" พยากรณ์อากาศบอกว่า ได้ที่แล้ว ลมหนาวกำลังพัดเยือนถิ่นเหนือ อย่ากระนั้นเลย ไปหาน้องนกกันดีกว่า เอาเสื้อหนาวไปเที่ยวด้วย สงสารมันเกือบ 2 ปี แล้วที่ไม่ได้มา"
เย็นแล้วตอนมาถึง ผู้คนไม่มากนัก ถนนขึ้นมาที่ทำการอุทยานราดยางใหม่เรียบแต้ ร้านอาหารก็ใหม่ ใหญ่และสะอาดสะอ้าน เรารีบกางเต้นท์ที่ดงสน จนเสร็จแล้วไปหาข่าวที่ร้านลุงแดงกัน โลกแคบจริงๆ สำหรับนักดูนกเมื่อพบว่า มีคนคุ้นเคยนั่งอยู่ที่ร้าน มันอยู่ที่ Jeep Track เดินเข้าไปแค่ 5 ก้าวก็ถึง ถ้าจะดี กางบังไพรด้วยก็แล้วกัน นกจะออกแต่เช้าเลย
ข้อมูลและที่หมายชัดเจนแบบนี้ สุดยอด (Jeep Track เป็นเส้นทางดูนกอยู่บริเวณด่านสอง ตรงทางแยกที่จะไป อ.แม่แจ่ม ครับ) มันที่ว่านี้คือ Hill Blue Flycatcher หรือ นกจับแมลงคอน้ำตาลแดง ...
|
รุ่งเช้าที่ด่านสองหลังจอดรถ ก่อนเข้าที่หมาย ญาติก็บินมาทักทายเรา แม้น อีแพรด อีแพรด แม้น แม่คุณทำให้นายแม้นสับสนว่า ตัวเองชื่ออะไรกันแน่ เจ้าตัวนี้ดูค่อนข้างคุ้นเคย เพราะญาติของมัน ... อีแพรดแถบอกดำ ... หลายตัวชอบมาเอะอะโวยวายในสวนที่บ้านเป็นประจำ ... อีแพรดคอขาว (White-throated Fantail) ... ตัวนี้ ดูสุภาพสมเป็นผู้ดีชาวเหนือมากกว่า
|
เสร็จจากอีแพรด เราก็เข้า Jeep Track แม้น นกมาแล้ว เร็วๆ เสียงแบบนี้เป็นอะไรที่น่าฟังสุดๆ มือชี้เป้าสั่งการอย่างตื่นเต้น ไม่อยากเชื่อครับ ยังไม่ทันจะกางบังไพรเสร็จเลย มันก็กระโดดอย่างห้าวหาญออกมาจ้องดูว่า เราจะทำอะไรกัน
เป็นการถ่ายรูปที่สนุกสนานในบรรยากาศหนาวเย็นอีกครั้งหนึ่ง เจ้านกน้อยบินมาให้ถ่ายเป็นระยะๆ ไกลบ้าง ใกล้บ้าง มืดบ้าง สว่างบ้าง นิ่งบ้าง ไม่นิ่งบ้าง และอื่นๆ อีกมากมาย คนถ่ายก็ถ่ายไป ส่วนคนชี้เป้าเอร็ดอร่อยด้วยอาหารจานด่วนรองท้องสุดหรู ข้าวหลาม เนื้อเค็ม ตามด้วยนมกล่อง
|
|
|
ฝรั่งเบลเยี่ยมนายหนึ่ง แอบย่องมาร่วมดู(ข้าวหลาม) และดมกลิ่น(เนื้อเค็ม) ด้วยอย่างเงียบๆ มันเป็นโอกาสในการดูนกที่เรามิได้คาดหมายมาก่อน คนถ่ายจึงออกอาการเกร็งถึงขั้นอั้นฉี่ได้อย่างเป็นสุข เพราะกลัวนกมาแล้วไม่ได้ถ่าย
เจ้าตัวนี้ เป็นทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ หลายตัวจะบินมาหยุดที่นี่ก่อน แล้วลงไปเที่ยวกรุงเทพสักพักจากนั้นก็จะไปต่อ
|
นกตระกูลจับแมลงมีหลายชนิดครับ น่ารักดี ลองเปิดคู่มือนกดูสิครับ เจ้านกตัวนี้ ความเป็นมายิ่งใหญ่นะครับ เป็นนกระดับนานาชาติทีเดียว ชื่อวิทยาศาสตร์ซึ่งใช้กันทั่วโลกของนกจับแมลงตัวนี้คือ Cyornis banyumas lekhakuni
สังเกตอะไรไหมครับ ชื่อท้ายนะ ลองออกเสียงภาษาไทยดูสิครับ เลขะกุนิ ไง จริงแล้วก็คือ เลขะกุล ครับ คุ้นๆ นะครับ ใช่แล้ว นกตัวนี้ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ คุณหมอบุญส่ง เลขะกุล บิดาแห่งการอนุรักษ์ธรรมชาติของไทย
|
|
ปกติแล้วในวงการด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษาและค้นคว้าชนิดพืชและชนิดสัตว์ จะมีธรรมเนียมนิยมอยู่ประการหนึ่งครับ นั่นคือการตั้งชื่อสัตว์หรือพืชชนิดใหม่ โดยใช้ชื่อของบุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัตว์หรือพืชนั้นๆ ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ซึ่งนับกันว่าเป็นการให้เกียรติแก่บุคคลต่างๆ
ดังกล่าวแล้วอย่างสูงสุด อีกทั้งยังทำให้ชื่อนั้นๆ คงปรากฏอยู่ในวงการวิทยาศาสตร์ต่อไปอีกเป็นเวลานาน หลังจากบุคคลผู้นั้นได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว (เพิ่มเติมความรู้ได้ที่ www.boonsongconservationthailand.com หรือหนังสือสารคดีประจำเดือนพฤศจิกายน 2550 หน้าปกเป็นรูปคุณหมอถือกล้องดูนก ครับ)
....พอสาย นกเริ่มทิ้งระยะการโผล่ออกมานานขึ้นเรื่อย เป็นอย่างลุงแดงว่า มันคงรำคาญเสียงรถยนต์ที่พานักท่องเที่ยวขึ้นลงยอดดอยตลอดเวลา จนกระทั่งเราตัดสินใจเลิกถ่าย(ข้าวหลามกับเนื้อเค็มหมด) และเดินออกจาก Jeep Track อย่างอารมณ์ดี ก่อนแยกกันฝรั่งยังยืนดูดนิ้วและพยักหน้าเพื่อยืนยันว่า เนื้อนะเค็มกำลังได้ที่
|
ช่วงเย็น หลังจากวนจุดโน้นจุดนี้เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เราก็มาแวะที่สำนักงานของการไฟฟ้าซึ่งอยู่ติดกับโครงการหลวงทางไปน้ำตกสิริภูมิ เพราะได้ข้อมูลบางอย่าง เหมือนมั้ยละ แม่คุณชี้ให้ดูบ่อน้ำใสๆ สี่เหลี่ยมผืนผ้า 3-4 บ่อ ในสำนักงานฯ
|
ด้านหนึ่งของบ่อทำเป็นช่องกว้าง มีน้ำพุ่งแรงออกมาจากช่องตกลงไปยังด้านล่างเป็นสายคล้ายน้ำตกตามธรรมชาติ ส่วนด้านบนมีฝาตะแกรงเหล็กโปร่งปิดไว้ กันคนเข้าไปแอบจับหรือไม่ก็พลัดตก ซึ่งนอกจากจะเปียก หนาวและไม่ตายแล้ว ยังจะทำให้เสียของอีกด้วย ใต้ตะแกรงเหล็กของแต่ละบ่อ ฝูงปลาจำนวนหนึ่งกำลังว่ายสู้กับสายน้ำตกจำลอง
เคยดูสารคดีธรรมชาติของฝรั่งที่ไปถ่ายแถวน้ำตก ในช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นๆ แล้วมีปลากระโดดขึ้นมาโชว์ตัว โดยมีหมียักษ์ยืนแช่น้ำคอยท่าเพื่อตะปบมันมากินไหมครับ ตัวที่รอดก็จะว่ายทวนน้ำไปวางไข่ต่อไงละ
นึกภาพออกไหม...เขาละครับปลาเทร้าท์ และที่ใต้ตะแกรงนี้คือปลาเรนโบว์เทร้า์ ซึ่งแม่ครัวของสำนักงานฯ ตะปบมา ให้เราศึกษาว่าเป็นอย่างไร .... อร่อยมากครับ อันนี้ต้องขออภัย เพื่อการเรียนรู้จริงๆ
|
|
ทราบมาว่าปลาชนิดนี้ได้ถูกใช้เป็นเมนูพิเศษต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองหลายครั้งแล้ว เป็นมื้อเย็นที่หรูหราทีเดียว 150 บาท คืนนี้ อากาศหนาว ฟ้าใส เดือนเกือบเต็มดวง....
รุ่งเช้า ลืมตาขึ้นมาก็เจอเด็กม้งมาขายของถึงหน้าเต้นท์ มาในสูตรเดิมคือตื้อให้ซื้อดอกไม้ หากไม่สำเร็จก็จะให้ฟรี ถ้าไม่รับอีก ก็จะได้ยินคำตัดพ้อว่า พี่เนี่ย ไม่รับน้ำใจหนูเลย ดูดู๋ เด็กน้อย เป้าหมายของเราเช้านี้คือยอดดอยอินทนนท์ ไม่ผิดหวังที่ตั้งใจมา ป้ายบอกอุณหภูมิที่ศูนย์บริการฯ ระบุว่า ต่ำสุดวัดตอน 06.00 น. คือ 5 องศา
|
ร้านกาแฟขายดีเป็นที่สุด รวมถึงบะหมี่สำเร็จรูปร้อนๆ หลากรส ข้าวเหนียวก็มี เราหมุนซ้าย หมุนขวา เพื่อหาที่วางสัมภาระหลายชิ้น ขณะที่นกรับแขกตัวแรกของยอดดอยโผล่ออกมารอนักท่องเที่ยวอย่างเอิกเกริก
ไม่เขินอายต่อสายตาและกล้องถ่ายรูป มันก้มหน้าก้มตาหาเศษขนมกินอย่างเดียว นกกะรางหัวแดง (Chesnut-crowned Laughingthrush)... นกชนิดนี้จะพบได้ที่ระดับความสูง 1,000 เมตร ขึ้นไป เป็นนกประจำถิ่น พบได้ง่ายแถวๆ นี้แหละครับ
|
พอแดดเริ่มออก สิ่งที่ตั้งใจคอยก็แหย่หน้าโผล่มายั่ว จากนั้นมันก็ไป จังหวะของมันต้องนับเป็นวินาทีครับ มันเร็วมากจนถ่ายรูปไม่ค่อยจะทัน ต้องมุมานะหน่อย มันมุดเข้ามุดออกใต้พุ่มโคมญี่ปุ่นที่กระจายอยู่ทั่วเพื่อกินน้ำหวานอย่างปราดเปรียว
นายแม้นแบกกล้องและขาตั้งวิ่งตามจนเหนื่อย ยังจำได้ดีเมื่อครั้งเริ่มหัดดูนก ลุงแดงบอกว่านกตัวหนึ่งที่จะต้องเจอบนยอดดอย คือเจ้าตัวนี้แหละ นกกินปลีหางยาวเขียว (Green-tailed Sunbird) ผ่านไปหลายปี จนมาถึงวันนี้ เราถึงจับมันใส่กล้องจนได้ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสวยงามก็อยู่ที่นั่น
|
|
|
กินปลีน้อยตัวนี้ พบได้ในระดับความสูง 1,500 เมตรขึ้นไป เป็นนกประจำถิ่น พบได้บ่อยก็ที่นี่แหละครับ เป็นนกรับแขกอีกตัวหนึ่ง ต้องตาไว วิ่งไว มือไวถ้าจะบันทึกภาพมัน และโดยเฉพาะถ้าแดดออกด้วยแล้ว จะเข้าใจได้ดีว่าทำไมถึงเรียกมันว่า Sunbird
หลายจังหวะที่รอเจ้ากินปลี นายแม้นจะแวบไปหลังโรงครัวของศูนย์ฯ ตรงนี้มักจะมีนกให้ดูเสมอ แต่สาวๆ คงไม่ค่อยชอบ เพราะมีแต่เศษขยะ เศษอาหาร แถมกลิ่นแสนรัญจวนเร้าใจนายแม้นไปเพราะเห็นมัน และก็สำเร็จ
|
มันคือ นกเอี้ยงถ้ำ (Blue Whistling-Thrush) ... นกที่ไม่นิยมเลี้ยงควายเฒ่า พบได้ตั้งแต่พื้นราบจนถึงยอดดอย เวลามันยืนหันมาประจันหน้านะครับ สง่างามมาก อกผาย ไหล่ผึ่ง หลังตึง ตัวโต ทะลึ่งดี อาวุโสสองคน เป็นสุขกับการถ่ายนกในการเดินทางหนนี้ แม้จะเป็นนกที่เรียกว่านกพื้นๆ ของที่นี่ แต่หนาวนี้ที่อินทนนท์ สบายใจจริงๆ ครับ
|
|
|
การเดินทาง : นายแม้นใช้เส้นทางกทม. ตาก เถิน แล้วแยกซ้ายเข้าเส้นทาง ลี้ บ้านโฮ่ง ครับ จากทางแยกไปสักประมาณ 10 กม. ถนนจะเริ่มคดเคี้ยวอีก 17.5 กม. ขับไปได้เรื่อยๆ ต้องระวังในจังหวะที่เลี้ยวมุมอับ เพราะอาจมีรถใหญ่สวนมา พ้นทางคดเคี้ยวจะเจอถนนดำอย่างดี ขับสบายครับเลนเดียว รถไม่แยะมาก เมื่อถึงบ้านโฮ่ง ให้ขับเลยตัวอำเภอไป 4-5 กม. จะมีทางแยกซ้ายมือไปท่าลี่ - จอมทอง ป้ายบอกชัดเจน ไปตามเส้นนี้ จะบรรจบกับเส้นเชียงใหม่ จอมทอง ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกหน่อย แล้วจะเจอแยกขึ้นดอยอินทนนท์ทางขวา ... ขอให้สนุกครับ
|
เรื่อง/ภาพ...นายแม้นคนสวน หน้าหนาว ปี 50
ออนไลน์วันที่ 14 ธันวาคม 2550
เรื่องท่องเที่ยวจาก นายแม้น คนสวน และ แม่คุณ
วิหคหรรษา: เรื่องของแจ๋วแหวว วิหคหรรษา : กะเต็นน้อยเริงร่า วิหคหรรษา : นกพญาปากกว้างอกสีเงิน เขาน้ำค้าง - อุทยานแห่งขาติและอุโมงค์ประวัติศาสตร์ สวนห้อมแห่งทับลาน บันทึกนายแม้นคนสวนไปเที่ยวทุ่งหญ้าเขาแหลม
คลองอีเฒ่าแห่งเขาใหญ่
*** ส่งเรื่องท่องเที่ยวของคุณ + ภาพประกอบ มาออนไลน์ ให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ได้ที่ Email :
nukul@sanookonline.co.th