ทางเลือกใหม่สู่..นครวัต
โดย...โจ๋ย บางจาก
ปราสาทนครวัต
คือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศกัมพูชา
ตั้งอยู่ในอำเภอนครหลวงของจังหวัดเสียมเรียบ(เสียมราฐ)
โดยมีอาณาเขตติดต่อกับ
จังหวัดกัมปงทม
ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
จังหวัดพระวิหาร
ทางทิศตะวันออก
จังหวัดอุดรมีชัย
ทางทิศเหนือ
จังหวัดบันเตยเมียนเจย
ทางทิศตะวันตก
และจังหวัดพระตะบองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
|
"นครวัตและนครธม
เป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญมีชื่อเสียงติดอันดับโลก
จึงเป็นที่สนใจของนักเดินทางทั่วไป
แต่สำหรับคนไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีชายแดนติดต่อกับกัมพูชา
เราจึงเห็นว่านครวัตอยู่ใกล้ชายแดนไทยเรามาก
ยิ่งเมื่อดูจากแผนที่แล้ว
ท่านคงคิดว่า..นครวัตนั้นอยู่ใกล้แค่คืบเท่านั้น!!
เพราะมีระยะทางห่างจากไทยไม่เกิน
150 กิโลเมตร |
ความใกล้ชิดติดกันนี้เอง
จึงทำให้คนไทยส่วนหนึ่ง
คิดหาหนทางพาตนเองไปสู่นครวัตด้วยรถยนต์
เนื่องจากเส้นทางเชื่อมต่อกับชายแดนไทย
ที่มีการค้าขายเกิดขึ้นนั้นมีอยู่ด้วยการหลายสาย
ปัจจุบันด่านพรมแดนถาวรด้านอำเภอปอยเปต
เป็นเส้นทางคมนาคมทางบกในการเดินทางไปสู่นครวัตที่กำลังได้รับความนิยม
เนื่องจากมีระยะทางจากพรมแดนไปถึงแหล่งท่องเที่ยวห่างกันเพียง
151 กิโลเมตรเท่านั้น
ในความต้องการของผู้ชื่นชอบ
ตะลอนเที่ยวต่างแดนแบบผจญภัยของนักเดินทางชาวไทย
ทางเลือกใหม่ของการทัวร์นครวัตทางรถยนต์
คือการร่วมทางไปกับกองคาราวานรถยนต์แบบท่องเที่ยว
ซึ่งจัดเป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์
ในยุคที่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
กำลังพัฒนาเข้าสู่ยุคที่ไร้พรมแดนมากขึ้น |
|
|
แต่การขับรถเกาะกลุ่มเดินทางจากชายแดนไทย
ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองทางด้านจังหวัดอรัญประเทศ
เพื่อเข้าสู่ประเทศกัมพูชาโดยใช้เส้นทาง
ปอตเปต
ผ่านจังหวัดบันเตยเมียนเจย
ก่อนตัดตรงเข้าสู่จังหวัดเสียมเรียบนั้น
ในความหมายแท้จริง
ทางสายนี้อาจดูเหมือนเป็นเส้นทางคมนาคม
ที่อำนวยความสะดวกรวดเร็วต่อการขับขี่ยวดยานในกัมพูชา
เพราะมีระยะทางห่างกันเพียง
151 กิโลเมตร เท่านั้น |
เพียงแต่คิด..และดูอย่างผิวเผินจากแผนที่แล้ว
ท่านคงเห็นพ้องว่า
เส้นทางสายดังกล่าวเป็นการเดินทางระยะสั้น
ซึ่งคงใช้เวลาในการไปมาไม่นานนัก
เพราะท่านอาจขาดประสบการณ์
และไม่ทราบข้อมูลแท้จริงบางประการ
ที่ควรนำมาเปิดเผยเกี่ยวกับเส้นทางเดินรถสายสั้นๆ
สายนี้มาก่อน
เพราะเบื้องหลังแล้ว
ยังมีปัญหาอีกสารพัดที่จะติดตามตัวท่านไปตลอดการเดินทาง
ซึ่งนักท่องเที่ยวทางรถยนต์ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ
ว่าท่านจะต้องผจญอุปสรรคมากมายเพียงใด
ในระหว่างการติดต่อประสานงาน
และตลอดเส้นทางน่าลุ้นของการผ่านพื้นที่แต่ละอำเภอในกัมพูชา |
|
|
สิ่งที่น่ารำคาญใจเรื่องแรกๆ
คือ
ท่านจะต้องใช้เวลานานเกินจำเป็น
สำหรับเส้นทางเพียง 151
กิโลเมตรนี้
เนื่องจากถนนหนทาง
เป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่ไปตลอด
และมีสะพานข้ามคลอง(เกือบทุกแห่ง)
ที่ขาดการซ่อมบำรุง(โดยเจตนา)
ซึ่งจะทำให้ขบวนรถเสียเวลาไม่ต่ำกว่า
8
ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยที่สุด |
แต่บางครั้ง
ท่านอาจเสียอารมณ์มากไปกว่านั้น
เพราะท่านจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หลังเสร็จสิ้นช่วงเวลาท่องเที่ยวอันสำราญ
เนื่องจากพาหนะที่ใช้ในการเดินทางของท่าน
เกือบทุกชนิดจะต้องได้รับความเสียหายก่อนเวลาอันควร
ด้วยเหตุมาจากสภาพถนนของประเทศกัมพูชานั้น
ชำรุดทรุดโทรมเกินกว่าจะเรียกมันได้เต็มปากว่าเป็นเส้นทางสัญจรของคนทั่วไป |
|
ปัญหาส่วนใหญ่
และอุปสรรค์กับความเอาแน่เอานอนไม่ได้
คือ หามาตราฐานที่ผู้จัดโปรแกรม
คาราวานท่องเที่ยวทางรถยนต์
ส่วนใหญ่ทราบดี
แต่ไม่ยอมอธิบายให้แก่นักเดินทางได้ทำใจกันล่วงหน้า
ซึ่งจะสร้างความผิดหวังช้ำใจแก่นักท่องเที่ยวโดยส่วนรวม
|
ด้วยเหตุนี้..
จึงมีผู้คิดบุกเบิกเส้นทางสายใหม่
เพื่อใช้เดินทางเจาะเข้าสู่ใจกลางจังหวัดเสียมเรียบ
โดยไม่ต้องผ่านถนนหนทางที่ย่ำแย่แบบเดียวกับ
เส้นทางสาย..ปอยเปตไปจังหวัดบันเตยเมียนเจย
และจากบันเตยเมียนเจยต่อไปยังจังหวัดเสียมเรียบขึ้นมาทดแทน
ทางสายนี้คือ เส้นทางยุทธศาสตร์หมายเลข
68 ของ กัมพูชา
ซึ่งเขมรแดงเคยใช้เป็นทางลำเลียงกำพล
ในสมัยสงครามภายใน
ซึ่งเป็นทางลูกรังตัดตรงจากชายแดนไทยที่
ช่องสะงำ
มาเชื่อมกับเส้นทางของกรมโยธาหมายเลข
2201ในเขตจังหวัดศรีสะเกษ |
ทางสายดังกล่าวนี้
เคยใช้ลำเลียงสินค้าบางอย่างจากเมืองเขตเมือง
อัลลองเวง
ซึ่งเคยเป็นฐานบัญชาการของกองกำลังเขมรแดง
มาส่งชายแดนไทยที่อยู่ห่างกันเพียง
28.8 กิโลเมตรเท่านั้น
แต่เมื่อวัดระยะทางจาก
ช่องสะงำ
ฝั่งไทยไปถึงตัวเมือง นครหลวง
ที่ตั้งของแหล่งโบราณสถานในกลุ่ม
นครวัต-นครธม
เส้นทางหมายเลข68จะมีระยะทางจากชายแดนไทยไปถึงใจกลาง
นครวัต-นครธม
เพียงไม่ถึง100กิโลเมตร
และสภาพโดยรวมของถนนหมายเลข68
กว่าร้อยละ80
มีผิวทางลูกรังที่ราบเรียบสมบูรณ์
จะมีบ่อโคลนอุปสรรค์ต่อการเดินทางอยู่เพียง
20 %
ของเส้นทางโดยเฉลี่ยทั้งหมด
แต่สิ่งสำคัญที่เป็นจุดเด่นของเส้นทางสายนี้คือ
ทิวทัศน์สองฝั่งทางนั้น
ปกคลุมไปดูด้วยป่าไม้และภูเขา
สภาพป่าก็สมบูรณ์มีสัตว์ป่าหนาแน่นชุกชุม
และเป็นทางคมนาคมที่ปลอดภัย
ไม่เคยปรากฏการปล้นสะดมใดๆ
มาก่อน นอกจากนี้..สะพานที่ใช้ข้ามคูคลองทุกแห่งนั้น
สมบูรณ์มาก
เพราะไม่เคยเฉียดใกล้ภัยสงครามมาก่อนเลย |
|
|
ในการสำรวจเส้นทาง(สายใหม่)
เมื่อวันที่ 25-28
ตุลาคมที่ผ่านมาโดยทีมงาน
ส่องโลก
รถยนต์ในคณะสามารถเดินทางผ่านถนนหมายเลข
68 โดยใช้เวลาเพียง 3
ชั่วโมง
โดยใช้ความเร็วในการเดินทางแบบสบายๆ
หยุดบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ
ไปตลอดอยู่ราว 40
กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งนับเป็นการเดินทางไปยังจังหวัดเสียมเรียบที่รวดเร็วที่สุด
เท่าที่เคยผ่านเส้นทางต่างๆ
มาทั่วดินแดนเขมร |
ปัจจุบัน..ได้มีการเจรจากันระหว่างฝ่ายปกครองของรัฐบาลทั้งสองชาติ
เพื่อหารือเรื่องเปิดด่านช่องสะงำเป็นด่านผ่านแดนชั่วคราว
เพื่อทดลองว่าจะเกิดผลดีต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวของสองประเทศมากน้อยเพียงใดภายในต้นปีหน้า
จึงเป็นข่าวใหม่และข่าวดีสำหรับ
นักผจญภัยที่ต้องการมาหาประสบการณ์ขับรถท่องเที่ยวในดินแดนกัมพูชาด้วยตนเอง
หรือร่วมไปกับหมู่คณะคาราวานที่จะจัดการเดินทางขึ้นในอนาคต |
|
|
ซึ่งในเดือนมกราคมศกหน้า
ทางรายการส่องโลกได้มีความคิดที่จะจัดโปรแกรมทดลองเดินรถ
พาท่านผู้ชมไปท่องเที่ยว
และชมความงดงามขององค์ปราสาทนครวัต-นครธม
โดยความร่วมมือระหว่าง
ไทย-กัมพูชา
และกองทัพภาค4
ของกัมพูชา
เพื่อหยั่งเชิงดูว่า..เส้นทางสายใหม่(สายอีสาน)
เพื่อนำคนไทยไปสู่นครวัตสายนี้
จะได้รับความนิยมต่อไปหรือไม่..รายละเอียดของเส้นทาง
สำหรับผู้สนใจโปรดแจ้งความประสงค์มายังทีมงานส่องโลก
โดยเขียนจดหมายสมัครร่วมเดินทางผ่านมายัง
webmaster@songloke.com
ทางเว็บไซด์นี้ได้ครับ |
"โจ๋ย
บางจาก"
|