4 ส่วนผสมเพื่อทำห้องครัวให้ถูกใจ

4 ส่วนผสมเพื่อทำห้องครัวให้ถูกใจ

4 ส่วนผสมเพื่อทำห้องครัวให้ถูกใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

          สำหรับเรื่องอาหารการกินแล้วเชื่อเลยว่าเป็นเรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญไม่แพ้ชาติใดในโลก ดังนั้นอีกห้องหนึ่งในบ้านที่ Sanook! Home เชื่อว่าต้องให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ “ห้องครัว” เพราะการทำอาหารถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องการทั้งความละเมียดละไมในการปรุง และอย่าลืม! เรื่องของความสะอาดอีก ดังนั้นการจัดการห้องครัวนั้นก็ต้องให้ความใส่ใจในรายละเอียดไม่แพ้กับห้องอื่นๆในบ้าน

          เรื่องของห้องครัวนั้นไม่ใช่แค่การจัดวางอุปกรณ์ให้เป็นที่เป็นทางเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ หรือการจัดสรรพื้นที่เพื่อให้การประกอบอาหารให้เป็นสัดส่วน อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากก็คือเรื่องของแสงสว่างในห้องครัว เพราะขั้นตอนการประกอบอาหารอย่างการตัด หั่น สับ ทอด ปรุง ล้วนแล้วแต่ต้องใช้แสงไฟที่เพียงพอเพื่อทั้งความปลอดภัยในทุกขั้น และสุดท้ายคือได้อาหารที่หน้าตาน่ารับประทาน รสชาติอร่อย เติมพลังและความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว

          Sanook! Home จึงได้รวบรวมเอา 4 ส่วนผสมในสูตรสำหรับการจัดไฟแสงสว่างในห้องครัวเพื่อให้ถูกใจและเหมาะสมสำหรับการใช้งานในห้องครัวไว้ตรงนี้แล้ว!

            สูตรลับสำหรับแสงไฟในห้องครัว


 

         สูตรการจัดไฟในห้องครัวนั้นไม่ต่างจากการจัดไฟในห้องอื่นๆ คือ 3 เครื่องปรุงที่สำคัญ ได้แก่ (1) ไฟทั่วไปที่ให้ความสว่างในห้องครัว (2)ไฟเฉพาะที่ช่วยให้การทำงานในแต่ละส่วนของห้องครัวมีแสงสว่างที่เพียงพอสำหรับขั้นตอนนั้นๆ อย่างการหั่น การทอด และ (3)ไฟที่ช่วยสร้างบรรยากาศ ให้มิติแก่ห้องครัว แค่มี 3 ส่วนนี้ประกอบกัน เราก็เริ่มจะมีส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับแสงไฟของห้องครัวแล้ว

            ใช้ส่วนผสมให้เป็นประโยชน์ช่วยประหยัดพลังงาน


          สูตรด้านบนนั้น หากเราจัดวางในส่วนที่พอเหมาะพอเจาะไม่รสจัดด้านใดด้านหนึ่ง อย่างไฟที่ให้แสงสว่างทั่วไปจะอยู่บนเพดานหรือถ้าบ้านไหนมีโต๊ะประกอบอาหาร (Island) แบบครัวฝรั่งไฟหลักที่ให้ความสว่างก็ควรจะให้ความสว่างที่เพียงพอในจุดนั้นเพราะใช้งานมากที่สุด และเสริมไฟสปอร์ตไลท์ส่วนที่เป็นตู้กับข้าวสำหรับให้ความสว่างในการหยิบจับของและยังช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องครัว

          นอกจากจะมีไฟเพียงพอสำหรับการใช้งานของห้องครัวแล้ว เราก็สามารถจะประหยัดพลังงานไฟฟ้าในห้องครัวได้ด้วยการเลือกใช้หลอด LED เพราะไฟแต่ละส่วนช่วยเสริมกัน รวมถึงการติดตั้งสวิตช์แยกกันของไฟแต่ละส่วนก็มีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานด้วย นอกจากนี้การเลือกใช้พื้นผิวสีอ่อนสำหรับห้องครัวเพื่อให้แสงไฟตรงกระทบได้ดีขึ้นก็ช่วยประหยัดพลังงานเช่นเดียวกัน

           เสริมหน้าตาอาหารให้น่ารับประทาน


         ถ้าหลายคนติดตามเรื่องแสงไฟของเราน่าจะคุ้นเคยกับค่านี้กันดีสำหรับ “ค่าความถูกต้องของสี” หรือ Color Rendering Index (CRI) ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 และค่า 100 นั้นเทียบมาจากแสงอาทิตย์ที่ให้ค่าความถูกต้องของสีสมจริงมากที่สุด

         เพราะฉะนั้นการจะให้อาหารที่เราปรุงนั้นดูน่ารับประทานเรื่องของสีสันสำคัญมากๆ เราจึงควรเลือกหลอด LED ในครัวที่มีค่า CRI อยู่ที่ 80 – 90 เนื่องจากเป็นค่าที่ให้สีที่สวยงาม อย่างพริกแดงก็ดูแดง หรือผักใบเขียวก็ดูสดใหม่ และนอกจากนี้จะช่วยให้เราสามารถใช้สายตาในการประกอบอาหาร เพ่งหั่น ซอยส่วนประกอบต่างๆ ได้อย่างไม่เหนื่อยล้าด้วย

            เรียกน้ำย่อยกันด้วยแสงไฟ


          หลายๆ บ้านที่มักรับประทานอาหารในห้องครัวเลย เราจึงควรให้ความสำคัญกับสีของแสงไฟกันเสียหน่อย เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าสีของแสงไฟมีผลต่อความอยากรับประทานอาหารหรือความรู้สึกอร่อยของอาหารด้วย



          อย่างแสงไฟสีออกเหลืองนวลหน่อยจะช่วยให้ความรู้สึกอยากอาหารหรือให้ความรู้สึกอร่อยในการรับอาหารมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นในช่วงของการทานข้าวเราอาจจะใช้เพียงไฟสีโทนเหลืองเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อยมากยิ่งขึ้น และควรหลีกเลี่ยงไฟที่ช่วยลดความรู้สึกอยากอาหารอย่างไฟสีน้ำเงินและไฟสีแดงด้วย
ได้แสงไฟที่เหมาะสำหรับห้องครัวแล้ว คราวนี้ก็คงขึ้นอยู่กับสูตรลับและฝีมือของคุณแล้วล่ะ ว่าจะออกมาได้รสชาติที่ถูกใจทุกคนขนาดไหน


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Philips Lighting Thailand


ติดตามเทคนิคการเลือกหลอดไฟที่ชอบ แสงไฟที่ใช่ เพิ่มเติมที่ http://www.philips.co.th/

[ขอบคุณสำหรับข้อมูลจากฟิลิปส์]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook