เที่ยวสตูล แวะเรียงหินที่เกาะหินงาม
"ผู้ใดบังอาจเก็บหินจากเกาะนี้ไป
ผู้นั้นจะถึงซึ่งความหายนะนานัปการ
จะกลับไม่ถึงบ้าน จะประสบอุบัติเหตุ
จะหลุดพ้นจากหน้าที่การงาน จะพบภัยพิบัติไม่มีที่สิ้นสุด"
ป้ายคำสาปเจ้าพ่อตะรุเตา ตั้งตระหง่านอยู่เคียงข้างศาลเจ้าพ่อ เพื่อประกาศคำอาญาสิทธิ์ มิให้ผู้ใดที่มาเยือนเกาะหินงาม ลักลอบนำหินเก็บกลับไปเป็นสมบัติส่วนตัว ตำนานแห่งคำสาปนี้ ไม่ทราบแน่ชัดว่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด มีเพียงเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า มีชาวเยอรมันคนหนึ่ง ไม่เชื่อถือไม่คำสาป จึงได้เก็บก้อนหินมันวาวนี้ ติดมือกลับไปยังประเทศบ้านเกิด ตั้งแต่นั้นชีวิตของเขา จึงได้พบแต่ความโชคร้าย ไม่ประสบความเร็จในชีวิตการงาน และพบเจออุบัติเหตุเพศภัยต่างๆ มากมาย จนท้ายที่สุด ต้องนำหินงามนั้นกลับมาคืนยังแหล่งกำเนิดที่ เกาะหินงาม จังหวัดสตูล...
เกาะหินงาม อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอาดัง บริเวณชายหาดเต็มไปด้วยหินสีดำ ที่มีลักษณะกลมมน ไม่มีเหลี่ยม เมื่อยามต้องแสงแดดก็สะท้อนความแวววาว เงางาม คล้ายกับมีพลังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามายลความงาม...ซึ่งหินลักษณะงามนี้ เกิดจากกระแสน้ำที่ขึ้นลงอยู่บริเวณรอบเกาะ ได้ถูกบีบตัวเข้ามาทางช่องแคบระหว่างเกาะอาดัง เกาะอาวี เกาะหลีเป๊ะ และหมู่เกาะดง ก่อให้เกิดกระแสน้ำที่เชี่ยวจัด โดยเฉพาะในหน้ามรสุมตะวันออกเฉียงใต้ เกาะหินงามด้านผาหินจะได้รับผลกระทบจากคลื่นโดยตรง และถูกน้ำกัดเซาะอยู่ทุกวัน จนพังลงมาทีละก้อน สองก้อน บวกกับกระแสน้ำแรง กระแทกหินให้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เกิดการเสียดสีกันทุกวัน จนเหลี่ยมของหินหายไป เหลือแต่ก้อนกลมๆ ซึ่งกว่าจะออกมาสวยงามจับตาดังเช่นปัจจุบัน เจ้าหินเหล่านี้ ต้องถูกน้ำทะเลกัดเซาะเป็นเวลากว่าร้อยปีเลยทีเดียว
ที่เกาะหินงามนี้ นอกจากจะมีตำนานอาถรรพ์เจ้าพ่อแล้ว ยังมีกิจกรรมแสนสุขใจที่นักท่องเที่ยวนิยมมาทำกัน นั่นก็คือ การเรียงหินขอพร ที่มีความเชื่อกันว่า ใครที่สามารถนำหินมาเรียงซ้อนกันได้ 13 ชั้น โดยไม่หล่น หรือพังทลาย ในครั้งเดียว จะสามารถขอพรได้สำเร็จสมหวัง ส่วนกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลย คือ การดำน้ำดูปะการังหลากสีด้านหลังเกาะหินงาม พร้อมถ่ายภาพความประทับใจ เก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่มีหาดหินที่สวยงามเท่านั้น แต่น้ำทะเลโดยรอบยังสวยใสอีกด้วย
ข้อควรระวัง สำหรับการมาเยือนเกาะหินงาม ก็คือ บริเวณรอบเกาะหินงาม เต็มไปด้วยหอยเม่น นักท่องเที่ยวควรระมัดระวัง ไม่ลงจากเรือด้วยเท้าเปล่้า ควรสวมรองเท้าขณะขึ้น-ลงเรือ เพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญ ไม่ควรเก็บทรัพยากรหินอันมีค่าของเกาะนี้ ติดตัวกลับบ้านไปด้วยเด็ดขาด!
สำหรับการเดินทางไปยังเกาะหินงาม สามารถทำได้โดย เช่าเหมาเรือจากบริษัทนำเที่ยวบริเวณท่าเรือปากบารา หรือเช่าเหมาเรือหางยาวของชาวบ้านจากเกาะอาดัง หรือเกาะหลีเป๊ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง โทร. 075-215867, 075-211085, 075-211058
เรื่อง : หัวพุดเดิ้ล / ภาพประกอบ : พิรานันท์
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)