ที่สุดแห่งข้าวสาร
โดย ผู้จัดการออนไลน์
22 ตุลาคม 2547
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
บ้านไม้หลังเก่าแก่สุดที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารต้มยำกุ้ง |
สิบนิ้วน้อยๆของหนุ่มลูกทุ่ง
ขอกล่าวสวัสดีมิตรรักนักอ่านพร้อมๆกับคอลัมน์
ลุยกรุง
คอลัมน์ใหม่ที่จะมาบอกกล่าวเล่าตามประสาซื่อถึงเรื่องราวต่างๆของเมืองกรุงฯ
(โดยเฉพาะเรื่องของการเที่ยว)
ในอารมณ์แบบลูกทุ่ง
ผสมผสานมุขที่อาจจะฝืดบ้าง
ฟายบ้าง ในบางครั้ง
แต่ว่าก็เป็นมุขที่จริงใจ
และเท่าที่สังเกตเห็นมาก็คือไอ้เจ้ามุขพวกนี้
สาวๆย่านราตรีบันเทิงชอบกันนักแล
โดยพวกหล่อนบอกว่ามันฟายดี
ไหนๆก็พูดมาถึงย่านราตรีบันเทิงในเมืองกรุงฯที่บ้านฉันไม่มีแล้ว
ก็อยากจะเล่าต่อว่าเดี๋ยวนี้ยามค่ำๆหลังเลิกงานฉันมักจะเดินไปดูสีสันยามราตรี
ที่ถนนข้าวสารเป็นประจำ
เหตุผลที่ไปเดินบ่อยก็เพราะว่า
ข้อแรกถนนข้าวสารอยู่ใกล้ที่ทำงาน
ข้อ 2
ที่ทำงานอยู่ใกล้ถนนข้าวสาร
ข้อที่ 3
ถนนข้าวสารหลังการปรับปรุงใหม่
น่าเที่ยว
น่าเดินขึ้นเยอะ ข้อที่ 4
เป็นผลต่อเนื่องมาจากข้อ
3
และเป็นข้อที่สำคัญที่สุดสำหรับฉัน
ก็คือเมื่อถนนข้าวสารปรับปรุงใหม่ผลที่ตามมาก็ทำให้ในแต่ละคืนมีคนมา
ตระเวนราตรีกันคึกคัก
โดยเฉพาะสาวๆนี่มากันตรึมเลย!!! |
และเมื่อไปเดินเล่นบ่อยๆ
ฉันก็เลยได้ข้อสังเกตเกี่ยวกับความเป็นที่สุด
9
เรื่องของถนนข้าวสารมาฝากบรรดามิตรรักนักอ่าน
แบบสบายๆไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไร
เอาหล่ะ โม้มาเยอะแล้ว
ฉันขอเริ่มที่สุดในข้าวสารด้วยเรื่อง
บ้านเก่าที่สุด(1)
ถ้าเป็นบ้านไม้ก็บ้านไม้เก่าที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านต้มยำกุ้ง
บ้านหลังนี้เป็นบ้านขุนนางเก่า
ส่วนบ้านปูนเก่าสุดก็บ้านที่ทำเป็นร้าน
Side walk บ้านทั้ง 2
หลังมีอายุไล่เลี่ยกันคือประมาณเกือบ
100 ปี เห็นจะได้
อ้อ!!!
ฉันเกือบลืมบ้านตึกเก่าอีกหลัง
ที่อายุความเก่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า
2 บ้านแรกก็คือ
บ้านเก่าตระกูลไกรจิตติ
ย่านซันเซ็ทสตรีท
ซึ่งถือเป็นย่านใหม่ที่สุด(2)ในข้าวสาร
ที่นอกจากจะมาแรงแล้ว
บรรยากาศที่นี่ก็น่านั่งด้วยกลุ่มอาคารเก่าโทนสีเหลืองสดใส
โดยเพื่อนฉันที่เป็นสถาปนึก
เอ้ย!!!
สถาปนิกบอกว่าตึกใหญ่ที่ย่านซันเซ็ทเขาเรียกกันว่าตึกสไตล์อาร์ตนูโว
ฉันก็รับฟังด้วยความงงๆ
เพราะไม่รู้จริงว่าอาร์ตนูโวนี่เป็นยังไง
รู้แต่ว่าวงนูโวนี่แก่แล้วแต่ก็ยังพยายาม
กลับมาร้องเพลงอีก
ส่วนอาคารที่ใหญ่ที่สุด(3)
ก็คงจะไม่มีที่ไหนเกินตึกบัดดี้ลอดจ์
ที่ชั้นล่างเป็นพลาซ่า
ชั้น 2 เป็นบัดดี้เบียร์
ส่วนชั้นบนเป็นโรงแรมที่ว่ากันว่าหรูที่สุดและแพงที่สุดเอาไว้รับพวกลูกค้าต่างชาติมีตังค์
|
ผัดไทรถเข็นเมนูยอดนิยมที่หากินได้ทั่วไปบนถนนข้าวสาร
|
สำหรับเรื่องที่สุดลำดับต่อไป
ต้องรอให้วิกาลดึกซักหน่อย(
5 ทุ่มขึ้นไป)
แล้วค่อยย่างกรายเข้าไปในนั้น
แล้วเราๆท่านๆก็จะรู้ว่า
ซูซี่ผับ (Susie pub)
นั้นเป็นสถานที่ที่มีคนเยอะที่สุดบนถนนข้าวสาร(4)
เยอะขนาดที่แทบจะไม่มีที่ยืน
แต่ถ้าถามว่าในเมื่อคนเยอะขนาดนี้แล้วทำไมคนถึงนิยมไปกันอีก
เรื่องนี่ฉันก็ตอบไม่ได้
แต่จำได้ว่าตอนที่ซูซี่เปิดใหม่ๆ
ลูกค้า 80 % เป็นชาวต่างชาติ
แต่เดี๋ยวนี้เหตุการณ์กลับตาลปัตรคนไทยเข้าไปเที่ยวซูซี่กันเกือบ
90 % ทีเดียว
ฉันขอสลับอารมณ์มาที่เรื่อง
อาหารยอดนิยมที่สุด(5)
ในช่วงนี้และช่วงเกือบปีที่ผ่านมา
คงไม่มีเมไหนฮอตฮิตติดลมบนเท่ากับผัดไทรถเข็น
ราคาประหยัด 10 บาท 15 บาท
จะนั่งกิน
เดินกินก็อิ่มทั้งนั้น
ส่วนเมนูที่รองลงมาก็เห็นจะเป็นข้าวไข่เจียว
10 บาท
นี่ก็กินง่ายและอิ่มท้องไม่แพ้กัน
เวลาฉันไปเดินถนนข้าวสารแล้วเกิดหิวขึ้นมาคราใด
ผัดไทนับเป็นเมนูแรกสุดที่ถูกถามหา
ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นการกินไปเดินดูสาวไป
และเมื่อเดินไปเดินมาหลายๆครั้ง
ฉันก็สังเกตว่าที่นี่มีสาวฝรั่งบึบบับเยอะมั่กมั่ก
เอ้ย!!! ไม่ใช่
ที่สังเกตเห็นก็คือตลอด 2
ข้างทางของถนนข้าวสารและในตรอกซอกซอยมีเอเย่นต์ทัวร์เยอะมาก
ครั้นสอบถามไปทางผู้ที่เกี่ยวข้องก็ถึงได้รู้ว่าที่นี่มีเอเย่นต์ทัวร์เยอะที่สุดในเมืองไทย(6)
คือช่วงถนนประมาณ 300
กว่าเมตร
มีเอเย่นต์ทัวร์เกือบ 500
เจ้าเห็นจะได้
แฟชั่นช่วงนี้ที่มาแรงเห็นจะไม่มีอะไรเกินแฟชั่นทำผม |
นอกจากจะมีเอเย่นทัวร์เยอะสุดแล้ว
บน 2
ฟากถนนข้าวสารหากใช้สายตามองซ้ายมองขวาสังเกตดีๆ
ก็จะพบว่าแฟชั่นยอดฮิตที่สุด(7)
ก็จะหนีไม่พ้นแฟชั่นทำผม
ซึ่งจะพบเห็นได้ทั่วไป
มีทั้งถักผม ต่อผม ทำเดรด
ล็อก
ให้บริการทั้งคนไทยและเทศ
ส่วนแฟชั่นที่เคยฮิตแต่ตอนนี้เสื่อมความนิยม
แต่ว่าก็ยังมีให้เห็นอยู่ประปรายก็คือแฟชั่นสัก
ที่น่าแปลกว่าสาวๆนิยมไปใช้บริการมากกว่าผู้ชาย
ทีนี่ก็มาถึงเรื่องที่สุดของถนนข้าวสารที่ไม่ค่อยมีคนรู้ก็คือ
ช่วงกลางวันถนนข้าวสารถือเป็นแหล่งขายเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย(8)
และก็เปิดขายมานานแล้วด้วย
แต่หากว่าเห็นร้านขายเครื่องเงินเหล่านั้นเป็นร้านเล็กๆ
ก็อย่าได้แปลกใจไป
เพราะส่วนมากเขาเน้นขายส่งโดยมีโรงงานอยู่ต่างจังหวัด
หากใครไม่เชื่อก็ลองไปเดินดูช่วงกลางวันได้ |
เหตุการณ์ดำเนินมาถึงความเป็นที่สุดอันดับที่
9
ซึ่งฉันเลือกเอาเรื่องราวที่ข้าวสารเป็นถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองไทย
เป็นการปิดท้าย
เหตุผลนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก
เพราะในไกด์บุ๊คต่างชาติไม่ว่าเล่มไหนๆต่างก็บรรจุถนนข้าวสารไว้ให้เป็นศูนย์กลางแห่งย่านต่างชาติในเมืองไทย
เมื่อมาถึงเมืองไทยควรตั้งต้นจากข้าวสารก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังที่ต่างๆ
สำหรับ 9
เรื่องที่สุดของข้าวสารนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสีสันในถนนข้าวสารที่ยังคงมีเรื่องราวอีกมากมายให้เล่าขาน
ส่วนที่ฉันคัดเลือกมาแค่ 9
เรื่อง
ทั้งๆที่ยังมีเรื่องราวของความเป็นที่สุดมากกว่านี้
ก็ไม่มีอะไรมากเพียงแต่ว่าตามประสาคนลูกทุ่ง
ถือเคล็ดถือโชค เลข 9
ถือเป็นเลขสวยที่หวังว่าจะช่วยให้คอลัมน์นี้ก้าวหน้าตามไปด้วย
ยังไงๆใครที่ไปเดินข้าวสารหากเจออะไรเป็นที่สุดก็เก็บมาบอกเล่ากันได้
เพราะตอนนี้ ฉันพยายามหา สาวงามที่สุดแห่งข้าวสารแต่ก็จนใจที่ยังหาไม่ได้ซักที
เหตุที่หาไม่ได้นี่ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ
แต่ว่าเวลาไปเดินถนนข้าวสารทีไรฉันเจอสาวงามเยอะไปโม้ด
เลยไม่รู้ว่าจะยกตำแหน่งสาวสวยที่ซู๊ดแห่งข้าวสารให้กับใครดี
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * *
ย้อนอดีตถนนข้าวสาร
ถนนข้าวสาร
เดิมเป็นย่านเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่
6
เป็นตรอกที่ขายข้าวสารจริง
ๆ
นอกจากนี้ก็ยังขายถ่านหุงข้าว
ของชำ โดยถัดออกไป 1 ถนน
จะเป็นคลองที่ต่อมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา
ซึ่งเรือที่ส่งข้าวสารต่าง
ๆ จะผ่านมาในคลอง
แล้วก็เอาข้าวสารขึ้นเพื่อจะนำมาขายที่ร้านแถวถนนข้าวสาร
ซึ่งพอมีร้านขายข้าวสารเยอะ
จึงเรียกว่าตรอกข้าวสาร (เพราะขนาดเล็ก)
ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นถนนข้าวสาร
หลังจากนั้นก็เริ่มเกิดชุมชนขึ้น
และขยายไปเรื่อยๆ
พอเป็นชุมชน
ก็เริ่มมีร้านขายของมากขึ้น
เช่นร้านขายของเล่น
อย่างลูกข่าง
ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ
และประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา
เริ่มมีฝรั่งเข้ามามาถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด
โดยมีทีมงานกองถ่ายมาอยู่กันจำนวมาก
พวกนั้นก็เริ่มมาเช่าที่
เช่าเกสเฮาส์
ซึ่งตอนนั้นยังไม่มี
ก็ต้องเช่าจากบ้านที่อยู่แถวนั้นซึ่งใช้แบ่งเช่า
พอมีคนมาเริ่มมาจุดชนวน
หลังๆ
ก็เริ่มมีคนเข้ามาเรื่อย ๆ
จนกลายเป็นศูนย์รวมของพวกแบ็คแพ็กเกอร์ที่มาเที่ยวเมืองไทย
ก่อนที่จะมาปรับเปลี่ยนรูปแบบอีกทีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลายเป็นย่านบันเทิงยามราตรีที่สำคัญของกรุงเทพฯ
หากใครสนใจอยากรู้แหล่งบันเทิง
สถานที่ท่องเที่ยว
และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับถนนข้าวสารเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร
0-2629-5170 |