แนวโน้มการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 จะเป็นอย่างไรได้บ้าง?
โควิด-19 ทำให้ชีวิตของชาวโลกปั่นป่วนวุ่นวายกันถ้วนหน้า วิถีชีวิตเดิม ๆ ที่เราเคยชินกันมาตลอดชีวิตก่อนที่จะมีโรคระบาด อาจจะไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป ยิ่งเมื่อใกล้ที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 แบบนี้ ก็ยิ่งเห็นเค้าลางว่าเราคงต้องใช้ชีวิตแบบที่คอยป้องกันโรคตลอดอยู่เวลาแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันก็กลายเป็นชีวิตประจำวัน เป็นชีวิตแบบนี้ตลอดไป
ก็คงไม่มีทางเลือกอื่น เราก็แค่ต้องพยายามปรับตัวให้ชินกับชีวิตแบบนี้ให้ได้เสียที นั่นหมายความว่าเราต้องปรับการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้าน ให้เอื้อกับการป้องกันโรค เรื่องการท่องเที่ยวก็เช่นกันที่จะเปลี่ยนไป หลังจากที่โควิด-19 ซาลง แนวโน้มการท่องเที่ยวของเรา ๆ จะเป็นอย่างไร
หลีกเลี่ยงสถานที่ที่แออัด
ทุกวันนี้ พอรู้ว่าสถานที่ไหนมีคนเยอะ หลายคนพร้อมที่จะปฏิเสธทันที แม้ว่าที่นั่นจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงก็ตาม เพราะต้องการจะหลีกเลี่ยงการเผชิญกับผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากกลัวการเกิดเป็นคลัสเตอร์การระบาด และเริ่มเคยชินกับการรักษาระยะห่างทางสังคม ที่สำคัญ การฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อและแพร่เชื้อได้เช่นกัน การหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัดจึงเป็นสิ่งที่เราสามารถเริ่มได้จากตัวเอง
คำนึงเรื่องการรักษามาตรการป้องกันโรค
หลายคนเริ่มติดนิสัยหาข้อมูลสถานที่ที่จะไปว่ามีมาตรการการป้องกันโรคอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะพวกร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก หรือสถานที่ที่มีผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน อย่างร้านอาหารหรือโรงแรมที่พัก อาจมีการเช็กว่าได้รับมาตรฐาน SHA หรือ SHA+ หรือมาตรฐานอื่นว่าเข้มงวดกับการรับนักท่องเที่ยวมากแค่ไหน เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่คนหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น อย่างน้อยก็พยายามสร้างความมั่นใจว่าไปที่นั้น ๆ แล้ว จะต้องไม่ติดโควิด-19 กลับมา
จองที่พักได้นาน เพราะเที่ยวไปทำงานไปได้
หลังจากที่เราได้ Work from Home กันมานานมาก เราก็ค้นพบว่าเราสามารถทำงานจากที่บ้านได้ดีโดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ และก็ยังเล็งเห็นอีกว่าเราก็น่าจะทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่บ้านเหมือนกัน! เทรนด์การทำงานระยะไกล หรือ Remote Work จึงเริ่มเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นหลังจากที่คนเริ่มเดินทางได้อย่างอิสระ ดังนั้น เราอาจจะทำเรื่องไม่เข้าออฟฟิศเพื่อไปเที่ยว แต่งานเสร็จ มีงานส่ง ตามตัวประชุมด่วนได้ และติดต่อลูกค้าได้ ก็พอแล้วนี่นา
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ข้อมูลของ Traveloka เว็บไซต์เพื่อการท่องเที่ยวชื่อดัง มีข้อมูลแนวโน้มการท่องเที่ยวหลังยุคโควิด-19 ระบุว่าตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเติบโตขึ้น เนื่องจากผู้คนตื่นตัวในการดูแลสุขภาพ บวกกับสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ด้วย คนจึงแสวงหาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกันมากขึ้น เราอาจจะได้เห็นหรือได้ลองเที่ยวแบบที่เน้นทำกิจกรรมที่ส่งเสริม บำบัด รักษา ฟื้นฟูสุขภาพ เช่น แพทย์แผนไทย อาหารสมุนไพร ฝึกสมาธิ แช่น้ำพุร้อนและอาบน้ำแร่ เป็นต้น
คำนึงเรื่องพลังงานและปัญหาสิ่งแวดล้อม
เรายังตระหนักดีว่าเรามีปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่การมาของโควิด-19 ทำให้การรณรงค์เรื่องขยะที่ทำมาก่อนหน้านี้พังหมด ร้านค้าต่าง ๆ งดรับแก้วที่ลูกค้านำมาเอง ขยะจากอาหารเดลิเวอรี่ และอื่น ๆ ดังนั้น อะไรที่เราพอจะช่วยได้ในช่วงที่ออกเที่ยว ก็มีแนวโน้มว่าคนจะพยายามทำ สอดคล้องกับที่ Expedia บริษัทท่องเที่ยวของอเมริกา ได้ทำการวิจัยพบว่านักท่องจำนวนไม่น้อยที่ยินดีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อให้การเดินทางของตนเองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Stacation ก็เป็นการเที่ยวที่ไม่เลว
ปกติช่วงวันหยุดยาวเป็นช่วงที่เรามักจะวางแผนเที่ยวกัน ไม่ไปต่างจังหวัดก็ไปต่างประเทศ แต่ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เราก็ไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้สะดวกนัก ถึงแม้ว่าเวลานี้จะเปิดประเทศแล้ว และไม่ได้จำกัดการเดินทาง ทว่าหลาย ๆ คนก็รู้สึกไม่อยากเสี่ยงจะเดินทางไปไหนไกล ๆ ยิ่งเคลื่อนย้ายมากก็ยิ่งเสี่ยงมาก แต่ด้วยความที่ใจอยากเที่ยว การเที่ยวแบบ Staycation จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย พักผ่อนใกล้บ้าน แต่ได้ฟีลเหมือนไปเที่ยวไกล ๆ
หันมาเที่ยวด้วยตัวเอง
มีการคาดการณ์ว่าหลังจากที่วิกฤติโควิด-19 ซาลง แม้ว่าจะเริ่มออกเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้น แต่เราก็ยังหวาดระแวงคนแปลกหน้า ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าเขามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ฉีดวัคซีนหรือยัง ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่แค่เรากลัวเขา เพราะเขาก็กลัวเราเหมือนกัน ดังนั้น การเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์จะลดลง และคนหันมาวางแผนเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น เน้นเที่ยวกับครอบครัว กลุ่มเพื่อนไม่กี่คน แค่เพื่อนสนิทหรือคนใกล้ตัว เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรค
เน้นท่องเที่ยวเมืองรอง
อย่างที่บอกว่าหลาย ๆ คนพร้อมจะปฏิเสธสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหากที่นั่นมีคนแออัด เพราะไม่อยากจะไปเบียดเสียด เพิ่มความเสี่ยงที่จะติดโรค คนจึงหาทางเลือกใหม่เป็นการไปเที่ยวเมืองรอง ที่พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้ต่างกันเท่าไรนัก หรือสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน ซึ่งอาจจะต้องทำการบ้านหาสถานที่แบบนี้กันมากขึ้น แต่ในประเทศไทยมีเมืองรองมีให้เลือกเที่ยวมากถึง 55 จังหวัดเลยทีเดียว
ท่องเที่ยวเสมือน ในจักรวาลเมทาเวิร์ส
เที่ยวจริงได้แล้ว แต่ทำไมถึงยังสรรหาเที่ยวทิพย์? กระแสมาจาก “เมทาเวิร์ส” (Metaverse) แนวคิดที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กให้ความสนใจ แต่ต้นเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลกรุงโซล ประกาศเดินหน้าแผนเมทาเวิร์สโซล (Metaverse Seoul) ผลักดันให้ “โซล” เมืองหลวงของเกาหลีใต้ กลายเป็นเมืองเมตาเวิร์สแห่งแรกของโลก แม้จะเป็นแผนมุ่งเน้นการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน แต่หลังจากนี้อาจจะกลายเป็นที่เที่ยวเสมือนให้เราลองหาประสบการณ์ก็ได้