใช้ นำเอาเหตุเอาผลที่ดีมา ผมกับคุณพ่อไม่เคยทะเลาะกันเรื่องงานเลย เราสนิทกันมาตั้งแต่ผมยังเด็ก มีอะไรปรึกษากันทุกเรื่อง และต่อให้อนาคตผมจะเปลี่ยนไปทำอะไร ผมก็จะเก็บธุรกิจนี้ไว้ให้ดีที่สุด

-          ผมไม่ใช่คนที่จะต้องมีเจ็ตส่วนตัวหรือเฮลิคอปเตอร์ บางคนมายืนอยู่ตรงจุดผมอาจจะบอกว่าไม่พอก็ได้ แต่ผมพอ ชีวิตผมสำคัญแค่ หนึ่ง-มีเวลาให้ตัวเอง สอง-มีงานทำ สาม-มีเงินพอใช้ สี่-มีของเล่นที่ตัวเองต้องการ ห้า-มีครอบครัวที่มีความสุข หก-มีแต่เพื่อนรัก แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขมากแล้ว

-          สำหรับผม รถเป็นทั้งของเล่นและเฟอร์นิเจอร์ที่บ่งบอกตัวตน รถแต่ละคันมีคาแร็กเตอร์ไม่เหมือนกัน เวลาขับต้องเข้าใจมัน ต้องศึกษาเรียนรู้ แต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกันเลย อาการของรถเวลาขับเร็วก็ไม่เหมือนกัน หรือเวลาเริ่มหลุด วิธีแก้ก็ไม่เหมือนกัน มันสนุกตรงนี้ ผมเลยรู้สึกว่าผมยังเรียนรู้ไม่หมด

-          ข้อควรระวังที่สุดของธุรกิจนำเข้ารถ โดยรวมน่าจะเป็นรถค้างสต็อก ถ้าคุณเพิ่งเข้ามา คุณจะช้า คุณไม่รู้อายุรถ คุณสั่งไป รถใหม่ออก รถเก่ากำลังเดินทาง แค่นี้จบแล้ว แต่ถ้าเป็นดีลเลอร์จะรู้ว่าเมื่อไรรถจะออก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องรถที่โควต้าที่เราต้องทำนายล่วงหน้าปีหนึ่ง ซึ่งปีหนึ่งสถานการณ์อะไรก็เกิดขึ้นได้เยอะแยะ โดยเฉพาะเมืองไทย ฉะนั้นเราจะไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น จึงถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง

-          ผมเคยไปสมัครงานที่ห้าง อยากรู้ว่าการเป็นพนักงานจะรู้สึกอย่างไร บางคนอาจบอกว่าต้องออกไปเรียนรู้ หรือเอาเงินไปก้อน ไปพังมาเสียก่อน แต่คุณพ่อผมชี้แนะให้ว่าไม่ต้องไปวอกแวกให้เสียเวลา อยู่กับเขานี่ละ จะไปเสียเวลาทำอย่างอื่นทำไม เขาเป็นอาจารย์ที่ใสที่สุดแล้ว เวลาสอนเขาจะไม่คิดร้ายใคร เพราะฉะนั้นมาอยู่กับเขาเลยแล้วกัน

-          คุณพ่อสอนตลอดว่า ตื่นขึ้นมามีลมหายใจ ก็ต้องมีความสุขแล้ว

อาณาจักรรถหรูของนิชคาร์ กรุ๊ป

บริษัทผู้นำเข้ารถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์ และไฮเปอร์คาร์ในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี ก่อตั้งโดยเสรี รักษ์วิทย์ ประธานบริษัท ภายใต้ชื่อเดิมคือ เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น นิชคาร์ ในปี 2546 ปัจจุบันได้รวบรวมสุดยอดยนตรกรรมจากทั่วโลก อาทิ ลัมบอร์กินี (Lamborghini) แมคลาเรน (McLaren) โลตัส (Lotus) ปากานี (Pagani) โคนิกเซ็กก์ (Koenigsegg) และฮัมเมอร์ (Hummer) มีโชว์รูมลัมบอร์กินีและโลตัสในสยามพารากอน โชว์รูมแมคลาเรนและสำนักงานใหญ่บนถนนมอเตอร์เวย์ กม.1 นอกเหนือจากรถหรูแล้ว นิชคาร์ กรุ๊ปยังทำหน้าที่เป็นดีลเลอร์พาหนะหรูอย่างเรือยอชต์ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook