แสงแรกแห่งปี 2003 ที่ภูชี้ฟ้า

แสงแรกแห่งปี 2003 ที่ภูชี้ฟ้า

แสงแรกแห่งปี 2003 ที่ภูชี้ฟ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

เรื่อง และภาพ โดย บอยสบาย กับ กล้องดิจิตอลคู่ใจ
ผมบอย สบาย และเพื่อน      เทศกาลปีใหม่ มาเยือน ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็เต็มไปด้วยผู้คน ที่ไหนมีชื่อเสียงย่อม มีคนไปกันมาก เป็นเรื่องปกติ ภูชี้ฟ้า สถานที่สวย และหนาว เป็นที่เลือกที่เหมาะมาก กับพวกเรา ในปีใหม่นี้ ที่จะสัมผัสกับ แสงแรกแห่งปี2003.. กับการเดินทาง ที่ไม่ธรรมดา 
เริ่มการเดินทางที่แม่สาย จากที่พักของพวกเรา ขณะนั้นเป็นเวลา 2ทุ่มใน วันสุดท้าย ของปี2002 เป้าหมายคือภูชี้ฟ้า แต่การเดินทางยังไกลนัก รถก็ไม่มี สิ่งที่ทำคือ  โบกรถไป 
ไนท์บาซ่าเชียงราย เราพบรถใจดีคันหนึ่ง มาส่งเราที่ ไนท์บาซ่าเชียงราย พวกเราจึงนั่งพัก หาอาหารกินกัน ก่อนที่จะ ออกเดินทางต่อ โดยลังเล อยู่ว่า จะอยู่Countdown ที่ไหนกันดี ... เดินทางกันต่อเลย ดีกว่า (อีกไม่นาน จะพ้นปี 2002 แล้ว ก่อนหน้า ปีใหม่เพียง ครึ่งชั่วโมง เราก็ได้รถใจดีอีกคัน กำลังจะไป อ.เทิง)

โบกรถกันตลอดเส้นทาง    

ปล่อยโคมลอย ในเวลาเริ่มต้นปี 2003
  ในที่สุดก็ได้ Countdown และได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ ปล่อยโคมลอย... เพื่อนชาวมาเลเซีย บอกเราว่า การปล่อยโคมลอย มีอยู่ในประวัติศาสตร์จีนกว่า 5,000 ปี ยาวนานมาก จนถึงปัจจุบันในแถบ ภาคเหนือของไทย ก็พบเห็นได้ และเราก็ได้มีโอกาส ร่วมเหตุการณ์นี้ หลังจากเจ้าของรถที่เราโบกมา พาเรามาสัมผัสบรรยากาศ นับเป็นโอกาส นอกเหนือ ความตั้งใจ ขอบคุณมากครับ ชาวเชียงรายใจดีจัง
ร่วมฉลองรับปีใหม่ รถโบกของเรา คันนี้ เป็นที่ประทับใจไม่ลืมจริงๆ เขาตัดสินใจ ที่จะพาเราขึ้น ภูชี้ฟ้า ในคืนนั้น จากที่จะพาเราไปแค่อำเภอ เทิง พวกเรานั่งบนกะบะหลังรถ กับบรรยากาศ ที่เย็นเอามากๆ ต้องขอขอบคุณมากๆ สำหรับรถ และผ้าห่มอุ่นๆ  หนาวมาก...พิงไฟก่อนนะ
รถยังขึ้นไม่ได้ แต่คิวยาวแล้ว เราไปถึงภูชี้ฟ้ากัน ตี3 ได้ อากาศเย็นมาก มีรถหลายคันก่อกองไฟพิงกัน แก้หนาว เราก็เข้าไปอาศัยกับเขาด้วย ตอนนี้ ขบวนนักท่องเที่ยวเริ่มทยอย ขึ้นภูกันแล้ว บริเวณ จุดบริการนักท่องเที่ยว เต็มไปด้วยรถที่ ต่อแถวรอขึ้นภู แต่เจ้าหน้าที่จะเปิดให้ขึ้นก็ ประมาณ ตี4 ครึ่ง รถมอเตอร์ไซค์ รับจ้างก็วิ่งส่งคนให้วุ่นตั้งแต่เช้า ทะเลหมอกกับแสงรุ่งอรุณปีใหม่
แสงแรกแห่งปีที่ภูชี้ฟ้า พอประตูเปิด รถก็วิ่งขึ้นกันเป็นขบวนยาว ตลอดทางขึ้นเขาอันตรายมาก รถชนกันไปหลายคัน (ชนต่อหน้าผมเลย) จากการจอดรถติดบนทางขึ้นเขา เพราะด้านบน ที่จอดรถไม่พอ  และรถหลายคันขึ้นไม่ไหวแรงไม่พอ แต่เราขึ้นมาได้อย่าง ปลอดภัย...ขอบคุณพระเจ้า ถ่ายรูปโพลาลอยด์ ได้รูปทันที
สวยมากๆ กับทะเลหมอก
คนมากมายจริงๆ บรรยากาศตอนเช้า คนเยอะมากๆ ต้องยืนตาก ลมกันใน อุณหภูมิ 5 องศา หนาวมาก 
ดูแล้วอบอุ่นมาก คุ้มค่า กับการรอคอย เมื่อแสงตะวัน โพล่พ้นขอบฟ้า  คนนับหมื่น บนภูชี้ฟ้า  ก็ส่งเสียง ยินดีกัน อื่ออึงไปหมด สวยมากกับแสง แรกแห่งปี 2003 
แสงแรกแห่งปี ที่คุ้มค่าการรอคอย ความหนาวเย็น กับแสงอันอบอุ่น บนยอดภู พาให้บรรยากาศผู้คน นับหมื่น ที่มองไป มีสภาพเหมือน กำแพงเมืองจีนที่สร้างเป็นกำแพงมนุษย์ ทอดยาวไปตามแนวเขา เป็นเสน่ห์ ที่ดูดีไปทุกมุมจริง ได้ยินจากเจ้าหน้าที่ว่า หลายวันที่ผ่านมา ไม่สามารถมองเห็น พระอาทิตย์ขึ้นได้ มีแต่หมอกบังเต็มไปหมด  อยากไปนั่งตรงนั้นบ้าง
บรรยากาศบนยอดภูชี้ฟ้า นับว่า 1 ม.ค. 2003 เป็นวันที่พิเศษสุดของพวกเราจริงๆ ที่ได้เห็นภาพสวยงามแบบนี้ ด้วยตาตนเอง ดาวยามค่ำคืนที่ภูชี้ฟ้าก็สวยงามมาก เหมือนอยู่ใกล้ดวงดาวจริงๆ เรามองเห็นเงาของขุนเขา ทะเลหมอก และดาว มันเกินคำบรรยายจริงๆ ไม่แปลกใจอีกแล้วว่า ทำไม่หลายคน มุ่งมาที่ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย....สวยงามมากจริงๆ

บอย สบาย

ที่จอดรถคึกคัก วุ่นวาย
 

จุดบริการนักท่องเที่ยว วนอุทยานภูชี้ฟ้า (ยังสร้างไม่เสร็จดี)

 

ป.ล. ขากลับ พวกเราก็โบกรถกลับอีก ปรากฏว่า พบรถ คันที่ไม่ได้รับเราในคืนที่แล้ว แต่ตัดสินใจรับเราและพาเรา มาส่งถึงแม่สายเลย ต้องขอ ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ สำหรับรถทุกคัน คนเชียงรายที่ใจดีทุกคน (เพราะการจะจอดรถรับใครกลางทางเป็นเรื่องค่อนข้างอันตรายมาก) และขณะที่ผมเขียนเรื่องอยู่นี้ ผมก็ยังหารถกลับกรุงเทพฯไม่ได้เลย ยังติดอยู่ที่แม่สายอยู่เลย เสาร์ อาทิตย์นี้ คงกลับถึงกรุงเทพฯ หวังเช่นนั้น

บอย สบาย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook