เอ็ม อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล “ลูกเป็นรักแรกพบของผม”

เอ็ม อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล “ลูกเป็นรักแรกพบของผม”

เอ็ม อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล “ลูกเป็นรักแรกพบของผม”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ I understand the feeflffing of ‘Love at ffirst sffight’ u two are socute รักเลย”...เพิ่งเข้าใจความรู้สึกของรักแรกพบ...เขาอธิบายความรู้สึกไว้ในอินสตาแกรมส่วนตัวในวันแรกที่ได้เห็นหน้าลูกสาวฝาแฝด เมื่อได้คุยกันเขายังบอกว่าในวินาทีเดียวกันนี้ยังมีความรู้สึกอีกหลากหลายเกิดขึ้น นอกจากนั้นความชุลมุนในการเลี้ยงลูกสาวฝาแฝดที่เขาเล่า ก็ทําให้คนที่ได้ฟังเป็นต้องอมยิ้ม

แนะนําตัวลูกสาวหน่อยค่ะ
คนพี่คือน้องฌานา คนน้องชื่อฌารีณ ณานามาจากฌานสมาธิ ส่วนฌารีณเราก็หาคําาที่ตัวใกล้เคียงกันแล้วก็สวยๆ มาใส่ ตอนนี้น้องอายุ 1 ขวบ 2 เดือนแล้วครับ

การจะแยกสาวน้อยว่าคนไหนเป็นคนไหน ดูได้จากอะไรคะเพราะดูเหมือนกันมาก ๆ
ฌานาจะมีปานแดงกลางศีรษะ แต่เดี๋ยวผมยาวก็จะไม่เห็น แต่หน้าตาจะต่างกันนิดหน่อย เช่น ฌานาจะตากลมกว่าฌารีณจะตาเรียวยาวกว่า ต้องตั้งใจมอง ส่วนคาแรกเตอร์ก็ต่างนะครับ แต่จะเปลี่ยนไปเรื่อยตั้งแต่เกิด ฌารีณจะดูแสบซ่าส์ซนกว่า ฌานาจะเรียบร้อย แต่พอมาสักพักกลายเป็นฌารีณเรียบร้อย แล้วฌานาก็ซ่าส์ขึ้น มาถึงตอนนี้เริ่มซ่าส์แข่งกันแล้ว (หัวเราะ) แต่ฌานาจะเหมือนรู้เรื่องกว่าขั้นหนึ่ง พัฒนาการจะดีกว่านิดเดียว

คุณบอกว่าวันแรกที่เจอหน้าลูกสาว เป็นเหมือนรักแรกพบ อยากให้เล่าความรู้สึกนั้นหน่อยค่ะ
เป็นรักแรกพบจริง ๆ นะ เราค่อย ๆ เห็นเขาโตมาในท้อง แต่เราไม่เคยเห็นหน้า คนอื่นเขาทํา 4D อะไรได้แต่ลูกแฝดทําไม่ได้ เพราะพื้นที่แคบเกิน พอเราเห็นหน้าเขาครั้งแรก เลยเป็นการเห็นครั้งแรกจริง ๆ คือรักแรกพบ หลงรักเลย แล้วโมเม้นท์วันนั้น ผมไปยืนข้างกระบะในเนิร์สเซอรี่แล้ว 2 คนก็จะร้อง ๆ อยู่ท่ามกลางเด็กเยอะ ๆ ผมไปยืนตรงกลางเขา 2 คน แล้วหันไปพูดกับเขา ไม่เป็นไรนะไม่ต้องร้อง ไม่ต้องตกใจนะปาปี๊อยู่นี่นะ แล้วเขาร้องน้อยลง เหมือนเขาแบบเสียงนี้คุ้นๆ แฮะ โมเม้นท์นั้นแหละที่แบบ เฮ้ย ไม่ใช่ว่าเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเราเท่านั้น เราก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขาด้วย เขาจะเติบโตมายังไงจะดีจะร้ายอยู่ที่เราน่ะ เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เราต้องทํา มันเป็น Magic Moment มาก

เขาบอกว่าลูกแฝดมาพร้อมกับความชื่นใจคูณสอง และก็ความเหนื่อยคูณสองด้วยเหมือนกัน
ใช่เลยครับ ต้องบอกว่าเหนื่อยมากเลยครับ ถ้าคนที่เคยมีลูกมาแล้ว สมมุติครั้งแรกมีลูกเดี่ยว แล้วท้องที่สองลูกแฝด ผมว่าเขาน่าจะทําได้ดีกว่า แต่เราเป็นครั้งแรกจริง ๆ เลยโกลาหลกันมาก ถึงมีพี่เลี้ยงแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเป็นมือหนึ่ง ผมว่าลูกแฝดมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ ข้อดีก็จะแม่ไม่ต้องท้องหลายที เหนื่อยทีเดียวพอโตก็สบายเอาจริง ๆ มันไม่มีจุดไหนสบายหรอกมั้ง กว่าจะเรียนจบ ทํางาน ส่วนข้อเสียที่เรารู้สึกกันคือ ถ้าลูกเดี่ยวเราจะสามารถพาเขาไปด้วยกันได้ตลอดเวลาแบบ 3 คนพ่อแม่ลูก หรือเวลานอนก็เอามานอนตรงกลางได้ นี่ไม่ได้ เพราะเด็กดิ้นทีจะตื่นกันหมด ไม่ได้หลับกันทั้ง 4 คน ไปไหนก็ต้องรถเข็น 2คัน ต้องมีทีมงาน โมเม้นท์พ่อแม่ลูกก็เกิดขึ้นได้น้อยหน่อย หรืออย่างตอนให้นม คุณแม่เหนื่อยมากตอนแรกจะลุกขึ้นมาให้นมพร้อมกัน 2 ข้าง เหมือนท่าถือลูกรักบี้น่ะ พอลูกโต ขึ้นมาหน่อยให้แบบนี้ไม่ได้เพราะตัวยาวเกิน ก็ต้องเลือกให้ทีละคน แล้วอีกคนที่ไม่ได้ให้ก็ไม่รู้เขาเสียใจหรือเปล่า อย่างตอนเช้าคนหนึ่งตื่นเช้าลงมาเล่นก่อน เราก็ให้อีกคนนอนไป มาป้อนข้าวคนนี้ พอสักพักเริ่มง่วง อีกคนตื่น ทําทุกอย่างซ้ำกลายเป็นพ่อแม่ต้องยาวตลอด เวลาพักคือพักพร้อมลูก

เปลี่ยนไปเลยไหมคะกับการที่มีลูกสาว 2 คนเข้ามาในชีวิต
เปลี่ยนเลยครับ เมื่อก่อนจะมีคําพูดที่ฟังคนอื่นแล้วแบบไม่เก็ต เช่น มีลูกแล้วเหนื่อยมากแต่มีความสุข จะบ้าเหรอ (หัวเราะ) เหนื่อยจะมีความสุขได้ไง แต่พอเป็นแล้วจริงแฮะ มันเหนื่อยมาก แต่มีความสุข แล้วมีบางคนบอกสมัยก่อนจะมีลูกถ้าให้คิดว่าตัวเองมีลูกแล้วจะเป็นยังไงคิดไม่ออก แต่พอมีลูกปั๊บนึกย้อนกลับไปว่าถ้าเราไม่มีเขามันจะเป็นยังไง นึกไม่ออก เราฟังแล้วแบบ...เว่อร์ ซึ่งตอนนี้เราเป็นอย่างนี้จริง ๆ แล้วผมรู้สึกว่าชีวิตมันสมบูรณ์ขึ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่เขาเพิ่งเกิด อยู่ดี ๆ ก็มีความรู้สึกแวบเข้ามาในใจว่านี่แหละที่เราเคยคิดว่าชีวิตเราเกิดมาก็อยู่ไปเรื่อย ๆ เฉยๆ ว่างเปล่า พอมีเขานี่ไง นี่อาจจะเป็นมิชชั่นที่เรารอคอยความรู้สึกมันใช่น่ะ เหมือนได้มีชีวิตเพื่อใครบางคน ไม่ใช่ใช้ชีวิตตัวเองไปวัน ๆ เรามีคนที่จะต้องทำอะไรเพื่อเขาจริงๆ

พ่อมีลูกสาวคนหนึ่งก็ห่วงจะแย่แล้ว แต่นนี่มาทีเดียวสอง ในฐานะคนเป็นพ่อรู้สึกอย่างไร
ต้องไว้หนวด (หัวเราะ) สําหรับลูกสาวมีความห่วงเป็นพิเศษอยู่แล้ว ภาพย้อนหลังมาเลยในอดีตเราเคยทํา อะไรไว้บ้าง ชิบเป๋งแล้ว (หัวเราะ) ก็ไม่เป็นไร หยุดตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้ ต่อไปเราทําให้ดี เป็นตัวอย่างที่ดี หวังว่าเขาจะมีชีวิตที่ดี สิ่งหนึ่งที่ตั้งใจไว้เลย ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะครับ ต้องให้เขามีจิตใจที่แข็งแกร่ง สอดแทรกธรรมะไปในการเลี้ยงเขา อยากให้เขาเข้าอกเข้าใจโลก โตขึ้นไปเขาจะเจออะไรไม่รู้ แต่ถ้าข้างในแข็งแกร่งก็น่าจะต่อสู้กับโลกได้ดี

ถ้าถามความรู้สึกของการได้สัมผัสกับความเป็นพ่อ
รู้สึกยิ่งใหญ่ แล้วก็เครียดเหมือนกัน เราต้องทํายังไง ผมเป็นคนที่พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่เด็ก ๆ เราเลยขาดภาพพ่อแม่ในอุดมคติที่เขาเป็นกัน แต่เราก็ตั้งใจไว้ว่าเราจะเป็นพ่อแม่ที่ดี มันอาจจะเป็นการเดินไปแบบงง ๆน่ะแต่ทั้งหมดทั้งสิ้นเราอยู่บนพื้นฐานว่าเราหวังจะให้เขาได้สิ่งที่ดี บางคนบอกเป็นพ่อปุ๊บรู้เลยว่าพ่อรักเราแค่ไหน ซึ่งผมไม่มี แต่เรารู้สึกว่าจะหยุดตรงนั้น ความร้าวฉานที่เราเคยเป็น ที่เราเคยขมขื่นมาจะหยุดแค่นั้นแล้วเราจะสร้างภาพใหม่ของเรา แล้วต่อไปนี้เขาจะต้องสมบูรณ์


อ่านบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ที่ นิตยสารขวัญเรือน no.1057 vol.45 December 2015



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook