พาวเวอร์แบงค์แบบไหน ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน อัปเดตล่าสุด 2568

พาวเวอร์แบงค์แบบไหน ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน อัปเดตล่าสุด 2568

พาวเวอร์แบงค์แบบไหน ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน อัปเดตล่าสุด 2568
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเดินทางด้วยเครื่องบินในปัจจุบันสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็มีข้อกำหนดบางอย่างที่เราต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่อง พาวเวอร์แบงค์ หรือแบตเตอรี่สำรอง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนพกติดตัวตลอดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่าพาวเวอร์แบงค์บางชนิดก็ ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน Sanook จะมาอัปเดตข้อมูลล่าสุดปี 2568 เพื่อให้ทุกคนเดินทางได้อย่างสบายใจและปลอดภัย

ทำไมพาวเวอร์แบงค์ถึงมีข้อจำกัดบนเครื่องบิน?

พาวเวอร์แบงค์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งอาจเกิดความร้อนสูงจนลุกไหม้ได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขณะอยู่บนเครื่องบิน การแก้ไขสถานการณ์อาจทำได้ยาก ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารทุกคน

พาวเวอร์แบงค์แบบไหนที่ "ห้าม" นำขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด?

เพื่อให้คุณเข้าใจง่ายขึ้น เราได้สรุปประเภทของพาวเวอร์แบงค์ที่ ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ดังนี้

1. ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่องทุกกรณี!

นี่คือกฎเหล็กที่คุณต้องจำให้ขึ้นใจ! พาวเวอร์แบงค์ทุกก้อนจะต้องพกติดตัวขึ้นเครื่องบินเท่านั้น ไม่ว่าจะใส่ในกระเป๋าสัมภาระพกพา (Carry-on) หรือกระเป๋าสะพายข้างตัว ก็ต้องนำขึ้นห้องโดยสารเสมอ ห้ามนำใส่กระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเด็ดขาด หากฝ่าฝืนอาจถูกยึดหรือต้องทิ้งไป

2. พาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุเกิน 160 Wh (วัตต์-ชั่วโมง)

ความจุของพาวเวอร์แบงค์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการพิจารณาว่านำขึ้นเครื่องได้หรือไม่ โดยสายการบินส่วนใหญ่จะใช้หน่วย Wh (วัตต์-ชั่วโมง) ในการกำหนด หากพาวเวอร์แบงค์ของคุณมีหน่วยเป็น mAh (มิลลิแอมป์-ชั่วโมง) สามารถแปลงค่าโดยประมาณได้ดังนี้ (โดยประมาณ 100 Wh = 20,000 mAh และ 160 Wh = 32,000 mAh ที่แรงดันไฟฟ้ามาตรฐาน 5V):

  • พาวเวอร์แบงค์ความจุไม่เกิน 100 Wh (ประมาณ 20,000 mAh): สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ไม่จำกัดจำนวน (แต่บางสายการบินอาจมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนสูงสุด เช่น เที่ยวบินภายในประเทศจีนอาจจำกัด 20 ชิ้นต่อคน)
  • พาวเวอร์แบงค์ความจุเกิน 100 Wh แต่ไม่เกิน 160 Wh (ประมาณ 20,000 – 32,000 mAh): สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ไม่เกิน 2 ชิ้นต่อคน และบางสายการบินอาจต้องแจ้งเจ้าหน้าที่หรือขออนุญาตก่อนเดินทาง
  • พาวเวอร์แบงค์ความจุเกิน 160 Wh (ประมาณ 32,000 mAh ขึ้นไป): ห้ามนำขึ้นเครื่องบินในทุกกรณี! ไม่ว่าจะพกติดตัวหรือโหลดใต้ท้องเครื่องก็ไม่ได้รับอนุญาต

วิธีดูค่า Wh บนพาวเวอร์แบงค์: มักจะระบุไว้บนฉลากของพาวเวอร์แบงค์ หากไม่พบ ให้ดูค่า mAh และค่า Voltage (V) แล้วนำมาคำนวณ: Wh = (mAh x V) / 1000

3. สำหรับเที่ยวบินไปจีน: พาวเวอร์แบงค์ที่ไม่มีเครื่องหมาย “CCC”

ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป สำหรับ เที่ยวบินภายในประเทศจีน และ เที่ยวบินที่เดินทางเข้า-ออกประเทศจีน พาวเวอร์แบงค์ทุกก้อนที่นำขึ้นเครื่องจะต้อง มีเครื่องหมาย “CCC” (China Compulsory Certification) ที่มองเห็นชัดเจน ไม่ซีดจาง หรือหลุดลอก หากไม่มีเครื่องหมายดังกล่าว อาจถูกยึดที่สนามบินทันที

4. พาวเวอร์แบงค์ที่ชำรุดเสียหาย

พาวเวอร์แบงค์ที่มีร่องรอยความเสียหาย แตก บวม บุบ หรือมีกลิ่นผิดปกติ รวมถึงรอยไหม้ต่างๆ ห้ามนำขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายและเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ ควรทิ้งและซื้อใหม่เพื่อความปลอดภัย

ข้อควรรู้อื่นๆ เพื่อการเดินทางที่ราบรื่น

  • ห้ามชาร์จหรือใช้งานพาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบิน: สายการบินหลายแห่งมีข้อกำหนดห้ามใช้หรือชาร์จพาวเวอร์แบงค์ขณะอยู่บนเครื่องบิน ควรปิดการทำงานและถอดสายชาร์จออกตลอดการเดินทาง
  • ตรวจสอบกฎสายการบินของคุณ: กฎระเบียบอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสายการบินและประเทศปลายทาง ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อกำหนดของสายการบินที่คุณจะเดินทางด้วย ก่อนวันเดินทางเสมอ
  • เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบ: เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ ควรเก็บใบเสร็จหรือกล่องบรรจุภัณฑ์ของพาวเวอร์แบงค์ไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่ต้องการตรวจสอบข้อมูลความจุ

การปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างราบรื่น แต่ยังช่วยให้ผู้โดยสารท่านอื่นๆ ปลอดภัยด้วย ขอให้คุณสนุกกับการเดินทางนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล