ต่อเติมห้องครัวไทย แบบโปร่งหรือแบบทึบดี

ต่อเติมห้องครัวไทย แบบโปร่งหรือแบบทึบดี

ต่อเติมห้องครัวไทย แบบโปร่งหรือแบบทึบดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่มีคำถามมาสำหรับ การต่อเติมห้องครัวไทยว่าควรเลือกแบบไหน ระหว่างแบบโปร่งหรือแบบทึบดี ? วันนี้ทีมงานจึงขอนำบทความที่น่าสนใจมาฝากกันคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าของบ้านที่ยัง 2 จิต 2 ใจ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดีคะ

ขอบคุณภาพจาก domainehome

สำหรับครอบครัวคนไทย มักจะต้องประกอบอาหารที่ต้องผัด ทอด ซึ่งก่อให้เกิดทั้ง เสียง,กลิ่น,ควัน แผ่ฟุ้งกระจายติดทนนานทั่วบ้าน และบางครั้งยังหลีกเลี่ยงไม่ได้กับกลิ่นอาหารที่อาจจะฝังไปในเฟอร์นิเจอร์ผ้าหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุที่ดูดซับกลิ่นได้ดี เมนูเหล่านี้อาจไม่เหมาะกับพื้นที่ปรุงอาหารในบ้านที่ไม่กว้างมากและระบายอากาศได้น้อย จึงเป็นสาเหตุทำให้เจ้าของบ้านเริ่มคิดต่อเติมครัวแยกออกมาจากตัวบ้าน ตามด้วยคำถามต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือ  “จะต่อเติมครัวไทยแบบเป็นห้องทึบหรือแบบโปร่งเพื่อเน้นการระบายอากาศ ?” ถึงจะดีที่สุด ซึ่งก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจก่อนว่าการต่อเติมครัวทั้งแบบโปร่งและครัวแบบทึบแตกต่างกันอย่างไร 

การต่อเติมครัวแบบทึบโดยทั่วไปจะต่อเติมขึ้นมาเป็นห้อง มีผนังเต็มล้อมรอบโดยเจาะช่องเปิดตามความเหมาะสม พร้อมหลังคาครอบมิดชิด ส่วนครัวแบบโปร่งจะมีจุดเด่นตรงความโปร่งโล่ง จึงมักทำแผงระแนงไม้/ไม้เทียมแทนผนัง บางทีอาจเลือกทำผนังทึบเฉพาะช่วงล่าง ส่วนด้านบนปล่อยโล่งหรือทำเป็นแผงระแนง พื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ในส่วนของหลังคา อาจทำติดลอยไว้กับผนังบ้านเดิม เลือกซื้อกันสาดสำเร็จรูปมาติด หรือจะใช้โครงสร้างเสาส่วนต่อเติมรับหลังคาเช่นเดียวกับครัวแบบทึบ  ทั้งนี้ครัวแบบโปร่งสำหรับบางบ้านอาจทำง่ายๆ เพียงแค่ติดหลังคากันสาดและก่อเคาน์เตอร์ครัว หรือถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นคือซื้อชุดครัวสำเร็จรูปมาติดตั้งเลยก็ได้

01-SCG-Experience-ต่อเติมครัว-ครัวไทย-ระบบระบายอากาศ-ปัญหาบ้านทรุด-แบบครัวหลังบ้าน-พัดลมดูดอากาSCG ExperienceSCG Experience


การต่อเติมครัวแบบโปร่ง

1. ครัวแบบโปร่ง เน้นความโล่ง   จะเห็นได้ว่าครัวแบบโปร่งเป็นรูปแบบที่เน้นความโปร่งโล่ง กลิ่นควันและความอับชื้นต่างๆ จึงระบายออกไปได้ง่าย สามารถฉีดน้ำล้างทำความสะอาดได้ (โดยต้องมีทางระบายน้ำรองรับ) วัสดุที่ใช้มีน้ำหนักเบา และการก่อสร้างสามารถทำได้รวดเร็วกว่าครัวแบบทึบ แต่ความโปร่งโล่งของครัวแบบโปร่งอาจทำให้ต้องผจญกับ น้ำฝน ฝุ่นและสิ่งปรกต่างๆ ที่สาดซัดเล็ดรอดเข้ามาได้ง่าย ทั้งยังต้องระวังป้องกันไม่ให้สัตว์เล็กสัตว์น้อย อย่างแมลง นก หนู แมลงสาป และอาจรวมถึงแมวหรือสุนัขตัวเล็กๆ เข้ามาก่อกวนภายในห้องครัวด้วย ซึ่งการทำครัวแบบโปร่งเจ้าของบ้านจะต้องควบคุมเรื่องความสะอาดและป้องกันสิ่งปนเปื้อนจากภายนอกให้ดีเพราะเป็นพื้นที่ประกอบอาหาร  อุปกรณ์ต่างๆ จึงควรมีที่เก็บมิดชิด หรือถ้าให้สะดวกเจ้าของบ้านอาจจะเลือกใช้ครัวแบบโปร่งเฉพาะตอนประกอบอาหารหรือล้างจานเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ทั้งหมดนำไปเก็บไว้ในบ้านก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ครัวแบบโปร่งซึ่งระบายอากาศได้สะดวก นั้นก็ย่อมหมายความว่า กลิ่น ควัน รวมถึงไอน้ำมันจากการทำอาหารจะกระจายไปถึงเพื่อนบ้านได้ง่าย ดังนั้นต้องระวังเช่นเดียวกันนะคะ 

ครัวแบบโปร่ง ขอบคุณภาพจาก BuzzBuzzHome BuzzBuzzHomeBuzzBuzzHome

ครัวแบบโปร่ง

2. ครัวแบบทึบ เน้นมิดชิด

สำหรับห้องครัวแบบทึบซึ่งมีผนังมิดชิดจะมีข้อดีข้อเสียเป็นคู่ตรงข้ามกับห้องครัวแบบโปร่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักมากกว่าจึงมีโอกาสทรุดตัวเร็วกว่า (เมื่อเทียบกับโครงสร้างรองรับแบบเดียวกัน) ส่วนเรื่องของระบบระบายอากาศ อาจต้องพึ่งอุปกรณ์ช่วยอย่างเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศ นอกจากนี้การสร้างห้องครัวแบบทึบจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าห้องครัวแบบโปร่ง ด้วยปริมาณวัสดุ โครงสร้าง และการเตรียมงานระบบที่มากกว่า

ครัวแบบทึบ : ขอบคุณภาพจาก HGTVHGTVHGTV

ครัวแบบทึบ

สำหรับข้อดีของครัวแบบโปร่งที่มีผนังมิดชิดก็คือ สามารถป้องกันสิ่งสกปรกและสิ่งไม่พึงประสงค์จากภายนอกได้ดี   รวมถึงการใช้เครื่องดูดควันพร้อมปล่องระบายอากาศ ยังช่วยป้องกันกลิ่นควันจากการประกอบอาหารไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้านได้ง่ายด้วย นอกจากนี้ผนังที่มิดชิดของครัวแบบทึบยังให้ความรู้สึกปลอดภัยและเป็นส่วนตัว รวมถึงมีพื้นที่ติดตั้งชั้นเก็บของได้มาก ในเรื่องการทำความสะอาด ครัวแบบทึบควรใช้วิธีเช็ดถูเอาสิ่งสกปรกออก ไม่ควรใช้วิธีฉีดน้ำล้างอย่างครัวแบบโปร่ง และควรหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ

การติดระบบระบายอากาศ : ขอบคุณภาพจาก SCGSCGSCG

การติดระบบระบายอากาศสำหรับครัวปิด

อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าของบ้านตัดสินใจเลือกต่อเติมครัวตามแบบที่ต้องการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบโปร่งหรือแบบทึบ เรื่องสำคัญที่ห้ามละเลยคือโครงสร้างที่ถ่ายน้ำหนักลงพื้นของครัวส่วนต่อเติมจะต้องแยกจากกันกับโครงสร้างบ้านเดิม เพราะส่วนต่อเติมส่วนใหญ่จะใช้เสาเข็มสั้นซึ่งจะทรุดตัวเร็วกว่าตัวบ้านเดิม ดังนั้นทางที่ดีเจ้าของบ้านควรต่อเติมแบบแยกส่วนกันเพื่อลดปัญหาบ้านทรุด เนื่องจากการดึงรั้งกันและเกิดการฉีกขาดของโครงสร้าง ซึ่งอาจเป็นปัญหาใหญ่ที่อาจตามมาได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากมากเลยทีเดียวคะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook