ทำไมต้องปรับพนักพิงบนเครื่องบินให้ตั้งตรงระหว่างการขึ้นลง

ทำไมต้องปรับพนักพิงบนเครื่องบินให้ตั้งตรงระหว่างการขึ้นลง

ทำไมต้องปรับพนักพิงบนเครื่องบินให้ตั้งตรงระหว่างการขึ้นลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมลูกเรือบนเครื่องบินถึงขอให้เราปรับพนักเก้าอี้ให้ตั้งตรงทุกครั้งที่เครื่องบินขึ้นลง จริงๆ แล้วมีเหตุผลหลักๆ ด้านความปลอดภัยอยู่ 3 ประการ ดังนี้

1. เพื่อความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน

หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น เครื่องบินตกหรือเบรกกระทันหัน การปรับพนักเก้าอี้ให้ตรงจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ศีรษะ คอ และกระดูกสันหลัง ท่าทางการนั่งตัวตรงช่วยกระจายแรงกระแทกไปทั่วร่างกาย แทนที่จะรับแรงทั้งหมดที่ศีรษะและคอ เมื่อพนักเก้าอี้ตั้งตรง เก้าอี้จะถูกล็อคอยู่กับที่ สามารถรับแรงกระแทกได้มั่นคงที่สุด หากเกิดเหตุฉุกเฉินและมีแรงกระแทก จู่ๆ เก้าอี้ที่เอนอาจดีดตัวไปข้างหน้า ทำให้ผู้โดยสารกระเด็นไปด้วย ในทางกลับกัน ขณะเครื่องบินเร่งความเร็ว เก้าอี้ที่เอนอาจกระแทกไปข้างหลัง ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังได้รับอันตรายถึงเข่าได้"

2. เพื่อการอพยพฉุกเฉิน

ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินและจำเป็นต้องอพยพผู้โดยสาร การปรับเบาะตั้งตรงยังช่วยให้ทางเดินโล่งสะดวกที่สุด ซึ่งสำคัญมากในการอพยพฉุกเฉิน นั่นเป็นเหตุผลที่เบาะรอบทางออกฉุกเฉินมักจะเอนได้น้อยหรือเอนไม่ได้เลย เพราะในกรณีฉุกเฉิน ผู้โดยสารอาจลืมหรือไม่สามารถปรับเบาะกลับมาตั้งได้ทัน ถ้าเบาะเอนอยู่ มันอาจทำให้คนที่นั่งด้านหลังออกจากเครื่องช้าลงในกรณีฉุกเฉิน

3. เพื่อความปลอดภัยของลูกเรือ

ลูกเรือจำเป็นต้องเคลื่อนที่ไปมาในห้องโดยสารเพื่อดูแลผู้โดยสารและจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การปรับพนักเก้าอี้ให้ตรงช่วยให้ลูกเรือมีพื้นที่ทำงานมากขึ้น และสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวก

การปรับพนักเก้าอี้ให้ตรงในระหว่างการขึ้นลงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้โดยสารและลูกเรือ ถึงแม้ว่าอาจจะรู้สึกไม่สบายสบาย แต่การปฏิบัติตามคำแนะนำของลูกเรือจะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากการปรับเบาะให้ตั้งตรงระหว่างขึ้น-ลงแล้ว พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินยังแนะนำให้เก็บโต๊ะอาหาร ปิดล็อค เก็บสัมภาระใต้เบาะหน้าหรือช่องเก็บของด้านบน รวมถึงเก็บจอภาพบันเทิงภายในเครื่อง (แบบดึงออกจากที่วางแขนหรือติดกับเบาะแถวฉุกเฉิน) เหตุผลสำคัญก็เพื่อความปลอดภัยอีกเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook