“Bishamon Sapporo Ramen” ราเมนแท้จากฮอกไกโด

BISHAMON มีความหมายมาจากภาษาญี่ปุ่นว่า "เจ้าแห่งขุมทรัพย์" เป็นการรับประทานราเมนแบบใหม่ ซึ่งก็คือ ดื่ม กิน และรับประทานราเมนปิดท้าย

เมื่อออกจากร้านดื่มเหล้าแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปร้านราเมนอีก เพราะ BISHAMON ได้รวมทุกอย่างไว้แล้ว BISHAMON ทำจากซุปพิเศษที่เป็นความลับ ซึ่งนักทำราเมนมีความตั้งใจในการทำเส้น และชาชูหมู ได้รสชาติของราเมนซับโปโร โตเกียว และคิวชูที่แตกต่างกันไปและซุปที่เข้มข้น อีกทั้งหลังรับประทานก็ไม่รู้สึกเลียน เป็นราเมนที่เป็นความภาคภูมิใจของเรา มีรสต่างๆ ที่ครบถ้วน ตั้งแต่รสดั้งเดิมของซับโปโร โตเกียว และคิวชู ซึ่งจะเป็นรสเกลือ โชยุ และมิโซะ และรสคารามิโซะ รสกระเทียมคั่ว เป็นการรับประทานราเมน โดยที่รับประทานอาหารชุดราเมนหรือแกงกะหรี่ตอนกลางวัน รับประทานซาชิมิและดื่มเหล้าตอนกลางคืน และรับประทานราเมนปิดท้าย

สำหรับคำว่า "Bishamon" ชื่อร้านนั้น คุณเคียวโกะ คาวาดะ (Kyoko Kawada) ผู้จัดการร้านอธิบายว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า " เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง " โดยความพิเศษของร้าน Bishamon Sapporo Ramen คือมีเมนูราเมนให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้ง ซัปโปโรราเมน (Sapporo Ramen) โตเกียวราเมน (Tokyo Ramen) และคิวชูราเมน (Kyushu Ramen) เรียกได้ว่ามีให้เลือกทาน 3 ภูมิภาคกันเลยทีเดียว

เพราะเหตุที่ประสบความสำเร็จกับสาขาที่สิงคโปร์อย่างถล่มทลาย จึงทำให้คุณโคกิ มาซึดะ(Koki Matsuda) ตัดสินใจขยายสาขามาเปิดที่เมืองไทย กับร้านราเมน "Bishamon Sapporo Ramen" มีสาขาต้นตำรับอยู่ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น โดยสาขาที่เมืองไทย

สำหรับซับโปโรราเมนนั้น เมนูเด่น ก็คงเป็น "ราเมนมิโซะ สูตรพิเศษ"  ที่ทีเด็ดคือทำกันถ้วยต่อถ้วย โดยจะนำผักกับหมูสับลงไปผัดในหม้อเหล็ก ก่อนจะใส่น้ำซุปลงไปต้มพร้อมกับมิโซะที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น 2 ชนิด จนทำให้น้ำซุปมีรสหวานชุ่มคอ กลายเป็นเมนูเด็ดของสาขาทั้งญี่ปุ่นและสิงคโปร์ รวมไปถึงเมืองไทยที่เปิดมาตลอด 2 อาทิตย์นี้ด้วย ส่วนโตเกียวราเมนนั้น เมนูแนะนำก็คือ " ราเมนโชยุ " ที่ความเข้มข้นของซุปกระดูกหมูกับโชยุ ช่างเข้ากันได้ดีกับหอมเจียวที่โรยมาข้างบน และสำหรับภูมิภาคสุดท้ายคิวชูราเมน เมนูเด็ดของที่นี่ ก็ต้องเป็น "ราเมนทงคัตซึ โคกามิ มิโซะ โรยต้นหอม" ราเมนหมูสามชั้นนึ่งที่แทบละลายในปาก กับน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นที่เคี่ยวนานกว่า 10 ชั่วโมง รสชาติประทับใจจนต้องสั่งมาทานเป็นชามที่ 2

นอกไปจากเมนูราเมนอร่อยล้ำแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกรับประทานกันได้อีก อาทิ เมนูเกี๊ยวซ่า  เมนูสลัด เมนูซูชิ เมนูเทริยากิ หรือสำหรับคนที่ไม่ชอบทานราเมนที่นี่ยังมีข้าวหน้าต่างๆ หรือ อาหารชุดหมูทอด ไก่ทอด กุ้งทอด ให้เลือกรับประทานกันอีกด้วย

ปิดท้ายกันด้วยของหวาน เมนูที่ทางร้านแนะนำมาก็คือ Almond  Tofu พุดดิ้งแอลมอนด์รสชาติกลมกล่อมที่ไม่หวานจนเกินไปจนน่าจะถูกใจสาวๆ หลายๆ คน หรือใครที่ชอบของหวานแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ก็ต้อง Cold Red Bean with Mochi ไอศกรีมชาเขียวกับถั่วแดง โปะหน้าด้วยดังโงะแสนอร่อยและวิปปิ้งครีม ที่งานนี้ผู้ที่ได้ลิ้มลองทุกคน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สัมผัสหนึบๆ ที่เจือด้วยความหวานนิดๆ ของดังโงะ ช่างเข้ากันได้ดีเหลือเหลือเกินกับไอศกรีมชาเขียว

ผู้ที่สนใจอยากเข้าไปทานราเมนรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ไปกันได้ที่ร้าน Bishamon Sapporo Ramen หน้าสนามไดร์กอล์ฟ TEE OFF ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าเอกมัยกับพระโขนง

เบอร์โทรศัพท์ 02-713-6060
ร้านเปิดเวลา 11.30-22.00 น. ของทุกวัน

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)