แบกเป้ชมหมอกภูเรือ เมืองหนาวสุดแดนสยาม

แบกเป้ชมหมอกภูเรือ เมืองหนาวสุดแดนสยาม

แบกเป้ชมหมอกภูเรือ เมืองหนาวสุดแดนสยาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

3 วัน 2 คืน กับทริป "ภูเรือ" สมหวังสักทีหลังจากวางแผนกันมาเป็นปี สุดท้ายก็ลงตัวกัน ที่วันหยุดยาว 3 วัน รัฐธรรมนูญ จึงพลาดไม่ได้ที่ต้องแบกเป้ พร้อมคณะอีก 13 คน มุ่งหน้าสู่ จังหวัดเลย เมืองที่หนาวสุดในแดนสยาม


485 กม.จากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าเส้นทางที่คดเคี้ยว ไปตามช่องเขาสู่จังหวัดเลย ซึ่งพวกเราเลือกเส้นทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี เลี้ยวขวา ไปทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านตัวอำเภอหล่มสัก ไปสิ้นสุดที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย กับ รถ 4 คันที่ไปเป็นคาราวาน

คณะตกลงที่เลยไป 20 กม. เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศของเชียงคาน อำเภอเล็กๆกับอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง จากอาณาจักรล้านช้างในอดีต จากภูมิประเทศที่ติดชายแดนลาว ส่วนบรรยากาศคล้ายเมืองปายที่ขึ้นชื่อ แต่สงบเงียบมากกว่า กิจกรรมแรกของทริปนี้คือการตักบาตรข้าวเหนียววัฒนธรรมที่ยังไม่เสื่อมคลาย ก่อนที่จะดื่มด่ำบรรยากาศของบ้านไม้เก่าๆ แต่เต็มอิ่มไปด้วยรอยยิ้มตลอดเส้นทาง มองนาฬิกาอีกที ก็ 10 โมงกว่าเข้าไปแล้วท้องมันเริ่มร้องแล้วคะ(เพราะตื่นแต่เช้า) จึงมุ่งหน้าไปเพิ่มพลังกันที่ห้วยกระทิงกับอาหารมื้ออร่อยบนแพที่ลากไปกลางน้ำ อืมมม บรรยากาศเกินบรรยายคะ

ถึงที่พักซะทีห่างจากอุทยาทแห่งชาติภูเรือประมาณ 5 กม. คณะเราเลือกเต๊นท์เป็นที่พักผ่อนในคืนนี้ท่ามกลางลมหนาวที่พัดความเย็นตลอดทั้งคืน

เช้าวันเสาร์เราตกลงกันว่าจะเที่ยวในเมืองเลยให้หน่ำใจก่อนขึ้นไปท้าลมหนาวบนยอดภูเรือ เริ่มต้นกันเลยที่ไร่ "องุ่นชาโตเดอเลย" เป็นสวนองุ่นที่มีพื้นที่นับพันไร่ ชิมได้สดๆ ปลอดสารพิษแน่ พร้อมกับจิบไวน์องุ่นเย็นๆชื่นใจ(มีอาการมึนเล็กน้อยคะ) พวกเราก็ไม่พลาดอยู่แล้ว ที่จะชิมและแชะรูปกันไปเกือบชั่วโมง ก่อนมุ่งหน้าไปสัมผัสธรรมชาติกันต่อที่ "ไร่ทีเอสที" และ "สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ" ทั้งสองแห่งนี้จะปลูกต้นไม้หายากและดอกไม้นานาพันธุ์ของเมืองหนาว เรียกว่าทั้งสวยและอากาศดีแบบหาไม่ได้ในเมืองหลวงจริงๆ ทำให้เวลา 1 วันผ่านไปเร็วมากคะ สุดท้ายเราเลยมาปิดท้ายกันที่บรรยากาศของน้ำตกสองคอน ที่อยู่เลยมาไม่ไกลนัก และอาจเป็นเพราะปีนี้น้ำเยอะ เราเลยได้เห็นน้ำตกในหน้าหนาวที่สวยไม่แพ้หน้าฝน

เหมือนฝนจะไม่เป็นใจให้คณะเราเลย เล่นกระหน่ำตกตลอดทั้งคืน เลยทำให้เช้าวันอาทิตย์ฟ้าปิด เรียกว่าเศร้าไปตามๆกันคะ พวกเราคุยกันว่า คงไม่มีโอกาสได้เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ขึ้นแน่แล้ว แต่ถึงยังไงก็ต้องไปให้เห็นยอดภูเรือสักครั้งไม่ให้เสียเที่ยว และถือว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องคะ เมื่อสิ่งที่เราเจอบนยอดภูเรือไม่ใช่แสงแรกของดวงอาทิตย์ แต่เป็นม่านหมอกที่หนาจัด (เรียกว่าหนากว่าทุกวัน) ผ่านต้นสนที่สูงตระหง่านเป็นแนวยาว กับสายลมที่เย็นระเรื่อ ภาพที่เห็นประหนึ่งเรากำลังอยู่ในต่างประเทศ แต่นี่คือเมืองไทย คุ้มแล้วคะกับการแบกเป้ทริปนี้ถึงไม่ได้เห็นแสงสีส้มของดวงอาทิตย์อย่างที่ตั้งใจไว้แต่ต้น แต่ก็เจอความสวยอีกรูปแบบหนึ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น ก่อนกลับก็ไม่ลืมที่จะแวะสักการะพระธาติศรีสองรักขอพรให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพคะ(แต่ไม่ควรแต่งกายสีแดงนะคะ)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook