งานมะขามหวาน นครบาลเพชรบูรณ์ ปี 2554

ททท.พิษณุโลก เชิญเที่ยวงานมะขามหวาน นครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2554

จังหวัดเพชรบูรณ์ กำหนดจัดงานมะขามหวาน นครบาลเพชรบูรณ์ กิจกรรมได้กุศลของร้านกาชาด ชมและเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น สินค้า OTOP จากชุมชนต่างๆ และการแสดง มหรสพมากมาย บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ (แห่งใหม่) ระหว่างวันที่ 22-30 มกราคม 2554

จังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ปลูกมะขามหวานประมาณ 16,000 ไร่ ปลูกมากที่สุดที่อำเภอหล่มสัก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเกษตรกรชาวสวนมะขามประมาณ 4,000 กว่าราย ที่นิยมกันมาก ได้แก่ พันธุ์ประกายทอง หรือ ตาแป๊ะ พันธุ์ศรีชมพู พันธุ์สีทอง และพันธุ์ขันตี ในแต่ละปีจะมีผลผลิตมากในช่วงเดือนมกราคม ดังนั้นทางจังหวัดเพชรบูรณ์จึงกำหนดจัดงานมะขามหวาน นครบาลเพชรบูรณ์ เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงมะขามหวานพืชเอกลักษณ์ และพืชเศรษฐกิจให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และอนุรักษ์สืบสานงานประเพณีวัฒนธรรม ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์

ภายในงานจัดให้มีการประกวดผลผลิตมะขามหวาน ชิงโล่รางวัลโล่พร้อมเงินสดกว่า 15,000 บาท และยังมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ "พิธีบวงสรวงบูชาศาลเจ้าพ่อหลักเมือง" ซึ่งเป็นเสาหลักเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ชมขบวนแห่รถธิดามะขามหวานที่สร้างสรรค์อย่างงดงามตระการตา ตลาดนัดมะขามหวานใหม่-สด ในราคายุติธรรม การประกวดธิดานครบาลเพชรบูรณ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นิทรรศการจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน กิจกรรมงานราตรีรำลึกนครบาลเพชรบูรณ์ การประกวดผลผลิตทางการเกษตร และปศุสัตว์ ภาพยนตร์ มหรสพ หมอลำซิ่ง และคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง ทุกคืน

ททท.สำนักงานพิษณุโลก ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจทั่วไป ร่วมงานครั้งนี้ จะได้ทั้งความรู้ และท่องเที่ยวสนุกเพราะในช่วงจัดงานจะเป็นช่วงที่จังหวัดเพชรบูรณ์มีอากาศเย็น นักท่องเที่ยวยังจะได้เดินทางสัมผัสบรรยากาศและทิวทัศน์ที่สวยงามตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ในหลายอำเภอ รวมถึงในระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2 และจังหวัดเพชรบูรณ์เคยเสนอให้เป็นเมืองหลวง ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อปี พ.ศ. 2487

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดเพชรบูรณ์ โทร.0-5672-9759 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0-5672-9746-7 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพิษณุโลก โทร. 0-5525-2742-3 ทุกวันในเวลาราชการ (08.30 - 16.30 น.)