10 ร้านอาหารที่จองโต๊ะยากที่สุดในโลก บางร้านมีเงินอย่างเดียวก็จองไม่ได้
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
เปิดโผ 10 ร้านอาหารที่จองโต๊ะยากที่สุดในโลก มีตั้งแต่ร้านดังที่ต้องรอคิวเป็นปี หรือเขียนโปสการ์ดถึงได้กิน
ทุกวันนี้ การจองโต๊ะร้านอาหารแทบไม่ต่างจากการแข่งขันกีฬา บางคนต้องรอคิวเป็นปี ขณะที่บางคนถึงขั้นยอมจ่ายเงินหลายพันดอลลาร์เพื่อซื้อต่อสิทธิ์การจองจากผู้อื่น
ไม่แปลกเลยที่ความต้องการสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟซึ่งแทบจองไม่ได้ กำลังพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ตามรายงานล่าสุดของบริษัทเทคโนโลยีด้านการบริการ Dojo
รายงานดังกล่าวซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากแพลตฟอร์มซื้อขายสิทธิ์การจองโต๊ะตลอด 90 วัน ทำการจัดอันดับร้านอาหารที่จองยากที่สุดทั้งในระดับโลกและในสหรัฐ โดยใช้เกณฑ์เวลาในการรอคิว ความต้องการ และความเอ็กซ์คลูซีฟเป็นตัวชี้วัด
ผลปรากฏว่า The Lost Kitchen ที่เมืองฟรีดอม รัฐเมน คว้าอันดับ 1 ไปครอง กลายเป็นร้านที่จองโต๊ะได้ยากที่สุดในโลก
ผู้ที่อยากลิ้มรสอาหารที่นี่ ต้องส่งโปสการ์ดเขียนด้วยลายมือไปทางไปรษณีย์ จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาให้เข้าไปทานอาหารได้
ถัดจาก The Lost Kitchen คือร้านเก่าแก่ระดับตำนานของนิวยอร์ก Rao’s ที่มีอายุยาวนานกว่า 130 ปี ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ซอสแดงแห่งย่านอีสต์ฮาร์เล็มนี้ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 2 ของโลกในฐานะร้านที่จองโต๊ะยากที่สุด
Rao’s เปิดมาตั้งแต่ปี 1896 และมีโต๊ะเพียง 10 โต๊ะเท่านั้น โดยไม่มีโต๊ะใดเปิดให้บุคคลทั่วไปจองได้เลย เนื่องจากลูกค้าขาประจำจะ “ถือครอง” โต๊ะของตนเอง และสามารถเชิญแขกได้ตามใจ
สิทธิ์การนั่งโต๊ะนี้เปรียบเสมือน “สมาชิกภาพ” ที่ถูกสืบทอดต่อกันเหมือนมรดกในครอบครัว สำหรับคนนอกแล้ว การได้ทานที่นี่ไม่ใช่เรื่องของการโทรจองล่วงหน้า แต่ขึ้นอยู่กับว่า “คุณรู้จักใคร” และแม้จะได้ไปเยือน ก็ถือว่าโชคดีแล้วหากมีโอกาสถูกเชิญอีกครั้ง
ข้ามฝั่งไปยุโรป ประเทศสเปนก็ครองเวทีร้านอาหารระดับโลกด้วยบรรดาร้านไฟน์ไดน์นิ่งชื่อดังมากมาย ที่บาร์เซโลนา ร้าน Disfrutar ซึ่งคว้ารางวัล World’s Best Restaurant เมื่อปีที่แล้ว ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปีเต็มถึงจะได้โต๊ะ
ที่เมืองกิโรนา ประเทศสเปน ร้าน El Celler de Can Roca ดึงดูดนักชิมจากทั่วโลกด้วยประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบอบอุ่นจากครอบครัวเจ้าของร้าน พร้อมคิวรออันยาวนานถึง 330 วัน
El Celler de Can Roca
ขณะที่ Mugaritz ร้านอาหารเชิงทดลองแห่งแคว้นบาสก์ ติดอันดับที่ 11 เสริมภาพลักษณ์ให้สเปนในฐานะประเทศที่ผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับรากเหง้าวัฒนธรรมการกินได้อย่างลงตัว
ด้านยุโรปยังมีร้านดังติดอันดับสูงอย่าง Noma ของเดนมาร์ก ซึ่งแม้กำลังจะปิดตัวลง แต่การจองโต๊ะก็ยังมีมูลค่าซื้อขายสิทธิ์เฉลี่ยสูงถึง 1,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 42,000 บาท)
ที่เนเธอร์แลนด์ ร้าน De Librije ผสานแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับมาตรฐานระดับ 3 ดาวมิชลิน ขณะที่ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และอิตาลี ก็ยังคงครองความเป็นแลนด์มาร์กด้านอาหารที่ท้าทายทั้งความอดทนและความพยายามของนักชิม
สำหรับผู้ที่อยากลองเสี่ยงดวงในการจองร้านอาหารเหล่านี้ Food & Wine แนะนำว่ามีทางเลือกหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลตรงถึงร้าน สอบถามนโยบายการรับลูกค้าแบบวอล์กอิน หรือวางแผนจองล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ ในช่วงนอกฤดูกาล
และใช่ สำหรับบางร้าน คุณอาจต้องงัดความคิดสร้างสรรค์ออกมา เขียนโปสการ์ดด้วยถ้อยคำจากใจจริง
ส่วนใครที่กระเป๋าหนัก ตลาดซื้อขายสิทธิ์การจองยังคงเป็นทางเลือกที่ใช้ได้ แต่มีราคาสูง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มที่ซื้อเชื่อถือได้ และศึกษากฎหมายท้องถิ่นก่อนตัดสินใจซื้อ
10 ร้านอาหารที่จองโต๊ะยากที่สุดในโลก
-
The Lost Kitchen เมน, สหรัฐอเมริกา
-
Rao’s นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
-
Disfrutar บาร์เซโลนา, สเปน
-
House of Prime Rib ซานฟรานซิสโก, สหรัฐอเมริกา
-
El Celler de Can Roca กิโรนา, สเปน
-
The Bank Tavern บริสตอล, อังกฤษ
-
Pujol เม็กซิโกซิตี, เม็กซิโก
-
Damon Baehrel นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
-
Noma โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก
-
La Mercerie มาร์กเซย, ฝรั่งเศส
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี.jpg?ip/crop/w350h197/q80/jpg)



