ล่องเรือดูนกน้ำที่ทะเลน้อย-พัทลุง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง

ล่องเรือดูนกน้ำที่ทะเลน้อย-พัทลุง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง

ล่องเรือดูนกน้ำที่ทะเลน้อย-พัทลุง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ล่องเรือดูนกน้ำที่ทะเลน้อย-พัทลุง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง

โดย...พิศ กะ แอ๋ม

สะพานยาวยื่นลงกลางน้ำไว้ชมวิวค่ะ เนื่องในวันอนุรักษ์ พื้นที่ชุ่มน้ำโลก (อนุสัญญาแรมซ่าร์) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พวกเราอยากแนะนำ แรมซ่าไซด์ ไทยแลนด์ แห่งนึง ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก (คิดว่าคงเป็นเช่นนั้น) ที่นั่นคือ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลา ในเขตแดนของจังหวัดพัทลุงค่ะ สัมผัสธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ของผืนน้ำจืดอันกว้างใหญ่ที่สุดสวยด้วยดอกบัว ทั้งบัวสายสีชมพูสด บัวนาสีขาวและบัวหลวงดอกใหญ่ และนกน้ำ จำนวนมากที่อาศัยในอุทยาน ฯ

ทะเลน้อยถูกประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2518 ตั้งอยู่ที่ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ห่างจากตัวจังหวัด 32 กิโลเมตร มีพื้นที่ 457 ตร.กม. หรือ 285,625 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา คุ้งน้ำความกว้าง 5 กม. ยาว 6 กม. ความลึกโดยเฉลี่ย 1.2 เมตร ปัจจุบันคงเหลือประมาณ .80 ซม (ข้อมูลจากคนขับเรือหางยาว) เป็นที่อาศัยของนกน้ำกว่า 260 ชนิด

นกประจำถิ่นได้แก่ นกกระแตแต้แว้ด นกนางนวลแกรบเคราขาว นกกระเต็นน้อย นกนางแอ่น ตอนพลบค่ำก่อนอาทิตย์อัสดงจะมีนกจำนวนมากบินกลับรัง หรือตอนเช้าตรู่ชมแสงสียามเช้าพร้อมฝูงนกที่บินออกจากรัง ที่นี่ได้ถูกยกย่องว่าเป็น แรมซ่าร์ไซด์ ไทยแลนด์ หรือพื้นที่ชุ่มน้ำ

สำหรับพื้นที่ชุ่มน้ำของประเทศไทยที่เข้าร่วมใน อนุสัญญาแรมซ่า ระดับโลก มีทั้งสิ้น 10 แห่งคือ - เขตห้ามล่าสัตว์ บึงโขงหลง จ.หนองคาย -ดอนหอยหลอด จ.สมุทรสงคราม -ปากแม่น้ำกระบี่ จ.กระบี่ -เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หนองบงคาย จ.เชียงราย -เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าพลุโต๊ะแดง จ.นราธิวาส และในปี 2546 ประเทศไทยมีพื้นที่ชุ่มน้ำเข้าร่วมอนุสัญญาแรมซ่าเพิ่มขึ้นอีก 5 แห่งคือ -หมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี -อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จ.พังงา -อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง -หมู่เกาะลิบง จ.ตรัง -อุทยานแห่งชาติแหลมสน ปากคลองกระบุรี จ.ระนอง (ข่าวสารทางสถานีโทรทัศน์ และข้อมูลจากสำนักอนุรักษ์ต้นน้ำ)

การท่องเที่ยวทริปนี้ได้รับความอนุเคราะห์อย่างมากจากพ่อจิ๊บเป็นทั้งสปอนเซอร์รายใหญ่ และผู้นำทาง แต่ที่พวกเราภูมิใจมากที่สุดเห็นจะเป็นคุณพ่อของแอ๋มเองค่ะ ที่ร่วมตะลอนส์ไปกับพวกเราด้วย เรียกว่าเริ่มจะเป็นนักท่องเที่ยวฝึกหัดเพิ่มขึ้นอีก 1 คน รวมผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 8 คน แอ๋ม โอม จิ๊บ จิ๊ก น้า คุณพิศ พ่อจิ๊บ พ่อแอ๋ม ใช้รถยนต์ 2 คันคือรถ Toyota Sport Rider ของพ่อแอ๋ม 1 คัน และรถเก๋งของพ่อจิ๊บอีก 1 คัน

แม่ค้าไก่ย่างชาวอิสลาม

วันที่ 14 เมษายน 2545 พวกเราออกเดินทางจากพังงา ประมาณ 10 โมงเช้า แวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้านไก่ย่างเนื้อทอง หน้าโรงเรียนเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เมนูเด็ดก็คือ ไก่ย่าง + ข้าวหมกไก่สูตรอิสลามค่ะ ตามด้วยส้มตำไทยรสเด็ด มีเบอร์โทรเผื่อเพื่อน ๆ เดินทางไปแถวนั้นแล้วอยากจะลองชิมบ้างค่ะ โทร. 0-7563-6084

ข้าวหมกไก่ก็มีค่ะ

ทางเดินเข้าชมสระมรกต ระยะทางกว่า 2 กม. หลังอิ่มท้องเดินทางต่อ แวะชมความมหัศจรรย์ของน้ำตกร้อนที่คลองท่อม ที่มีนักท่องเที่ยวมากมายจากจังหวัดใกล้เคียง มาเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของสายน้ำที่อุ่นร้อนไม่เหมือนกับน้ำตกทั่วไปที่มีสายน้ำเย็น ออกจากน้ำตกร้อนก็แวะเที่ยวน้ำตกเย็น หรือสระมรกตที่อยู่ใกล้ ๆ กันอยู่ในเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาประบางคราม จากนั้นเดินทางเข้าเมืองตรังนอนค้างที่ตรัง 1 คืน ใช้บริการโรงแรมวัฒนาปาร์ค ราคาห้องละ 900.- บาท (ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลราคา 700.- บาท) เบอร์โทรโรงแรมค่ะ 0-7521-6216

ถึงแล้วค่ะ สระมรกต

ชาวบ้านเล่นน้ำริมทางเดิน น้ำเขียวใส น่าเลงเล่นจังเล๊ยย เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
อาหารหลากหลายที่ร้านหมูย่างค่ะ เช้าวันที่ 15 เมษายน 2545 หลังสำรวจอาหารเช้าที่โรงแรม มีขนมจีน ข้าวยำปักษ์ใต้ ขนมปัง กาแฟ พวกเราต่างลงมติว่า ขอสละสิทธิ์อาหารฟรีที่โรงแรมจัดให้ (รวมกับราคาห้องพักแล้ว) เพราะหลายคนอยากจะไปลิ้มชิมรสเมนูเด็ดของเมืองตรังที่ขึ้นชื่อ ก็หมูย่างเมืองตรังไงละคะ ทานกะกาแฟ ติ่มซำ ซาลาเปา พ่อจิ๊บนำทางไปร้านหมูย่างตรัง ที่เป็นร้านแรกของเมืองตรัง รสชาติอร่อยเด็ดทุกอย่างเลยค่ะ (อาหารอร่อยเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเมืองตรัง ที่ดึงดูดให้พวกเราเลือกที่จะมาค้างคืนที่ตรัง แม้ว่าไม่ได้ตั้งโปรแกรมท่องเที่ยวไว้ที่ตรัง )
นี่.......ดูกันใกล้ๆๆ เยยยย หอมฉุยมะ หลังอิ่มอร่อยกับหมูย่างเมืองตรัง ก็เดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดพัทลุง พบป้ายบอกทางไปทะเลน้อย 23 กิโลเมตรขับรถตรงไปเรื่อย ๆ ได้ประมาณครึ่งทาง เจอป้ายบอกทางให้ u-Turn กลับรถมาทางถนนด้านขวามือเพื่อเลี้ยวเข้าถนนแยกไปอำเภอควนขนุน ถึงทะเลน้อยก็ต้องตื่นตากับแอ่งน้ำกว้างใหญ่สุดสายตา ที่เต็มไปด้วยดอกบัวสายสีชมพูสด สวยหวาน ด้านทางเข้ามีบริการจอดรถ (เก็บเงิน) อยู่ 2 แห่ง แต่พวกเราไม่ได้นำรถไปจอด (ไม่งกหรอกนะคะแต่ประหยัดค่ะ) ทุกคนมองแต่จานอาหาร... หิวนะซิ

ขับรถเลาะขอบอ่างน้ำไปจนถึงศาลาริมน้ำที่มีเรือหางยาวจอดรอบริการนักท่องเที่ยวอยู่หลายลำ เราเลือกจอดรถริมขอบอ่างเพราะมีพื้นที่ว่างมากมายให้เลือก เพียงแต่ว่ารถจ="0">

พ่อจิ๊บติดต่อเช่าเรือหางยาวด้วยราคา 2 ชั่วโมง 200.- บาท ซึ่งเป็นค่าบริการพาหนะ นำเที่ยวที่ถูกที่สุดในประเทศไทยเท่าที่เคยท่องเที่ยวมา ส่วนคุณพ่อแอ๋มขอบายไม่ยอมลงเรือไปด้วยบอกว่าแดดร้อน คุณพ่อแอ๋มเพิ่งจะเป็นนักท่องเที่ยวฝึกหัดยังไม่มีความพร้อมที่จะลุยเหมือนพวกเรา ก็เลยขอนั่งกินลมชมวิวที่ศาลาริมน้ำแทน เหลือพวกเรา 7 คน ลงเรือพร้อมลุยด้วยร่มและหมวกกันแดดที่เตรียมพร้อม เพราะเรือเป็นเรือหางยาวไม่มีหลังคา ซึ่งอาจจะร้อนไปหน่อย แต่คนเรือเขาก็มีเหตุผลว่า การใช้เรือหางยาวลำเล็ก ๆ มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และไม่เป็นการก่อกวนความสงบของนกน้ำค่ะ ส่วนการจะใช้เรือยนต์ลำใหญ่ไม่เหมาะสมเพราะเครื่องยนต์เสียงดังมาก และใช้พื้นที่การขับเรือมากกว่าเรือหางยาวลำเล็ก ๆ .อืมส์!!!!!! เป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลดีนะคะ

เรือนักท่องเที่ยว

นกกำลังยืนตากปีกค่ะ

เรือเล่นไปตามกอบัวลัดเลาะไปตามแหล่งนกน้ำจำนวนมาก มากจนหันซ้ายขวามองแทบไม่ทัน เสียแต่ว่าเรือเล่นไปเรื่อยๆ ไม่ได้จอดสนิทให้ดูนกอย่างจุใจเท่านั้นเอง ตลอดเส้นทางช่วงแรกจะมีนกนางแอ่นบินตามเรือไปตลอดเส้นทาง พวกเราตั้งชื่อพวกเค้าว่า นกรับแขก.น่ารักมากๆๆ เลยค่ะ..หลังเล่นเรือไปครึ่งทางก็แวะพักที่ศาลากลางน้ำ บนศาลามีอาหารว่าง ส้มตำและน้ำดื่มไว้จำหน่ายนักท่องเที่ยวด้วย หลังพักผ่อนเข้าห้องน้ำก็ตะลุยกันต่อ นกน้ำเดินเล่นค่ะ..มองดูคล้าย ก.ไก่เน๊อะ

คราวนี้ได้นั่งเรือฝ่าไปในกอบัวหลวงได้สมผัสธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม อย่าเพิ่งตกใจนะคะ พวกเราไม่ได้เข้าไปทำลายธรรมชาติ เรือวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางที่อุทยานกำหนดให้ค่ะ

ศาลาชมวิวก่อนลงเรือค่ะ หลังล่องเรือชมนกกันอย่างจุใจ คนเรือก็นำพวกเรากลับมาส่งที่ศาลาหลังเดิมที่คุณพ่อแอ๋มรออยู่ แต่เนื่องจากช่วงขากลับเกือบ 11 โมง ดอกบัวสายสีชมพูสดก็หุบเสียแล้ว สุดแสนเสียดายอย่างที่สุดเลยค่ะ ทริปนี้เลยต้องกินแห้ว ไม่ได้เก็บภาพส่วนตัวคู่ธรรมชาติที่ทะเลน้อยแห่งนี้ไว้เลย โดยเฉพาะคุณพิศตากล้องประจำกลุ่มกินแห้วมากที่สุด บอกว่าไม่ถูกใจเอามากๆ เพราะถ่ายรูปได้ไม่สวยเลยแม้รูปเดียวเพราะเรือวิ่งตลอดเวลา..จัดมุมถ่ายรูปไม่ทันอ่ะ แถมกล้องถ่ายรูปก็ไม่สามารถซูมใกล้ได้มากนัก จึงไม่มีภาพนกน้ำมากมายให้มาชม.เสียดายจัง !!!

พวกเรานัดแนะกันว่า ถ้ามีโอกาสล่องใต้อีกครั้งจะต้องมาเยือนถิ่นนกน้ำแห่งนี้เป็นครั้งที่สอง และต้องไปนอนค้างที่บ้านพักอุทยานค่ะ ถึงจะได้สัมผัสบรรยากาศสวยสุดที่นั่น

ข้อแนะนำพิเศษ เวลาที่เหมาะสมกับการล่องเรือในทะเลน้อยกรณีที่เดินทางมาจากที่อื่นคือ เช้า ไม่เกิน 8 โมงเช้า จะได้ชมนกชมดอกบัวกันอย่างเย็นใจ ไม่ต้องต่อสู้กับอากาศร้อนช่วงกลางวัน และได้ชื่นชมดอกบัวที่บานสะพรั่งตลอดเส้นทางและกลับมาขึ้นฝั่งประมาณ 10 โมงเช้า ได้เวลาดอกบัวหุบพอดีค่ะ

ควรเตรียมร่มหรือหมวกกันแดดไปด้วย เพราะเรือหางยาวที่ใช้ล่องเรือดูนกเป็นเรือแบบเปิดโล่งไม่มีหลังคา เนื่องจากทางอุทยานไม่ต้องการใช้เรือลำใหญ่มาก เพราะเครื่องเรือเสียงดังจะสร้างความไม่สงบให้กับนกน้ำที่อาศัยอยู่จำนวนมาก และไม่สะดวกที่จะขับเรือซอกแซกไปตามกอบัว และดูนกน้ำอย่างใกล้ชิดได้สะดวกเท่าเรือลำเล็ก

ถ้าต้องการไปดูนกน้ำด้วยและถ่ายรูปด้วย ก็ต้องมีการนัดแนะตกลงกับเจ้าของเรือให้เข้าใจจุดประสงค์เสียก่อนการเดินทางว่าต้องการถ่ายรูป ถ้าล่องเรือไปถึง ณ จุดไหนที่มีนก มีธรรมชาติที่สวยงาม คนเรือจะต้องหยุดเรือจอดนิ่งตามเวลาที่เราต้องการ จะหยุดนานแค่ไหนก็น่าจะตามใจนักท่องเที่ยว เพราะคิดว่าค่าบริการล่องเรือจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 100.- บาท คุณก็จะสามารถเก็บภาพประทับใจได้ตามต้องการ ไม่ผิดหวังเหมือนคุณพิศที่ไม่ได้ตกลงกับคนเรือก่อนออกเดินทาง ก็เลยไม่ได้ภาพสวยถูกใจ เพราะเรือวิ่งไปเรื่อย ๆ ไม่สะดวกที่จะถ่ายภาพ

ถ้าจะให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกก็ต้องนอนค้างที่อุทยานค่ะ ติดต่อที่พักได้ที่ กรมป่าไม้กรุงเทพ ฯ โทร 0-2579-7229, 0-2579-5734 หรือที่พัทลุง 0-7461-5722, 0-7468-5230 ค่าบริการห้องพักขึ้นอยู่กับความพอใจของนักท่องเที่ยวไม่กำหนดตายตัว

การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4048 จาก อ.เมืองพัทลุง - อ.ควนขนุน รวมระยะทาง 32 กม. เส้นทางลาดยางตลอดสาย หรือจะเดินทางทางรถไฟไปลงสถานีปากคลอง จากนั้นต่อรถยนต์ไปทะเลน้อยอีก 8 กม.

พวกเราหวังว่า อุทยานนกน้ำทะเลน้อยแห่งนี้ คงจะมีนักท่องเที่ยวแวะไปเยี่ยมเยือนมากขึ้นในอนาคต เพราะเป็นแหล่งดูนกและชมธรรมชาติที่สวยงามมากๆๆๆๆ และค่าใช้จ่ายก็ถูกมากๆๆๆๆๆ ด้วยค่ะ หรือถ้าใครสนใจโปรแกรมของพวกเราที่เริ่มต้นจากพังงาก็ไม่เลวนะคะ ได้สัมผัสหลากหลายบรรยากาศ แถมอิ่มอร่อยกับเมนูเด็ดตลอดเส้นทางอีกด้วย หรือจะค้างเที่ยวพังงาซัก 1 วันก่อนก็ได้ค่ะอิ อิ ชวนเที่ยวพังงาอีกด้วยแล้วก็เป็นจังหวัดบ้านเกิดของคุณพิศนี่นา. อย่างงี้เขาเรียกว่ารักถิ่นเกิดแม่นบ่ อะจ๊ากส์สสสส ทำมายคนใต้หันไปเว้าอีสานได้เนี่ยแหะ ๆ คนภาคไหนก็เป็นคนไทยเหมียนกันเน้อ. พบกันใหม่กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั่วไทยที่พวกเราไปตะลอนทัวร์กันมาค่ะ

พิศกะแอ๋ม ..

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook